บริษัท ฉางอัน ออโตโมบิล จำกัด (Changan Automobile) เตรียมตั้งฐานการผลิตรถ EV พวงมาลัยขวาในประเทศไทย เพื่อจำหน่ายภายในประเทศ และส่งออกไปยังหลายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ แอฟริกาใต้ และตลาดอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่น และความพร้อมของไทยในการเป็นแหล่งผลิตรถยนต์ที่โดดเด่นของภูมิภาค
รัฐบาลจีนไฟเขียว ‘ฉางอัน’ ตั้งฐานผลิต EV ในไทย พร้อมเดินเครื่อง ตั้งเป้า 1 แสนคันต่อปี
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย (บีไอโอ) ได้ประกาศถึงความสำเร็จในการดึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์ไฟฟ้าชื่อ “ฉางอัน” จากจีนมาลงทุนในประเทศไทย ล่าสุดรัฐบาลจีนอนุมัติ “ฉางอัน ออโตโมบิล” ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ และได้ลงทุนมูลค่ากว่า 8,800 ล้านบาท เพื่อสร้างฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาในประเทศไทย ทั้งประเภท BEV, PHEV, และ REEV (Range Extended EV) โดยเป้าหมายการผลิตในระยะแรกอยู่ที่ 1 แสนคันต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจะจำหน่ายทั้งในประเทศ และส่งออกไปยังหลายตลาดในกลุ่มอาเซียนรวมถึง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ แอฟริกาใต้ และตลาดอื่น ๆ
บริษัท ฉางอัน ออโตโมบิล จำกัด (Changan Automobile) เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าและระบบขับขี่อัจฉริยะ และเป็น 1 ใน 4 บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน ด้วยยอดขายกว่า 2 ล้านคันในปีที่แล้ว
การที่บริษัท ฉางอัน ออโตโมบิล จำกัด เลือกไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลจีนในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่น และความพร้อมของไทยในการเป็นแหล่งผลิตรถยนต์ที่โดดเด่นของภูมิภาค
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย (บีไอโอ) ได้นำเสนอภาพการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยและมาตรการสนับสนุนล่าสุดจากภาครัฐ ให้กับประธานกรรมการบริษัท ฉางอัน ออโตโมบิล จำกัด เพื่อเสริมความมั่นใจในเรื่องความต่อเนื่องของนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า และพร้อมประสานงานกับทุกหน่วยงานเพื่อให้การลงทุนของบริษัทประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ยังมีแผนในการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในไทยในช่วงปลายปีนี้ และยังมีแผนการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนสำคัญ รวมถึงการพัฒนารถยนต์ในไทยในอนาคต และยังได้เริ่มหารือกับซัพพลายเออร์ในไทย เพื่อให้ผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ส่งให้กับบริษัท ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการไทยทั้งรายเล็กและรายใหญ่อีกด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมโครงการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งยานยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และไฮบริด (HEV) รวมทั้งหมด 23 โครงการ จาก 16 บริษัท รวมมูลค่าเงินลงทุนกว่า 75,000 ล้านบาท
ที่มา – workpointTODAY