Kia Thailand ได้ประกาศยืนยันการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า KIA EV9 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรามาชมกันก่อนว่าในรถรุ่นนี้มีไฮไลท์อะไรโดดเด่นบ้าง
พาชม 27 ไฮไลท์เด่นใน KIA EV9 รถ SUV 7 ที่นั่ง เตรียมเปิดตัวในไทย 1 มี.ค. นี้
Kia EV9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า SUV ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่งสำหรับครอบครัว ที่ได้รับรางวัล North American Utility Vehicle of the Year ปี 2024 มีไฮไลท์เด่นดังนี้
1. แอโรไดนามิกที่ยอดเยี่ยม
KIA EV9 มาพร้อมค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำเพียง 0.28 เท่านั้น ด้วยการออกแบบที่ทำให้อากาศ Flow ได้อย่างเหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพด้านแอโรไดนามิกได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าจะเป็นรถทรง SUV ขนาดใหญ่
2. หน้าจอ AR HUD
KIA EV9 มาพร้อมหน้าจอ Head-Up Display ที่มีระบบ AR สามารถแสดงผลข้อมูลสำคัญ ๆ ระหว่างขับขี่บนกระจกหน้ารถ เช่น ข้อมูลความเร็ว คำแนะนำการนำทาง และความปลอดภัยของเลน เป็นต้น
3. กระจกมองข้างแบบดิจิทัล
กระจกมองข้างดิจิทัล ที่ให้กล้องแทนกระจกมองข้างแบบธรรมดา ให้มุมด้านหลังที่กว้างขึ้น ชัดเจนยิ่งขึ้น และช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นจุดบอดได้ดีขึ้นด้วย และมีคำแนะนำแบบไดนามิกที่ทำงานเมื่อถอยหลังและเปลี่ยนเลน
4. ระบบยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือ
มอบความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยอย่างแท้จริง ด้วยระบบการจดจำลายนิ้วมือ ผู้ใช้จะต้องสแกนลายนิ้วมือก่อนที่จะเข้าสู่การตั้งค่าส่วนบุคคล ตำแหน่งที่นั่ง ตำแหน่งกระจกมองข้าง และการสตาร์ทรถเมื่อลืมกุญแจ
5. จอแสดงผลพาโนรามา
หน้าจอดิจิทัลขนาด 12.3″+ 5″+12.3″ ที่แสดงผลแบบยาว ตั้งแต่ตรงกลางไปจนถึงด้านหน้าผู้ขับขี่ จะแสดงข้อมูลสำคัญแบบรวม ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลการขับขี่ การตั้งค่าระบบควบคุมสภาพอากศ และสาระบันเทิงต่าง ๆ ใช้งานอย่างสะดวกควบคุมด้วยมือเดียว สามารถลากและวางวิดเจ็ตข้อมูลต่าง ๆ ได้บนหน้าจอ 12.3″
6. กระจกมองหลังแบบดิจิทัล
กระจกมองหลังแบบดิจิทัลขนาด 9.6″ นี้อาศัยกล้องที่ติดตั้งอยู่บนสปอยเลอร์หลัง ที่แสดงทัศนวิสัยด้านหลังที่ดีขึ้นจากกระจกแบบธรรมดา มองเห็นมุมมองด้านหลังชัดเจน ไร้สิ่งกีดขวาง เช่น สัมภาระ ที่นั่ง ผู้โดยสาร น้ำหรือคราบสกปรกที่บดบังกระจกหลัง แต่ถ้าไม่ถนัดหรือมีเหตุจำเป็นก็สามารถสลับโหมดเปลี่ยนไปใช้กระจกมองหลังแบบธรรมดาได้
7. ระบบเสียง The Meridian รับฟังเต็มอรรถรส
KIA EV9 มาพร้อมระบบเสียงเซอร์ราว The Meridian มีลำโพงถึง 14 ตัวที่ติดตั้งในตำแหน่งต่าง ๆ ทั่วห้องโดยสาร ทำให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินและรับประสบการณ์ฟังเสียง Hi-Fi ที่เป็นธรรมชาติ สมจริง เสมือนจริงสุด ๆ
8. Touch bar แบบซ่อน
ภายในมีส่วนควบคุมแบบ Touch bar ที่ซ่อนอยู่ด้านล่างหน้าจอกลาง เป็นส่วนควบคุมระบบสาระบันเทิง โดยปุ่มสัมผัสเหล่านี้จะแสดงก็ต่อเมื่อรถสตาร์ทอยู่ ช่วยทำให้โซนตรงกลางดูมินิมอลเรียบง่ายมากขึ้น
