ใน ,

Tesla ทำยอดขายกลับมาแซง BYD ได้อีกครั้ง ในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 แต่ทั้งคู่ยอดขายลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า

หลังจากที่ BYD ทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) แซงหน้าแชมป์อย่าง Tesla ในไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว ล่าสุดผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2024 Tesla ก็กลับมาทวงแชมป์ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้อีกครั้ง

Tesla ทำยอดขายกลับมาแซง BYD ได้อีกครั้ง ในไตรมาสที่ 1 ปี 2024 แต่ทั้งคู่ยอดขายลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า

BYD และ Tesla ได้รายงานผลการส่งมอบรถในไตรมาสแรกของปี 2024 เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา Tesla มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า 386,810 คัน ส่วน BYD มียอดส่งมอบเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (BEV) ประมาณการณ์ที่ 300,114 คัน

เห็นได้ว่า Tesla กลับมาครองตำแหน่งผู้ขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกครั้ง หลังจากที่ครองตำแหน่งมาถึง 3 ไตรมาสติดกันในปีที่แล้ว แต่ถูก BYD ทำยอดขายแซงในไตรมาสสุดท้ายของปี 2023

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ายอดขายของ Tesla จะสามารถกลับมาแซง BYD ได้อย่างสูสีในไตรมาสนี้ แต่ยอดขายของทั้ง 2 แบรนด์ต่างก็ลดลงทั้งคู่ เนื่องจากการขายรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มชะลอตัวในช่วงนี้ โดย Tesla มียอดส่งมอบลดลงร 8.5% เมื่อเทียบรายปีกับยอดส่งมอบไตรมาสที่ 1 ของปี 2023 ที่ทำยอดส่งมอบได้ 422,875 คัน และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ที่เป็นไตรมาสก่อนหน้า พบว่ายอดส่งมอบลดลง 20.2%

ส่วน BYD ในไตรมาสนี้ก็มียอดส่งมอบลดลง 43% จากยอดสูงสุด  526,409 คันในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 แต่ถ้าเทียบรายปีกับไตรมาสแรกของปี 2023 พบว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 36%

ประเทศจีนยังคงเป็นตลาดสำคัญของทั้ง Tesla และ BYD และทั้งสองบริษัทก็ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแข่งขันที่ช่วยให้เกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้าอย่างแพร่หลายมากขึ้น ซึ่ง Stella Li รองประธานบริหารของ BYD อเมริกา เคยเผยว่า Tesla เป็นพันธมิตรในด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า สังเกตได้ว่าการเปลี่ยนแปลงมาสู่ยุคของรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารวดเร็วมากขึ้นนั้นเกิดขึ้นจาก Tesla

ส่วนทางฝั่งของ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ยังเคยกล่าวอย่างตรงไปตรงมาเมื่อปีที่แล้วว่า ผู้ผลิตรถยนต์จีนมีความสามารถในการแข่งขันสูงที่สุดในอุตสาหกรรมรถยนต์ และอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งสมควรได้รับการยกย่อง และถ้าหากไม่มีข้อกีดกันทางการค้า ผู้ผลิตจีนคงจะโค่นบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ในโลกได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่แข่งขันกันอยู่นั้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งฝั่งอเมริกาหรือจีนต่างก็ต้องทำงานร่วมกัน เพื่อทำให้อัตสาหกรรมยานยนต์พลังงานสะอาดมีความยั่งยืนมากขึ้นในอนาคต ต้องรอติดตามกันต่อไปว่าในไตรมาสถัดไป อัตราการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ และใครจะเป็นผู้ครองตลาดในอุตสาหกรรมนี้

ที่มา teslarati

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.