Sahakrit S
BYD ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์ หลายภาคส่วน เพื่อจัดหาเทคโนโลยีที่ดี ที่เหมาะสม ที่คุ้มค่าที่สุด เพื่อนำมาใส่ในรถยนต์ของตนเอง ทำให้สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดี ให้กับลูกค้าของตนเองได้เป็นอย่างดี
BYD เตรียมเปิดตัวระบบช่วยเหลือการขับขี่ เพื่อแข่งขันกับระบบ Autopilot ของ Tesla
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา BYD กำลังพัฒนาและจะเปิดตัวระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงใหม่ (ADAS) ที่ใช้ชื่อว่า “ DNP ” โดยคันแรกที่จะนำระบบ DNP มาใส่ ก็คือ BYD Han EV 2023 รถยนต์ไฟฟ้าซีดาน ระดับพรีเมียม ซึ่งจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 4
เดิมที BYD เป็นบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการผลิตแบตเตอรี่ และประสบความสำเร็จในการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ ต่อมาได้ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจยานยนต์อย่างเต็มรูปแบบ และเข้าสู่เริ่มผลิตรถยนต์ในที่สุด
รถยนต์ไฟฟ้า BYD ทำการแข่งขันทางการตลาดแบบตัวต่อตัวกับ Tesla ในประเทศจีน โดยส่วนใหญ่ BYD มีราคาที่ดีกว่า อย่างเช่น BYD Seal มีราคาถูกกว่า Tesla Model 3 ถึง 15% และ BYD Song SUV มีราคาถูกกว่า Tesla Model Y และวันนี้ BYD ได้เปิดตัวเป็นผู้นำรถยนต์ไฟฟ้าอีกแบรนด์นึงกับ Tesla
Tesla นำเสนอเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ด้วยตนเอง 2 ระบบ คือ Full Self-Driving (FSD) และ Autopilot โดยระบบ FSD เป็นระบบช่วยการขับขี่อัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบ โดยมีระบบควบคุมตามสัญญาณไฟจราจรและป้ายหยุด ยังมีระบบ Autosteer (การประคองพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน) บนถนนในเมือง ระบบ FSD ยังไม่มีให้บริการในประเทศจีน แต่มีข่าวลือว่าจะมาเร็วๆนี้ ส่วนระบบ Autopilot เป็นระบบช่วยเหลือการขับขี่มาตรฐานของรถยนต์ Tesla ทุกรุ่น
ตามที่รายงาน ระบบ DNP ของ BYD จะมุ่งเน้นการใช้งานการขับขี่บนทางหลวงเป็นหลัก ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่า จะแข่งขันกับระบบ Autopilot ของ Tesla อย่างแน่นอน และในอนาคต BYD อาจเพิ่มเป็นคู่แข่งกับระบบ FSD ก็เป็นได้
ยังมีอีกหนึ่งแบรนด์ที่เปิดตัวระบบช่วยเหลือการขับขี่ไปไม่นาน ที่มีแนวทางคล้ายๆกับ Tesla ก็คือ แบรนด์ XPeng โดยพัฒนาระบบ XNGP สำหรับการขับขี่บนทางหลวง (คู่แข่งกับ Autopilot ของ Tesla และ DNP ของ BYD) และได้เปิดตัวระบบ NGP (Navigation Guided Pilot) ที่ทันสมัยที่สุดสำหรับการขับขี่ในเมือง ซึ่งเป็นคู่แข่งกับ FSD ของ Tesla
BYD Han EV, BYD Tang SUV และ BYD Song จะได้รับเทคโนโลยี DNP ด้วยเช่นกันในอนาคต
BYD ร่วมมือกับ บริษัท Horizon Robotics โดยทางบริษัทจัดหาชิปประมวลผลขับเคลื่อนอัตโนมัติ รุ่น Journey 5 ที่นำมาใส่ใน BYD Han 2023 และเป็นบริษัทผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับการสนับสนุนจาก Volkswagen สำหรับระบบการขับขี่อัตโนมัติในประเทศจีน กับลูกค้าอย่าง Li Auto, DiDi และ Pony.ai
ในปี 2022 Volkswagen ได้ลงทุนในการร่วมทุนกับ Horizon Robotics มากกว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7.77 หมื่นล้านบาท) ผ่านแผนกซอฟต์แวร์ของ CARIAD และถือหุ้น 60% ของธุรกิจ
BYD ยังร่วมมือกับ NVIDIA โดยจะใช้ SoC (systems-on-a-chip) รุ่นใหม่ล่าสุด NVIDIA DRIVE Orin™ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มประมวลผลที่ NVIDIA ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในรถยนต์โดยเฉพาะ เพื่อที่จะนำมาใช้ในรถยนต์ของพวกเขาในอนาคต
รอติดตามกันครับว่า เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ใหม่ของ BYD นั้นจะแข่งขันกับ Tesla ได้หรือไม่ ?
หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทางทีมงานจะรายงานให้ทราบต่อไปครับ
ที่มา – CarNewsChina