9. ไฟ Ambient Light แบบ 2 โทนสี
ระบบไฟ Ambient Light แบบ Dual colour ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งไฟด้านบนและด้านล่างให้เป็นสีที่ต้องการได้อย่างอิสระ ช่วยสร้างบรรยากาศพิเศษหรือให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้ นอกจากนี้ยังมีไฟที่โลโก้บนพวงมาลัยด้วย
10. คันเกียร์ด้านหลังพวงมาลัย
การเปลี่ยนเกียร์สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการระบบ Electronic-Shift-By-Wire โยกคันเกียร์ด้านหลังพวงมาลัย ซึ่งอยู่ตำแหน่งเดียวกับปุ่มสตาร์ทรถ
11. ภายในใช้วัสดุชีภาพที่ยั่งยืน
KIA EV9 ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่บุกเบิกการออกแบบที่ยั่งยืนของแบรนด์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะเลิกใช้หนัง แต่จะเพิ่มการใช้วัสดุชีวภาพมากขึ้น เช่น ซับในด้วยผ้ารีไซเคิล, ใช้ Bio PU Foam สำหรับเบาะนั่ง, แผงหน้าปัดมาจากพลาสติกและ PET รีไซเคิล และใช้สีปลอดสาร BTX
12. มีระบบ Kia Connect และอัปเดตซอฟต์แวร์แบบ OTA
ระบบ Kia Connect ที่จะเชื่อมต่อผู้ใช้กับรถยนต์ ด้วยฟังก์ชันการควบคุมระยะไกลอัจฉริยะ เช่น การสตาร์ทรถระยะไกล แสดงสถานะการชาร์จ และบริการในรถยนต์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่มากมาย
นอกจากนี้ EV9 ยังมาพร้อมการอัปเดตซอฟต์แวร์รถยนต์ Over the Air (OTA) ที่สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์และแผนที่ในรถได้โดยตรงและสะดวก
13. เบาะนั่งระดับพรีเมี่ยม
เบาะนั่งด้านหน้าของ EV9 มอบความสบายขั้นสุดด้วยระบบเบาะนวดที่คนขับ และมีที่พักขาแบบไฟฟ้า นอกจากนี้เบาะนั่งด้านหน้ายังมีระบบปรับอุ่นและระบบระบายอากาศ ให้ความสบายแก่ผู้โดยสารอย่างเต็มที่
14. หลังคา Sunroof แบบคู่
หลังคาของ EV9 เป็นหลังคา Sunroof 2 ตำแหน่ง กว้างขวาง ช่วยให้ห้องโดยสารสว่างดูโล่ง
15. เครื่องปรับอากาศด้านหลังแบบแยกอิสระ
ห้องโดยสารตอนหลังมีระบบควบคุมสภาพอากาศแบบอิสระ เพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสารด้านหลังที่สามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ
16. ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะระยะไกล
KIA EV9 มาพร้อมระบบช่วยจอดอัจฉริยะระยะไกล 2 (RSPA 2) ที่สามารถสั่งให้จอดรถหรือออกจากจุดจอดรถระยะไกลได้ โดยอาศัยการจดจำเส้นจอดรถ ระบบช่วยเหลือการบังคับเลี้ยว การเร่งความเร็ว การลดความเร็ว และการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ของรถ ช่วยจอดได้อย่างปลอดภัย
17. เบาะนั่งแบบ Walk-in
ด้วยรูปแบบ 7 ที่นั่ง KIA EV9 จึงได้ออกแบบให้มีระบบ Walk-in สำหรับเบาะนั่งแถว 2 ที่สามารถปรับเอียงและเลื่อนไปด้านหน้า เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเดินเข้าไปยังเบาะนั่งแถวที่ 3 ได้อย่างสะดวก ถึงแม้ว่าจะติดตั้งคาร์ซีทไว้ก็สามารถปรับเลื่อนเบาะได้
18. มีพอร์ตชาร์จหลายช่อง
ภายในรถมีระบบ V2L ที่สามารถจ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เช่น แล็ปท็อป สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต โดยจ่ายพลังงานด้วยมาตรฐาน 230V/16A มีพอร์ตชาร์จให้ใช้งานหลายจุด ทั้งด้านหน้า เบาะนั่งแถว 2 และ 3 เพื่อมอบความสะดวกให้กับผู้โดยสารทุกที่นั่ง
