ใน ,

Mercedes-Benz ชวนเปิดประสบการณ์ “Own Your Star” สัมผัสยนตรกรรม 7 รุ่นไฮไลท์ พร้อมโอกาสเป็นเจ้าของดวงดาว ในงาน Motor Expo 2024 

พบกับยนตรกรรม 7 รุ่นไฮไลท์ และทัพยนตรกรรมกว่า 20 รุ่น จาก Mercedes-Benz พร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมายได้ที่งาน Motor Expo 2024 ณ บูธหมายเลข A02 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567

Mercedes-Benz ชวนเปิดประสบการณ์ “Own Your Star” สัมผัสยนตรกรรม 7 รุ่นไฮไลท์ พร้อมโอกาสเป็นเจ้าของดวงดาว ในงาน Motor Expo 2024

ไฮไลท์ 

  • พบกับทัพยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury ที่เปิดตัวใหม่กว่า 5 รุ่น เสริมด้วยไลน์อัพล่าสุด ของ The new E-Class ในรุ่น E 350 e Exclusive จำหน่ายในราคา 3.65 ล้านบาท
  • ครั้งแรกในไทยกับโมเมนต์ “G-Turn” 720 องศา ประเดิมการเผยโฉมของ G-Class ขุมพลัง ไฟฟ้ารุ่นแรก “G 580 with EQ Technology” ที่มาพร้อมราคาเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท 
  • แคมเปญ “Own Your Star” สำหรับลูกค้า 100 ท่านแรก ที่จองรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงาน Motor Expo 2024 รับไปเลยดวงดาวบนท้องฟ้าอีก 1 ดวง 
  • โชว์เคสโมเดลพี่ใหญ่ของ G-Class “G 63 4×4 Squared” พร้อมเปิดโซน “Maybach Lounge” มอบความเอ็กซ์คลูซีฟตามแบบฉบับของแบรนด์ “Mercedes-Maybach”

เมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) เชิญชวนลูกค้าชาวไทยเป็นเจ้าของดวงดาว ในงานมหกรรม ยานยนต์ ครั้งที่ 41 (Motor Expo 2024) พร้อมทะยานสู่โลกอนาคตผ่านคอนเซ็ปต์ “Own Your Star” ที่จะมอบดวงดาวบนท้องฟ้า พร้อมใบประกาศนียบัตร Star Certificate และพิกัดของ ดวงดาว ให้กับผู้ที่จองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายในงาน 100 ท่านแรก โดยขนทัพยนตรกรรม รุ่นใหม่มาจัดแสดงกว่า 7 รุ่น นำโดย G 580 with EQ Technology, G 450 d, Mercedes-Maybach EQS 680 SUV, Mercedes-Maybach S 580 e Premium, E 350 e Exclusive, V 300 d Exclusive, Vito 119 CDI Tourer Pro และรุ่นอื่น ๆ รวมกว่า 20 รุ่น โดยรถยนต์ทุกรุ่นมาพร้อมราคาและข้อเสนอเดียวกันทั้งประเทศ ไม่ว่าจะซื้อรถในงานหรือที่ตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2567

มร. มาร์ทิน ชเวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมอร์เซเดสเบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกจากสัญลักษณ์ดาวสามแฉกที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ ความเชี่ยวชาญ และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ครอบคลุมทุกมิติแล้ว เราเปรียบยนตร กรรมแต่ละรุ่นของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เสมือนดวงดาวที่รอให้คุณมาครอบครอง สำหรับงาน Motor Expo ในปีนี้ เราจึงมาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Own Your Star” เมื่อคุณเลือกเป็นเจ้าของรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ นอกจากคุณจะได้เป็นเจ้าของรถยนต์ที่ใฝ่ฝันแล้ว เรายังได้มอบดวงดาวบนท้องฟ้า อีก 1 ดวง ที่สามารถตั้งชื่อดวงดาวได้เอง โดยเราได้นำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่กว่า 7 รุ่น เริ่มด้วย G-Class ทั้งรุ่นพลังงานไฟฟ้า EQ Technology และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล, Mercedes-Maybach EQS SUV, Mercedes-Maybach S-Class, E-Class รุ่น Exclusive Line, V-Class, Vito และ รถยนต์รุ่นอื่น ๆ ที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษที่ทุกคนรอคอยตลอดช่วงเวลาของ การจัดงาน ทั้งที่งาน Motor Expo 2024 และที่ตัวแทนจำหน่ายฯ ทั่วประเทศ” ความโดดเด่นของบูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในงาน Motor Expo 2024 คือการจัดแสดงรถยนต์รุ่น ใหม่ที่เผยโฉมต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรกในประเทศไทย รวมกว่า 7 รุ่น ได้แก่ 

1. Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology

ครั้งแรกกับการสานต่อตำนาน 45 ปี ของ G-Class เจ้าของฉายา “King of Off-Road” ผสมผสานสมรรถนะระดับสูง และความหรูหราตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่ยังคงความคลาสสิกด้วยรูปลักษณ์สไตล์ทรงกล่องได้อย่างลงตัว มอบความสมบูรณ์แบบด้านการขับขี่และการใช้งานในชีวิตประจำวัน​ที่มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ “STANDARD” และ “EDITION ONE” มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว แยกติดตั้งทั้ง 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 587 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,164 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.7 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-wheel drive วิ่งได้ไกลถึง 473 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง โดยยังรองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC charge) สูงถึง 200 kW ใช้เวลาชาร์จเพียง 32 นาทีจาก 10-80% ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 11 ชั่วโมง 45 นาที โดยรุ่น STANDARD จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 9,500,000 บาท และรุ่น EDITION ONE (จำหน่ายจำนวนจำกัดเพียง 6 คัน) จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 12,200,000 บาท

2. Mercedes-Benz G 450 d

ยนตรกรรมเอสยูวีขนาดใหญ่สำหรับผู้ที่หลงใหลในเสียงเครื่องยนต์ดีเซลอันทรงพลัง มาพร้อมดีไซน์ดุดันในแบบ G-Class โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ดีเซลรหัส OM 656M ความจุ 2,989 ซีซี พ่วงระบบ ISG2 (Integrated Starter Generator) ที่ให้พลังรวมสูงสุด 367 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดถึง 750 นิวตันเมตร ที่ 1,350-2,800 รอบต่อนาที อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 5.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กม./ชม. ระบบขับเคลื่อนที่พัฒนาขึ้นใหม่นี้ทำให้รถยนต์คันนี้โดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่และการประหยัดพลังงานไปอีกขั้น จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 12,200,000 บาท 

3. Mercedes-Maybach EQS 680 SUV

รถยนต์ไฟฟ้า BEV (Battery electric vehicle) รุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Mercedes-Maybach ที่สุดแห่งยนตรกรรมเอสยูวีที่ตอบโจทย์การใช้งานอันเหนือระดับ ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ PSM (Permanently Excited Synchronous Motors) โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกติดตั้งบริเวณเพลาขับหน้าและหลัง ให้กำลังสูงสุดถึง 658 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 950 นิวตันเมตร มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.4 วินาที ต่อเนื่องทุกการเดินทางด้วยแบตเตอรี่แบบ High-voltage ชนิด Lithium-ion ที่มีความจุมากถึง 118.0 kWh พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ดีที่สุดอย่าง fully-variable 4MATIC+ all-wheel drive สามารถวิ่งได้ไกลถึง 615 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (WLTP) นับเป็นยนตรกรรมระดับ Top-End Luxury ที่สามารถมอบประสบการณ์แบบครบทุกสัมผัสทั้ง 5 อย่างเหนือระดับ จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 12,500,000 บาท

