ใน

MG4 ใหม่ ทำยอดจองล่วงหน้าทะลุ 20,000 คัน พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในจีน 29 สิงหาคมนี้

แบรนด์ MG ได้ประกาศว่ารถยนต์รุ่นใหม่อย่าง MG4 มียอดจองล่วงหน้าทะลุ 20,000 คันแล้ว ทำให้กำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่เดิมวางแผนไว้ในเดือนกันยายน ถูกเลื่อนขึ้นมาเป็นวันที่ 29 สิงหาคมนี้แทน

MG4 ใหม่ ทำยอดจองล่วงหน้าทะลุ 20,000 คัน พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในจีน 29 สิงหาคมนี้

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา MG ได้เปิดโครงการพิเศษ Pioneer Program ให้จอง MG4 จำนวนจำกัดเพียง 500 คัน ซึ่งขายหมดเกลี้ยงภายใน 4 นาที 36 วินาที โดยการจองทำผ่านแอปพลิเคชัน MG Live ด้วยการจ่ายค่ามัดจำเล็กน้อย

ส่วนการจองล่วงหน้าทั่วไปของ MG4 เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม โดยมีราคาตั้งแต่ 73,800 หยวน (ประมาณ 369,000 บาท) ไปจนถึง 105,800 หยวน (ประมาณ 529,000 บาท)

ดีไซน์และมิติตัวถัง

MG4 ยังคงเอกลักษณ์ตัวถังแบบแฮทช์แบ็กไว้ แต่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ที่ปรับปรุงโดย Shao Jingfeng หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ SAIC Motor และผู้จัดการทั่วไปของ UK Tech Centre

ดีไซน์ด้านหน้าโดดเด่นด้วยโลโก้เรืองแสงที่คล้ายกับในรถยนต์ต้นแบบ MG Cyberster ส่วนมิติตัวถังของ MG4 มีความยาว 4,395 มม. ความกว้าง 1,842 มม. และความสูง 1,551 มม. พร้อมระยะฐานล้อ 2,750 มม.

ท้ายรถมีไฟท้ายรูปทรงคล้ายลูกศรซึ่งได้แรงบันดาลใจจากธง Union Jack ของอังกฤษ และมีสีตัวถังให้เลือกถึง 6 สีด้วยกัน

ภายในและระบบอำนวยความสะดวก

ห้องโดยสารออกแบบในลักษณะโอบล้อมผู้ขับขี่ ระบบความบันเทิง พัฒนาร่วมกับ Oppo ทำให้สามารถเชื่อมต่อและใช้งานเนื้อหาจากสมาร์ตโฟนได้เต็มรูปแบบผ่านหน้าจออินโฟเทนเมนต์กลาง

นอกจากนี้ MG4 ยังใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ CTB (Cell-to-Body) ของ SAIC ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในกว้างขวางขึ้น

แบตเตอรี่และสมรรถนะ

MG4 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรติดตั้งที่ด้านหน้า ให้กำลัง 120 กิโลวัตต์ (ประมาณ 161 แรงม้า) พร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต

สำหรับรุ่น MG4 Anxin Edition จะใช้แบตเตอรี่แบบกึ่งโซลิดสเตท (Semi-Solid State) ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมจะประกาศในวันเปิดตัว และมีแผนส่งมอบภายในสิ้นปีนี้

รุ่นย่อยอื่น ๆ สามารถชาร์จเร็วจาก 30% – 80% ได้ในเวลาประมาณ 20 นาที มีระยะทางวิ่งสูงสุด 530 กม. ตามมาตรฐาน CLTC โดยมีอัตราการใช้พลังงานอยู่ที่ 10.4 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อ 100 กม.

กุญแจรถดิจิทัลจาก Vivo

นอกจากนี้ บริษัท Vivo ได้ประกาศว่าฟังก์ชันกุญแจรถดิจิทัล บนระบบปฏิบัติการ OriginOS สามารถใช้งานร่วมกับรถยนต์ MG ได้แล้ว โดยจะเริ่มต้นที่รถรุ่น MG4 ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้สมาร์ตโฟนที่รองรับสามารถปลดล็อกและสตาร์ทรถได้ เพียงแค่นำโทรศัพท์ไปแตะที่ตัวรถ

อุปกรณ์ที่รองรับได้แก่รุ่นในซีรีส์ Vivo X, S, และ iQOO ปัจจุบันระบบของ Vivo ใช้งานได้กับรถยนต์หลายยี่ห้อแล้ว เช่น Buick, BYD, BMW, Changan, Zeekr, Li Auto, MINI, Smart, Tesla, Nio, Xpeng และ IM Motors

ที่มา carnewschina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.