Sahakrit S
รถต้นแบบ BYD Song L รถยนต์ไฟฟ้า SUV สไตล์ Fastback เปิดตัวในฐานะคู่แข่ง Tesla Model Y มาติดตามกันว่าจะสู้กับ Tesla Model Y ที่มียอดขายมากที่สุดในประเทศจีน ได้หรือไม่ ?
เปิดตัว! รถต้นแบบ BYD Song L รถยนต์ไฟฟ้า SUV ในฐานะคู่แข่ง Tesla Model Y
เมื่อวันที่ 18 เมษายน รถต้นแบบ BYD Song L ได้ปรากฎตัวที่งาน Shanghai Auto Show 2023 เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Dynasty รถคันนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า SUV สไตล์ Fastback สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 และมีชุดแบตเตอรี่แบบ CTB (cell-to-body) ตัวแบตเตอรี่เองใช้แบตเตอรี่แบบ LFP
BYD ประกาศว่ารุ่น Song L ระดับพรีเมียมจะเปิดตัวในปลายปี 2023 และมีเป้าหมายที่จะแข่งขันกับ Tesla Model Y คาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 300,000 หยวน (ประมาณ 1.49 ล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าราคาเริ่มต้นของ Model Y ที่ 261,900 หยวน (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) เพียงเล็กน้อย
BYD Song L มาพร้อมประตูแบบไร้กรอบ (frameless), สปอยเลอร์หลังปรับยกแบบไฟฟ้า และภาษาการออกแบบของคันนี้ “ Vanguard Dragon Beauty ” BYD Song L ดูสปอร์ตขนาดนี้ กลุ่มเป้าหมายหลัก คือกลุ่มวัยรุ่นที่หลงรักในความสปอร์ต
BYD Song L จะติดตั้งระบบควบคุมตัวถังใหม่ DiSus-A ซึ่งควบคุมระบบกันสะเทือนแบบถุงลมโดยมีการปรับระบบกันสะเทือนได้ถึง 150 มม. พร้อมโหมดการทำงานกว่า 10 โหมด ส่วนระบบขับเคลื่อนของ Song L จะเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่รายละเอียดที่แน่ชัดจะประกาศในวันเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2023
ในปี 2022 BYD ขายรถยนต์ได้ทั้งหมด 1,868,543 คัน โดยเฉพาะอย่างซีรีส์ Song SUV ซึ่งประกอบด้วย Song Plus และ Song Pro ก็ขายไปแล้ว 478,811 คัน ถือเป็นซีรีส์ที่ขายดีเลยทีเดียว BYD Song L จึงมาเสริมทัพอีกหนึ่งรุ่นในซีรีส์
ส่วนมิติของตัวรถยังไม่มีข้อมูลเปิดเผย แต่คาดการณ์ว่าจะอยู่ระหว่าง Song Plus EV และ Tang EV โดยอ้างอิงดังนี้ :
- Song Plus EV : 4,705 x 1,890 x 1,680 มม. ระยะฐานล้อ 2,765 มม.
- Tang EV : 4,900 x 1,950 x 1,725 มม. ระยะฐานล้อ 2,820 มม.
เมื่อวันที่ 11 เมษายน หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้เปิดเผย Song Plus EV เวอร์ชันปี 2023 โดยเผยให้เห็นภาษาการออกแบบใหม่หมด มีแรงม้าเพิ่มขึ้นด้วย แต่การออกแบบของ Song L ยังแตกต่างกับ Song Plus EV 2023 แต่กลับคล้าย BYD Denza N7
โดยปกติแล้วด้านหลังของตัวรถจะเขียนว่า “ Build Your Dreams ” แต่รุ่น Song L ปรับให้เหลือแค่ “ BYD ”
ถ้ามีข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติมทางทีมงานจะแจ้งให้ทราบครับ คาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวภายในปี 2023 นี้ และมาติดตามกันว่าจะสู้กับ Tesla Model Y ที่มียอดขายมากที่สุดในประเทศจีน ได้หรือไม่ ?
ที่มา – carnewschina
