Sakura P.
IM Motor เตรียมเปิดตัวรถ IM L7 รุ่นปรับโฉมใหม่ในวันที่ 24 ก.พ. 2024 นี้ รายงานเผยว่าจะใช้ชิปประมวลผลใหม่ที่ส่งผลต่อระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ดีขึ้น และยังปรับดีไซน์ภายในรถใหม่อีกด้วย ชมรายละเอียดเบื้องต้นกัน
IM L7 รุ่นปรับโฉม มาพร้อมชิปประมวลผลดีขึ้น ปรับดีไซน์ภายในใหม่ เตรียมเปิดตัวในจีน 24 ก.พ. นี้
IM L7 รุ่นปรับโฉมใหม่ เพิ่มความยาวขึ้น 10 มม. และจะใช้ชิป Nvidia Orin X เพิ่มพลังการประมวลผลขึ้นเกือบ 8 เท่า กล้องรอบคันใหม่ ละเอียดกว่าเดิมด้วยกล้อง 8 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับ Laser Radar สามารถขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วยระบบ NOA (Navigate on Aotupilot) ได้ ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการทั่วประเทศจีนแผ่นดินใหญ่
ส่วนภายในของ IM L7 ก็ได้รับการปรับปรุงเช่นกัน โดยยึดดีไซน์ของ IM LS6 ที่ใช้หน้าจอยาวด้านหน้า และยังมีการปรับปรุงภายในอื่น ๆ ดังนี้
- มาพร้อมเบาะหนัง
- ระบบความบันเทิงลำโพงถึง 22 ตัว
- ปรับปรุงเป็นกระจกกันเสียง 2 ชั้น
- คอนโซลกลางหุ้มหนังพร้อมรองรับการชาร์จไร้สาย 50W
- ตัวปรับหน้าต่างเปลี่ยนกลับเป็นปุ่มปกติ
- เบาะนั่งด้านหน้าและด้านหลังมีที่พักขาไฟฟ้า
- เบาะด้านหลังยาวเพิ่มขึ้น 30 มม. ปรับเอนได้ 10 องศาด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และมีระบบระบายอากาศ ระบบนวดไหล่และเอว
ด้านประสิทธิภาพ IM L7 ยังคงมาพร้อมสถานปัตยกรรม 400V เหมือนเดิม มี 3 รุ่นย่อยให้เลือก ได้แก่
- รุ่นมอเตอร์เดี่ยว กำลัง 231 kW ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
- รุ่นมอเตอร์เดี่ยว กำลัง 250 kW ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
- รุ่นมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังรวมสูงสุด 425 kW
IM Motor ผู้ผลิตเผยว่า รถรุ่นปรับโฉมใหม่จะมีตัวเลือกแบตเตอรี่ให้เลือก 2 แบบด้วยกันคือ แบตเตอรี่ลิเธียม 71.2 kWh และ 90 kWh ให้ระยะทาง 570 กม. และ 708 กม. ตามลำดับ รอติดตามข้อมูลอื่น ๆ อย่างเป็นทางการในวันเปิดตัว 24 ก.พ. นี้
IM Motor เป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน เริ่มก่อตั้งเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2020 โดยร่วมมือระหว่าง SAIC Motor Corporation Group, Zhangjiang High-Tech Park และ Alibaba Group มีเป้าหมายผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแข่งขันกับ Tesla
ในเดือนธันวาคม 2023 ที่ผ่านมา ยอดขายรายเดือนของ IM Motor ทะลุถึง 10,000 คันเป็นครั้งแรก มียอดขายสะสมในปี 2023 จำนวน 38,253 คัน เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 665% แต่ก็ยังตามคู่แข่งอย่าง Tesla อยู่มากที่ทำยอดขายในจีนได้ 645,000 คันในปี 2023 รวมถึงคู่แข่งแบรนด์สัญชาติเดียวกันก็ยังคงมียอดขายมากกว่า อย่างเช่น Xpeng ขายได้ 121,000 คัน และ Nio ขายได้กว่า 160,000 คันในปี 2023
ที่มา carnewschina
