IM LS6 รถ SUV ไฟฟ้า 100% ได้รับยอดสั่งซื้อมากกว่า 28,000 คัน ภายใน 1 เดือน นับหลังจากเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม ราคาเริ่มต้น 1.14 ล้านบาท

โดย Sahakrit S พฤศจิกายน 14, 2023, 16:20 1.8k ดู

IM LS6 รถ SUV ไฟฟ้า 100% ที่มาในสไตล์ Fastback ได้รับยอดสั่งซื้อมากกว่า 28,000 คัน ภายใน 1 เดือน นับหลังจากเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม โดยมีช่วงราคาอยู่ที่ 229,900 – 291,900 หยวน (31,900 – 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.14 – 1.44 ล้านบาท)

IM LS6 รถ SUV ไฟฟ้า 100% ได้รับยอดสั่งซื้อมากกว่า 28,000 คัน ภายใน 1 เดือน นับหลังจากเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม ราคาเริ่มต้น 1.14 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2023 IM Motors ประกาศว่าทางบริษัทได้รับยอดสั่งซื้อ IM LS6 SUV มากกว่า 28,000 คัน ภายใน 1 เดือน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีให้ลูกค้าได้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย แบ่งเป็น รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ 3 รุ่นย่อย และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 1 รุ่นย่อย โดยมีช่วงราคาอยู่ที่ 229,900 – 291,900 หยวน (31,900 – 40,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.14 – 1.44 ล้านบาท)

ราคาแต่ละรุ่นย่อย

MAX Standard Range (560 กม.) ราคา 229,900 หยวน (ประมาณ 1.14 ล้านบาท)
MAX Long Range (680 กม.) ราคา 249,900 หยวน (ประมาณ 1.24 ล้านบาท)
MAX Super Long Range (760 กม.) ราคา 273,900 หยวน (ประมาณ 1.36 ล้านบาท)
MAX Super Performance (702 กม.) ราคา 291,900 หยวน (ประมาณ 1.44 ล้านบาท)

IM Motors ซึ่งย่อมาจาก “Intelligence in Motion” เป็นการร่วมทุนระหว่าง SAIC Motor, Zhangjiang Hi-Tech และ Alibaba Group เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2022 โดยมีชื่อภาษาจีนว่า Zhiji Motors (智己汽车)

ดีไซน์ภายนอก

มิติตัวถัง 4,904 x 1,988 x 1,669 มม.
ระยะฐานล้อ 2,950 มม.
ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน cd = 0.237
ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว (มาตรฐานทุกรุ่นย่อย)
ขนาดยางหน้า 235/50 R20
ขนาดยางหลัง 255/45 R20
ล้ออัลลอยแบบ Lightweight ขนาด 20 นิ้ว (เพิ่มเงิน 3,800 หยวน หรือประมาณ 18,800 บาท)
ขนาดยางหน้า 235/50 R20
ขนาดยางหลัง 255/45 R20
ล้ออัลลอยแบบ Sport High-Performance ขนาด 21 นิ้ว (เพิ่มเงิน 9,800 หยวน หรือประมาณ 48,500 บาท)
ขนาดยางหน้า 235/45 R21
ขนาดยางหลัง 265/40 R21
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า ความจุ 32 ลิตร
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ความจุ 665 – 1,640 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)

ขุมพลัง

IM LS6 SUV มาพร้อม 2 รุ่น ทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง และรุ่นมอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยแบ่ง ดังนี้

MAX Standard Range (560 กม.) ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียม 71 kWh ให้กำลัง 314 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร สถาปัตยกรรม 400V อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
MAX Long Range (680 กม.) ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียม 90 kWh ให้กำลัง 340 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร สถาปัตยกรรม 400V อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
MAX Super Long Range (760 กม.) ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียม 100 kWh ให้กำลัง 515 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร สถาปัตยกรรม 800V อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม.
MAX Super Performance (702 กม.) ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ลิเธียม 100 kWh ให้กำลัง 787 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตร สถาปัตยกรรม 800V อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.48 วินาที ความเร็วสูงสุด 252 กม./ชม.

ตัวชุดแบตเตอรี่ลิเธียม จัดทําโดย United Auto Battery ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง CATL และ SAIC Motor มีการรับประกันตัวแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 240,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) นอกจากนี้ IM LS6 ยังรองรับการชาร์จเร็ว ที่กระแสไฟแรงดันสูง 800V ซึ่งชาร์จเร็วเพียง 15 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทาง 500 กม. หรือ ชาร์จเร็วเพียง 5 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทาง 200 กม.

ดีไซน์ภายใน

ภายในห้องโดยสาร ดีไซน์เรียบง่าย มีปุ่มทางกายภาพลดน้อยลง และมีหน้าจอหลายจอ รวมถึงหน้าจอแผงหน้าปัด LCD ขนาด 26.3 นิ้ว, หน้าจอฝั่งผู้โดยสารขนาด 15.5 นิ้ว (เป็นอุปกรณ์เสริม เพิ่ม 6,000 หยวน หรือประมาณ 30,000 บาท) และหน้าจอบริเวณคอนโซลกลางขนาด 10.5 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีปุ่มแบบเลื่อนได้บนพวงมาลัย มีพื้นผิวเป็นโลหะอีกด้วย

ตัวรถมาพร้อมระบบปฏิบัติการ IM OS 2.0 ที่ IM Motors พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 และยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ได้แก่ การโต้ตอบด้วยเสียง, การชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย กำลังไฟ 15W, พอร์ตชาร์จ USB-C กำลังไฟสูงสุด 60W, ระบบอุ่นพวงมาลัย, ไฟ Ambient Light 256 สี, ประตูท้ายแบบไฟฟ้า และหลังคากระจกพาโนรามิก บานใหญ่

ระบบความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยของ IM LS6 มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงระดับ 2 (ADAS) โดยทำงานผ่านกล้อง 11 ตัว, เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว, เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 3 ตัว และ LiDAR ในฟังก์ชัน ADAS รวมถึง ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking), ระบบรักษาให้รถอยู่ในเลน (Lane Keeping Assist), ระบบเตือนป้ายจราจร (Traffic Sign Recognition), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (Lane Changing Assist) และระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (Autonomous Parking)