19. มือจับประตูแบบฝัง
มือจับประตูของ KIA EV9 เป็นแบบฝังเรียบไปกับรถ ช่วยเรื่องของแอโรไดนามิกของรถได้ดี มือจับนี้จะโผล่ออกมาพร้อมใช้งานอัตโนมัติเมื่อถูกสัมผัสหรือมีกุญแจอัจฉริยะอยู่ใกล้ ๆ
20. พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่
KIA EV9 มีพื้นที่เก็บสัมภาระมากมาย ตรงเบาะนั่งแถวที่ 2 จะมีช่องเก็ฐของตรงคอนโซลกลาง และเมื่อพับเบาะแถวที่ 2 และ 3 ให้ราบลง จะมีพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด 2,318 ลิตร และสามารถเปิดประตูท้ายง่าย ๆ ด้วยปุ่ม Easy Exit
21. รองรับการชาร์จแรงดันสูงสุด 800V
KIA EV9 มาพร้อมเทคโนโลยี 800V ที่ช่วยให้ชาร์จได้ไว ชาร์จเพียง 15 นาทีสามารถวิ่งได้ 249 กิโลเมตร และยังสามารถชาร์จได้กับเครื่องชาร์จทั้งแบบ 400V และ 800V โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์เสริม มีตัวเลือกในการชาร์จหลากหลายสถานี
22. ระยะทางวิ่งสูงสุด 505 กม.
KIA EV9 รุ่น Air ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 76.1 kWh ให้ระยะทางสูงสุด 443 กม. และส่วนรุ่น Earth และ GT-Line แบตเตอรี่ความจุ 99.8 kWh ให้ระยะทาง 512 กม. และ 505 กม. ตามลำดับ (มาตรฐาน WLTP)
23. ระบบ V2L จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่นได้
KIA EV9 รองรับ Vehicle to Load (V2L) สามารถจ่ายไฟภายนอกให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน รวมถึงจ่ายไฟแบบ Vehicle to Vehicle (V2V) ที่สามารถจ่ายไฟให้กับรถยนต์ไฟฟ้าคันอื่นได้
24. ระบบ Regenerative Braking และ i-Pedal
Regenerative Braking จะช่วยปรับการรีเจนเบรกตามการเคลื่อนที่ของรถด้านหน้าอัตโนมัติ สามารถควบคุมระยะการขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้มีโหมด i-Pedal ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งความเร็ว ลดความเร็ว และหยุดรถได้โดยใช้เพียงแค่คันแร่ง (แบบเดียวกับ One Paddle)
25. ช่วงล่างยึดเกาะดี ขับขี่มั่นใจ
แดมเปอร์ด้านหลังปรับระดับได้ เพื่อกระจายน้ำหนักให้เท่ากัน นอกจากนี้ยังมีระบบกันสะเทือนด้านหน้า MacPherson Strut ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Multi-link ให้การควบคุมรถมั่นใจ ยึดเกาะได้อย่างดีเยี่ยม
26. กันเสียงภายนอกได้ดี เสียงรบกวนเข้าน้อย
ระดับเสียงรบกวนที่เข้ามาภายในรถน้อยมาก ด้วยมาตรฐานการดูดซับเสียงที่ใช้ใน EV9 มีหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโฟมดูดซับเสียงในยาง ฉนวนกันเสียงกระจกลามิเนต
27. โหมด Terrain
ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งการขับขี่ด้วยโหมด Normal, Sport, Eco โดยใช้ปุ่ม Drive Mode บนพวงมาลัย นอกจากนี้ยังมีโหมด Terrain ที่ปรับการขับขี่ให้เหมาะสมเมื่อขับขี่ในสถานที่ที่มีหิมะ โคลน ทราย (มีอยู่ในรุ่น GT-Line และ Earth เท่านั้น)
ทั้งหมดนี้เป็นไฮไลท์เด่น ๆ ในรถยนต์ KIA รุ่น EV9 ที่เตรียมวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 1-2 มีนาคม 2024 นี้ รอติดตามกันอีกครั้ง ณ วันที่เปิดตัวว่าสเปคในไทย รายละเอียดการสั่งซื้อ และราคาของ KIA EV9 จะเป็นอย่างไร
ที่มา KIA