ปัญหาที่ผู้ใช้ Tesla มือใหม่เจอบ่อยหลังจากที่นำรถเข้าไปชาร์จในสถานี Tesla Supercharger ครั้งแรก คือ ได้รับการแจ้งเตือนการชำระเงินไม่สำเร็จและอาจจะส่งผลทำให้ถูกบล๊อคการชาร์จ ทีมงานมีวิธีแก้ไขง่าย ๆ มาแนะนำให้ชมกัน
วิธีแก้ปัญหาชำระเงิน Tesla Supercharger ไม่ได้ ระบบเตือนว่า ซูเปอร์ชาร์จไม่พร้อมใช้งาน หรือการชาร์จแบบมีค่าใช้จ่ายใช้ไม่ได้
สำหรับผู้ใช้ Tesla มือใหม่ที่นำรถเข้าไปชาร์จที่ Supercharger เมื่อชาร์จเสร็จแล้ว แต่หน้าจอรถยนต์กลับขึ้นแจ้งเตือนว่า “ชำระเงิน Tesla Supercharger ไม่ได้” หรือ “ซูเปอร์ชาร์จไม่พร้อมใช้งาน” ถึงแม้ว่าจะมีการใส่ข้อมูลบัตรเครดิต/บัตรเดบิต เพื่อเตรียมการตัดเงินชำระเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณภาพจาก Facebook Rinlita Prayoonhiran
วิธีการทำให้การแจ้งเตือนเหล่านี้หายไป และทำให้ระบบชำระเงินผ่านบัตรที่เราผูกก็ง่าย ๆ เลย เพียงแค่ให้เรากรอกข้อมูลที่อยู่เรียกเก็บเงินให้ครบถ้วนและกรอกเลขที่ผู้เสียภาษีให้เรียบร้อยก่อน
ไปที่แอป Tesla > แตะไอคอน 3 ขีด > กำลังชาร์จ > จัดการการชำระเงิน
แตะไอคอน “แก้ไข” > กรอกข้อมูลที่อยู่เรียกเก็บเงินให้ครบถ้วน และต้องกรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (กรณีเป็นบุคคลให้กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน ถ้าหากเป็นนิติบุคคลให้กรอกเลขทะเบียนนิติบุคคล) จากนั้นแตะ ส่ง แล้วรอให้ข้อมูลถูกบันทึกสำเร็จ
หลังจากที่กรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ระบบก็จะตัดค่าบริการผ่านบัตรที่เราผูก และการแจ้งเตือนก็จะหายไป
หรือถ้าหากใครที่ได้รับการแจ้งเตือนว่าถูกจำกัดหรือชำระไม่สำเร็จ ก็สามารถเข้าไปที่การแจ้งเตือนในแอป Tesla ได้เช่นกัน > แตะการแจ้งเตือน > ชำระเงินตอนนี้
แตะ จัดการการชำระเงิน > แตะไอคอน “แก้ไข” กรอกข้อมูลที่อยู่เรียกเก็บเงินให้ครบถ้วน และต้องกรอกเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (กรณีเป็นบุคคลให้กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน ถ้าหากเป็นนิติบุคคลให้กรอกเลขทะเบียนนิติบุคคล) จากนั้นแตะ ส่ง แล้วรอให้ข้อมูลถูกบันทึกสำเร็จ การแจ้งเตือนก็จะหายไปจากหน้าจอรถ
แต่ถ้าหากทำตามวิธีดังกล่าวแล้ว การแจ้งเตือนยังคงแสดงที่หน้าจอรถยนต์อยู่ แนะนำว่าให้ติดต่อผู้ให้บริการ Tesla อีกครั้งที่ >> ติดต่อ Tesla