Denza N9 เตรียมเปิดตัวทั่วโลกอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 มีนาคม หลังจากที่เริ่มเปิดพรีเซลล์ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่วงราคาจะอยู่ที่ 450,000 – 550,000 หยวน (2,250,000 – 2,750,000 บาท) Denza ยังเสนอสิทธิ์การซื้อแบบพิเศษสำหรับรุ่นแรกแบบลิมิเต็ด ลูกค้าสามารถจองสิทธิ์ได้โดยชำระเงินมัดจำ 10,000 บาท
Denza N9 เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 21 มีนาคมนี้ เริ่ม 2.25 ล้านบาท
Denza N9 มาพร้อมกระจังหน้าปิดแบบเรียบที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่น พร้อมไฟหน้าแบบแยกเลเยอร์ ด้านหน้าของรถมีช่องระบายอากาศทั้ง 2 ด้าน และกันชนล่างออกแบบให้มีระบบระบายอากาศ 2 ชั้น ช่วยเพิ่มมิติให้รถดูทรงพลังมากขึ้น ฝากระโปรงหน้ามีเส้นตัวถังที่เด่นชัด เพิ่มความดุดันให้กับดีไซน์โดยรวม โดยตัวรถมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Deep Ink Black, Snow Jade White, Smoke Crystal Gray และ Emerald Green
ขนาดตัวถังและระบบช่วยขับขี่
Denza N9 ใช้มือจับประตูแบบเรียบไปกับตัว ขนาดตัวรถอยู่ที่ 5,258 มม. (ยาว) x 2,030 มม. (กว้าง) x 1,830 มม. (สูง) และมีระยะฐานล้อยาว 3,125 มม. สำหรับระบบช่วยขับขี่ N9 มาพร้อมกับแพลตฟอร์มอัจฉริยะ “God’s Eye B” (DiPilot 300) ของ BYD ที่พัฒนาขึ้นเพื่อการขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง
ภายในห้องโดยสาร
ลูกค้าสามารถเลือกสีภายในได้สองโทน ได้แก่ Platinum Gray และ Cloud Brocade Rice ที่นั่งคนขับมาพร้อมฟังก์ชันเบาะปรับปีกด้านข้างช่วงขาแบบแอคทีฟที่เป็นครั้งแรกของโลก ขณะที่ที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้ามีระบบรองรับขาแบบปรับได้ 4 ทิศทาง เบาะแถวที่สองสามารถปรับไฟฟ้าได้ถึง 14 ทิศทาง และมาพร้อมกับโต๊ะเลื่อนแบบคู่ที่ล้ำหน้ากว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน รวมถึงระบบชาร์จไร้สาย 50W สองตำแหน่ง
ระบบขับเคลื่อนและสมรรถนะ
Denza N9 ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์ม e3 เทคโนโลยีควบคุมยานยนต์อัจฉริยะ และติดตั้งระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ Cloud-A ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบไฮบริด โดยใช้เครื่องยนต์ 2.0T ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ให้กำลังรวม 207 แรงม้า สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3 วินาที N9 มีระยะทางขับขี่แบบรวม ที่ 1,300 กม. (มาตรฐาน CLTC) และสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้เกิน 200 กม.
Denza เดิมเป็นบริษัทร่วมทุนแบบ 50:50 ระหว่าง BYD และ Mercedes-Benz แต่เนื่องจากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า ในปี 2021 Mercedes-Benz ได้ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 10% และในเดือนกันยายน 2024 ได้ถอนตัวออกจากการร่วมทุนโดยสมบูรณ์ ปัจจุบัน BYD เป็นผู้ถือหุ้นรายเดียวของแบรนด์ NEV ระดับไฮเอนด์นี้
ที่มา : Carnewschina