CATL ได้ลงทุน 2 เท่าในการขยายตลาดแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก เนื่องจากยอดขายทั่วโลกที่เติบโต และด้วยความอุตสาหะของประธานบริษัท CATL ทำให้ทางแบรนด์กำลังเติบโตอย่างมากในตลาดต่างประเทศในขณะที่โตเร็วกว่าตลาด EV อันดุเดือดที่จีน
CATL เร่งการขยายตลาดแบต EV ทั่วโลกในช่วงที่ยอดเติบโตมากกว่าตลาดในจีน
หลังจาก CATL ทำการติดตั้งแบตเตอรี่ให้รถยนต์ไฟฟ้าไปกว่า 300GWh ในปี 2023 ถือว่าเติบโตยอดปีต่อปีกว่า 41% CATL ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่เจ้าใหญ่ในตลาดโลกสำหรับปัจจุบัน
ปีที่ผ่านมา CATL มีสัดส่วนทางการตลาดถึง 36.8% ถือว่าเป็นเพียงผู้ผลิตเดียวที่ทำส่วนแบ่งได้มากกว่า +30% แม้จะมีคู่แข่งเข้ามาเพิ่ม แต่ส่วนแบ่งการตลาดของ CATL ก็เพิ่มขึ้น 36.2% ในปี 2022
อ้างอิงจากรายงานของ CnEVPost ทาง CATL กำลังเพิ่มโรงงานในต่างประเทศ 2 แห่ง เพื่อเป็นการขยายตลาดต่างประเทศนั่นเอง
ข่าวจาก CATL คาดหวังยอดจากประเทศจีนที่ลดน้อยลง ด้วยผู้ผลิตที่เข้ามาซื้อน้อยลง ทำให้ยอดการเติบโตของจีนของ CATL ส่วนใหญ่จะมาจากยอดการเติบโตของรถพลังงานใหม่ NEV (รวมระบบไฮบริดด้วย) และยอดการเติบโตของ BYD
แม้ว่ายอดขาย NEV ที่สูงขึ้นเทียบเท่ากับการเติบโตสําหรับ CATL แต่ BYD คู่แข่งกําลังได้รับส่วนแบ่งการตลาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลเสียต่อ CATL โดยตรง
CATL เร่งแผนขยายสู่ตลาดโลก
CATL กำลังขยายโรงงานใหม่ 2 แห่ง หลังจากการประกาศขยายทั้งหมด 6 แห่ง อ้างอิงจากแหล่งข่าว LatePost โรงงานทั้งสองจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนทั้ง 6 ประเทศสำคัญ ๆ อย่าง ประเทศไทย, เยอรมัน, ฮังการี, อินโดนีเซีย, และสองแห่งในสหรัฐอเมริกา (ให้กับ Ford และ Tesla)
จากโพสของ CATL กล่าวว่าโรงงานถัดไปน่าจะไปตั้งที่สเปน เพื่อเป็นการร่วมมือกันกับพาร์ทเนอร์อย่าง Stellantis นอกจากนี้ยังกําลังพิจารณาโรงงานวัสดุแบตเตอรี่แบบแคโทดที่เป็นเจ้าของอย่างสมบูรณ์ในโมร็อกโก ซึ่งจะเป็นการจัดหาโรงงานแบตเตอรี่ในยุโรปนั่นเอง
CATL ยังคงหวังที่จะเร่งการเติบทั่วโลกสำหรับเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ ที่แบรนด์ได้ทำการคุยกับเจ้า OEM ไว้แล้วกว่า 10 เจ้าในการร่วมผลิตเทคโนโลยีเหล่านี้
เดือนที่แล้ว CarNewsChina ได้รายงานว่า General Motors ได้พูดคุยทำคือตกลงกับ CATL สำหรับใบอนุญาตเกี่ยวกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ LFP
แผนเหล่านี้รวมถึงการร่วมผลิตแบตเตอรี่กับโรงงานของอเมริกาเหนือด้วยเช่นกัน แม้ว่ารายละเอียดจะยังไม่ชัดเจน แต่รายงานกล่าวว่าจะคล้าย ๆ กับกรณีของ Ford ที่ได้ลงทุนกว่า 3.5 พันล้านเหรียญ ในการสร้างโรงงานแบตเตอรี่ LFP กับ CATL ในมิชิแกน
รายงานแยกจาก LatePost บอกว่าช่วงต้นปีนี้ทาง CATL ได้ลดต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ได้ 55 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,000 บาท) ต่อ kWh เทียบกับ 83 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,000 บาท) ต่อ kWh สำหรับแบตเตอรี่แบบ NMC
ความคาดหวังในอนาคตที่ว่ารถ 1 คันจาก 3 คันจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภายในปี 2030 ทำให้ CATL ยังคงมีพื้นที่และโอกาสมากมายในการเติบโต
ที่มา : Electrek