Tesla เปิดตัว Model Y และ Model 3 รุ่น Standard ใหม่ เป็นรุ่นที่ตัดทอนสเปคบางส่วนออกจากรุ่น Premium เพื่อทำราคาให้ประหยัดมากขึ้น มาชมรายละเอียดกัน
Tesla เปิดตัว Model Y และ Model 3 รุ่น Standard รุ่นตัดออฟชัน ในสหรัฐอเมริกา
เปิดตัว Model Y Standard
Tesla เปิดตัว Model Y Standard เป็นรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าล้วนรุ่นที่ถูกตัดทอนฟังก์ชันบางอย่างออกไป โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $39,990 (ประมาณ 1.29 ล้านบาท)โดยรถรุ่นนี้มีการออกแบบภายนอกคล้าย Model Y Premium แต่ปรับหลายจุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
สิ่งที่ปรับปรุงใน Model Y Standard
- ไฟหน้า LED รองรับไฟสูงอัตโนมัติ ไม่มีไฟหน้า Daytime Running Light แบบ Lightbar ส่วนกลางหายไป
- กระจกมองข้างพับด้วยมือ
- กระจังหน้าไม่มีช่องลมที่ล้อซ้ายขวา
- ล้อลายใหม่ Aperture Wheels เริ่มต้น 18“
- แบตเตอรี่ขนาด 69 kWh
- ระยะทางต่อชาร์จ 321 ไมล์ EPA (516 กม.)
- ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง RWD
- อัตราเร่ง 0-60 ไมล์ใน 6.8 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 201 กม./ชม.
- จอกลาง 15.4“ ไม่มีจอหลัง
- ช่องแอร์หลังปรับด้วยมือ
- ลำโพง 7 ตัว
- ไม่มี FM/AM
- พวงมาลัยปรับด้วยมือ
- ไม่มีไฟ Ambient light
- หลังคาทึบ Closed Glass Roof
- มีระบบกรองฝุ่นและกลิ่น แต่ไม่มี HEPA filter และ Bioweapon Mode
- ที่นั่งแถวหน้ามีเบาะอุ่น ไม่มีเบาะระบายความร้อน
- ที่นั่งแถวหลังพับด้วยมือและไม่มีเบาะอุ่น
- ระบบช่วงล่างแบบ Passive ธรรมดา ไม่มี FSD (Frequency Selective Damping)
- ไม่มี Auto Steer ระบบ Basic Autopilot ต้องซื้อ FSD เพิ่ม
- ชาร์จ DC 225kW, ชาร์จ AC 11kW ไม่มี V2L (ที่มีในรุ่น Performance)
การเปิดตัว Model Y Standard รุ่นราคาประหยัด ทำให้ไลน์อัปตอนนี้ของ Model Y มี 3 รุ่นได้แก่
- Model Y Standard (RWD)
- Model Y Premium (RWD, Long Range AWD)
- Model Y Performance (AWD)
เปิดตัว Model 3 Standard
นอกจากจะเปิดตัว Model Y Standard ใหม่แล้ว Tesla ยังได้เปิดตัว Model 3 Standard ด้วย ซึ่งเป็นรถรุ่นราคาประหยัดที่ปรับปรุงใหม่เช่นกัน
Model 3 รุ่นนี้มีราคาเริ่มต้นที่ $36,990 (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) และมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเหมือนกับที่ Tesla ทำใน Model Y Standard
สิ่งที่ปรับปรุงใน Model 3 Standard
- ภายในตกแต่งด้วยวัสดุผ้าและหนังสังเคราะห์ (Vegan leather)
- ภายในมีสีดำสีเดียว
- ระยะทางวิ่งสูงสุด 321 ไมล์ (ประมาณ 516 กิโลเมตร) ตามมาตรฐาน EPA
- กระจกมองข้างปรับด้วยมือ
- พวงมาลัยปรับด้วยมือ
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลังปรับทิศทางด้วยมือ
- ไม่มีหน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ไม่มี Auto Steer ระบบ Basic Autopilot ต้องซื้อ FSD เพิ่ม
- อัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง (0-96 กม./ชม.) ใน 6.8 วินาที
- ระบบเครื่องเสียงลำโพง 7 ตัว (ลดลงจาก 15 ตัวในรุ่น Premium)
- ล้อลายใหม่ Prismata Wheels
- ตัวเลือกล้อ 2 แบบ
- 18” Prismata
- 19” Nova
- ไม่มีวิทยุ FM/AM
- โช้คอัพแบบพาสซีฟ (Passive)
- สีตัวถังให้เลือก 3 สี
- สีเทา Stealth Grey
- สีขาวมุก Pearl White (เพิ่มเงิน $1,000)
- สีดำ Diamond Black (เพิ่มเงิน $1,500)
สิ่งที่ยังคงมีอยู่ใน Model 3 Standard เมื่อเทียบกับรุ่น Premium
- หน้าจอสัมผัสด้านหน้าขนาด 15.4 นิ้ว
- หลังคากระจกพาโนรามิค
- มีก้านไฟเลี้ยว
- มีกล้องกันชนหน้า
- โลโก้ Tesla สีดำ
- ระบบอุ่นเบาะสำหรับที่นั่งแถวหน้า
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่ช่วยลดราคาและทำให้รถดูหรูหราน้อยกว่ารุ่น Premium หลังจากเปิดตัวรุ่น Standard แล้ว Tesla ก็ได้ปรับไลน์อัปใหม่ ทำให้ Model 3 มี 3 ไลน์อัป ได้แก่
- Model 3 Standard
- Model 3 Premium (รุ่น RWD และ Long Range AWD)
- Model 3 Performance
สำหรับ Model Y และ Model 3 รุ่น Standard วางขายในต่างปะรเทศเท่านั้น ยังไม่วางขายในประเทศไทย Tesla ระบุว่า หากสั่งจองตอนนี้ รถจะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม (ในสหรัฐอเมริกา)