4. Mercedes-Maybach S 580 e Premium

ยนตรกรรมระดับไฮเอนด์ลักชัวรีที่สะท้อนเอกลักษณ์ความสง่างามตามแบบฉบับของ Mercedes-Maybach ครั้งแรกกับรุ่นประกอบในประเทศไทยและถือเป็นประเทศแรกที่ขึ้นไลน์ผลิตตัวถังสีทูโทนแบบ Local Production โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนผสานขุมพลังแบบปลั๊กอินไฮบริด รวมทุกความเป็นเลิศเหนือจินตนาการทั้งสมรรถนะ ดีไซน์ภายนอกและภายใน เทคโนโลยีที่มอบความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่เหนือระดับ พร้อมสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์ด้วยยนตรกรรมระดับสูงสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กลับมาพร้อมตัวถังสีทูโทนใหม่ “High-tech Silver/Selenite Grey” จำหน่ายในราคาเริ่มต้น 11,300,000 บาท 

5. Mercedes-Benz E 350 e Exclusive

ยนตรกรรมระดับไอคอนที่ผสานความเป็นเลิศในทุกด้าน ทั้งดีไซน์สุดลักชัวรี เทคนิคที่ล้ำสมัย และความสะดวกสบายชั้นเยี่ยม พร้อมการกลับมาอีกครั้งของการออกแบบระดับตำนานที่แสดงถึงความหรูหราและเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับโลโก้ “ดาวลอย” (MB logo on bonnet) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปดาวสามแฉกอันโดดเด่น ที่ติดตั้งอยู่บนฝากระโปรงหน้าของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเทคโนโลยี Plug-in HYBRID เจเนอเรชันที่ 4 ที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ทั้งความจุของแบตเตอรี่ Li-Ion ที่มีความจุมากถึง 25.4 kWh ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือ Electric mode ได้ไกลมากกว่า 100 กิโลเมตร (WLTP) และการปรับปรุงมอเตอร์ไฟฟ้าให้มีพละกำลังมากกว่าเดิม โดยเมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งระบบ จะมอบกำลังแรงม้ารวมสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 550 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 6.4 วินาที รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 55 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% เพียง 30 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWใช้เวลาชาร์จจาก 0–100% ในระยะเวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที จำหน่ายในราคา 3,650,000 บาท 

6. Mercedes-Benz V 300 d Exclusive

รถแวนอเนกประสงค์ 6 ที่นั่ง ในตระกูล V-Class เป็นรุ่นนำเข้ามาตรฐานยุโรป ออกแบบมาเพื่อเป็นรถสำหรับครอบครัว หรือผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย และความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส มาพร้อมการตกแต่งภายในที่พิถีพิถัน พื้นที่กว้างขวาง ฟังก์ชั่นการใช้งานที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร สมรรถนะและการขับขี่ที่ดีเยี่ยม รวมถึงเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เจเนเรชั่นใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี สามารถรีดพละกำลังสูงสุด 237 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ในระยะเวลา 7.4 วินาที มีความเร็วสูงสุดโดยประมาณที่ 220 กม./ชม. โดยมีระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ที่มีจุดเด่นในการรักษาระดับการทำงานของรอบเครื่องยนต์ให้ต่ำ และช่วยให้จังหวะการเร่งเครื่องมีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น จำหน่ายในราคา 5,820,000 บาท

7. Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Pro

รถแวนพรีเมียมอเนกประสงค์ขนาด 11 ที่นั่ง ออกแบบมาพร้อมความสมบูรณ์แบบระหว่างฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน และความหรูหราสไตล์เมอร์เซเดส-เบนซ์ มอบความกว้างขวาง และเทคโนโลยีระดับเฟิร์สคลาส เหมาะสำหรับทั้งการเป็นรถครอบครัวและการใช้งานในทางธุรกิจ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1,950 ซีซี มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ในระยะเวลา 9.5 วินาที มีความเร็วสูงสุดโดยประมาณที่ 204 กม./ชม. ผสานการทำงานกับระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ (9G-TRONIC) ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่น จำหน่ายในราคา 3,100,000 บาท 

ภายในบูธจัดแสดงรถยนต์ ลูกค้าสามารถทดลองใช้งานแอปฟลิเคชัน Mercedes-Benz ในการสั่งการ รถยนต์ที่จัดแสดงได้ อาทิเช่น การควบคุมรถยนต์จากระยะไกล การค้นหาตำแหน่งรถยนต์ ทั้งนี้ บริการเสริม Digital Extras บนแอปฯ Mercedes-Benz มีให้พร้อมกับรถยนต์ตั้งแต่แรกซื้อ และสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 36 เดือน โดยขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์ อุปกรณ์ติดตั้งพิเศษที่เลือก ปีการผลิต และประเทศที่จำหน่าย

และสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2567 จะได้รับข้อเสนอสุดพิเศษ “Worry-Free Package” มอบความอุ่นใจและประสบการณ์แบบเหนือขีดจำกัดในทุกการเดินทาง ดังนี้ 

  • เงินชำระส่วนแรก 0% สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกรุ่น เมื่อทำสัญญามายสตาร์*
  • รับฟรี ค่าบริการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบ DC ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (Unlimited DC Charging)
    เป็นระยะเวลา 1 ปี ผ่านสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่กำหนดไว้ของผู้ให้บริการ SHARGE** 
  • รับฟรี Wallbox พร้อมติดตั้ง**
  • รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือไม่เกินระยะทางสูงสุด 250,000 กิโลเมตร**
*เมื่อเริ่มต้นสัญญามายสตาร์กับบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ในรถรุ่นที่ร่วมรายการ โดยเงินชำระส่วนแรก หมายถึง เงินชำระงวดแรกตามที่ระบุในสัญญามายสตาร์ และค่าเช่าชำระข้างต้น อ้างอิงแคมเปญเงินชำระครั้งแรก 0% ที่ระยะเวลาของสัญญา 60 เดือน โดยกำหนดระยะทางการใช้งานรถยนต์ที่ 20,000 กิโลเมตร/ปี
**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด

นอกจากการจัดแสดงรถยนต์หลากหลายรุ่นแล้ว ในปีนี้ที่บูธเมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดแสดงสินค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ คอลเลคชั่น และสินค้าประดับยนต์ ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ อาทิ หมวก, สินค้าสำหรับเด็ก, เสื้อและแจ็คเก็ต, แก้วและกระติกน้ำ และสินค้าประเภทกีฬา พร้อมข้อเสนอพิเศษ! ได้แก่

  • ซื้อสินค้าประดับยนต์หรือคอลเลคชั่น จำนวน 2 ชิ้น ยอดค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป (ต่อใบเสร็จ) รับฟรี! สินค้าอีก 1 ชิ้น (ชิ้นที่มูลค่าต่ำที่สุดในใบเสร็จเดียวกัน)** 
  • รับของขวัญพิเศษ! กระเป๋าเมอร์เซเดส-เบนซ์** (มูลค่า 12,250 บาท) สำหรับลูกค้าที่มียอดสูงสุดในการซื้อสินค้าประดับยนต์หรือคอลเลคชั่น ในวันที่ 29 พ.ย. 67, 30 พ.ย. 67, 1 ธ.ค. 67, 6 ธ.ค. 67, 7 ธ.ค. 67, 8 ธ.ค. 67 และ 10 ธ.ค. 67

ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าสมาชิกบัตรเครดิตยูโอบี เมอร์เซเดส (UOB Mercedes) ที่มีการชำระค่าจองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ผ่านช่องทางออนไลน์ 50,000 บาท/เซลส์สลิป ภายในงาน Motor Expo 2024 รับสิทธิ์แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 50%** เมื่อใช้คำแนนสะสมเท่ากับยอดจองรถยนต์ (จำกัด 1 สิทธิ์/ผู้ถือบัตร/ตลอดรายการ) รวมถึงบัตรกำนัลเซ็นทรัล มูลค่าสูงสุด 2,500 บาท** และคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด 25 เท่า** (สำหรับทุกการใช้จ่าย 25 บาท)

**เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กำหนด

พบกับทัพยนตรกรรมกว่า 20 รุ่นจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมรับข้อเสนอพิเศษมากมายได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 (Motor Expo 2024) ณ บูธหมายเลข A02 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2567

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ที่ www.mercedes-benz.co.th หรือที่ศูนย์บริการเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารอัพเดทผ่านทาง Facebook : Mercedes-Benz Thailand IG : @MercedesBenzThailand และ LINE : @mercedesbenzth

ข่าวประชาสัมพันธ์จาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S