นี่อาจจะเป็นประเด็นที่น่ากังวลที่สุดของ Tesla เนื่องจากยอดขายรถ Tesla ที่ลดลง ท่ามกลางการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป และดูเหมือนว่านี้จะเป็นเพิ่งจุดเริ่มต้นของความยากลำบากเท่านั้น
ยอดขาย Tesla ในยุโรปลดลงอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่านี่จะเพิ่งเริ่มต้นความยากลำบาเท่านั้น
ยอดขายของ Tesla ลดลงถึง 41.6% จากตัวเลขการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2025 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าโดยรวมในยุโรปจะยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว
ตัวเลขนี้ได้สะท้อนว่าการดิ่งลงของยอดขาย Tesla ในช่วงครึ่งปีแรกจะยังไม่หยุดลงง่าย ๆ แม้ทาง Tesla จะพยายามโทษว่าการที่ยอดขายลดลงในไตรมาสแรกเป็นเพราะช่วงของการเปลี่ยนรุ่นของ Model Y ส่งผลให้สินค้ามีน้อยในตลาด แต่ดูเหมือนว่าคำอธิบายดังกล่าวจะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
ยอดขายสะสม Tesla ยุโรป มกราคม-กรกฎาคม 2025 ลดลง 34.3%
หากย้อนกลับไปช่วงปี 2023-2024 Tesla มียอดขายในยุโรปลดลงประมาณ 10% หรือประมาณ 40,000 คัน แต่ในปี 2025 การลดลงกลับชัดเจนขึ้น
ภาพรวมยอดขายในยุโรปลดลง 34% ตลาดหลักหลายแห่ง เช่น เยอรมนีและฝรั่งเศส กำลังเผชิญกับอัตราการลดลงที่รุนแรงยิ่งกว่า ในอดีต Tesla เคยขายรถได้มากกว่า 60,000 คันต่อปีในเยอรมนี แต่ในปีนี้ แบรนด์อาจประสบปัญหาในการขายที่จำเป็นต้องไปให้ถึง 20,000 คัน
ตลาดอังกฤษก็เคยเป็นประเทศที่ยอดขายของ Tesla ไม่ได้ลดลงมากนักในครึ่งปีแรก ก็เริ่มส่งสัญญาณชัดเจนว่าสถานการณ์กำลังเลวร้ายลง โดยในเดือนกรกฎาคม 2025 ยอดขายของ Tesla ในอังกฤษลดลงถึง 60% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
ในอดีต Tesla เคยเป็นผู้นำตลาด EV ในยุโรปและครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด แต่ปัจจุบันขณะที่ตลาด EV กำลังรุ่งเรือง Tesla กลับเผชิญกับยอดขายที่ดิ่งลงอย่างหนัก สะท้อนให้เห็นว่าบางอย่างกำลังผิดพลาดอย่างรุนแรง
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla กลับไม่แสดงความกังวลใด ๆ โดยยังคงเชื่อว่าเมื่อการขับขี่อัตโนมัติภายใต้การควบคุม (Supervised Self-driving) ได้รับอนุญาตในยุโรป ยอดขายจะกลับมาพุ่งสูงอีกครั้ง แต่ผู้เชี่ยวชาญอีกมากมายกลับไม่ได้เห็นด้วยในแนวคิดนี้
สาเหตุหลักคือ “การแข่งขัน”
สาเหตุหลักที่ Tesla กำลังตกต่ำในยุโรปคือการแข่งขันที่ดุเดือด ในขณะที่ Tesla ยังพอทำได้ดีในอเมริกา เนื่องจากตลาด EV ที่นั่นยังไม่ค่อยมีคู่แข่งมากนัก แต่ในยุโรป สถานการณ์ต่างออกไป
ยุโรปมีตัวเลือก EV หลากหลายจากผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ดั้งเดิมมากมาย อีกทั้งยังมีรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่เริ่มเข้าสู่ตลาดในอัตราภาษีนำเข้าที่ต่ำกว่าอเมริกา ทำให้ Tesla แข่งขันลำบากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมากกว่าครึ่งของผู้บริโภคในยุโรปมีทัศนคติลบต่อแบรนด์ เนื่องจากภาพลักษณ์ของซีอีโอนั่นเองครับ
สุดท้าย ณ ตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยใดที่สามารถชะลอการลดลงของยอดขายรถ Tesla ในยุโรปได้ และสถานการณ์อาจแย่ลงก่อนจะดีขึ้นได้
ที่มา : Electrek