Sakura P.
เราคงจะเคยผ่านตารถยนต์ Lynk & Co 09 จากแบรนด์ Geely กันมาแล้ว รถยนต์รุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 เป็นรถ SUV ขนาดใหญ่ ใช้แพล็ตฟอร์มเดียวกันกับ Volvo XC90 มีรูปแบบเบาะทั้งแบบ 6 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง ล่าสุดบริษัทก็ได้เผยภาพอย่างเป็นทางการของรถยนต์ Lynk & Co 09 รุ่น 5 ที่นั่งใหม่ เตรียมเปิดตัวในวันที่ 15 มิ.ย. 2023 นี้
เผยภาพรถยนต์ SUV Lynk & Co 09 รุ่น 5 ที่นั่งใหม่ จาก Geely เตรียมเปิดตัว 15 มิ.ย. นี้
รถยนต์ รุ่น 09 เป็นรถรุ่นเรือธงของ Lynk & Co มีให้เลือกหลายรุ่นตามสถาปัตยกรรม SPA ที่ออกแบบร่วมกับ Volvo ก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวถึง 6 รุ่นด้วยกัน ราคาอยู่ในช่วง 37,100 – 51,700 ดอลลาร์สหรัฐ (265,900 – 370,900 หยวน)
Lynk & Co 09 ใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ เป็นรถ SUV รุ่น 5 ที่นั่ง มาพร้อมตัวเลือกระบบส่งกำลัง 2 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0T + ระบบไฮบริด 48V ให้กำลัง 187 kW แรงบิดสูงสุด 350 N·m พร้อมเกียร์ 8AT ส่วนอีกหนึ่งตัวเลือกเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.0T ให้กำลัง 382 kW แรงบิดสูงสุด 844 N·m พร้อมระบบ 3 Speed DHT
ตัววรถ Lynk & Co 09 รุ่น 5 ที่นั่ง มีขนาด กว้าง x ยาว x สูง ที่ 5,042 x 1,977 x 1,780 มม. ระยะฐานล้อ 2,984 มมห้องเก็บสัมภาระมีขนาด 691 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลังลง เพิ่มขนาดได้ถึง 1,522 ลิตร ดีไซน์ภายนอก เสา B และเสา C เป็นสีดำ ทำให้หลังคาดูโดดเด่น ส่วนล้อเป็นล้อแม็ก 10 ก้าน
ดีไซน์ภายในห้องโดยสารโดยรวมคล้าย ๆ กับรุ่นที่เปิดขายในปัจจุบัน ฝั่งคนขับใช้พวงมาลัยแบบ 3 ก้านท้ายตัด ส่วนของแผงหน้าปัดเป็นแบบ LCD ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอส่วนกลางเป็นหน้าจอคู่ขนาด 12+6 นิ้ว มีหน้าจอ HUD ขนาด 12.8 นิ้ว และหน้าจอเล็ก ๆ ใกล้สวิตช์ควบคุมตรงกลางขนาด 1.4 นิ้ว 2 หน้าจอ
Lynk & Co 09 รุ่น 5 ที่นั่งมีเบาะ 2 แถว ภายในดูกว้างขวาง เบาะโดยสารมาพร้อมฟังก์ชันปรับอุณหูภูมิเบาะให้อุ่น ระบายอากาศ และการนวด เบาะแถวหลังมีแท่นวางแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำตรงกลางและมีแอร์สำหรับด้านหลัง
นอกจากนี้ในห้องโดยสารยังมีระบบฟอกอากาศ และสามารถทำความสะอาดภายในอัตโนมัติ ด้านบนเป็นหลังคาซันรูฟแบบพาโนราคา มีไฟไฟแอมเบี้ยนไลท์ 19 สีสำหรับปรับแต่งห้องโดยสาร ระบบเสียง Bose มาพร้อม 14 ลำโพง
รถยนต์ SUV Lynk & Co 09 รุ่น 5 ที่นั่งใหม่ ยังมาพร้อมสีใหม่ที่เรียกว่า Deep Sea Blue ด้วย และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ในประเทศจีน
ที่มา carnewschina
