Sakura P.
บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์วางแผนสกัดลิเธียมจากน้ำเค็มในแหล่งน้ำมัน เพื่อกระจายเศรษกิจและผลกำไรในยุคของการเปลี่ยนจากรถยนต์น้ำมันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV)
บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ในซาอุดีอาระเบีย วางแผนเริ่มสกัดลิเธียมจากน้ำเค็มในแหล่งน้ำมัน สำหรับผลิตแบตเตอรี่รถ EV
ประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่เศรษฐกิจพึ่งพาน้ำมันมาหลายทศวรรษกำลังจะเข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า โดยรายงานจาก Reuters เผยว่าบริษัทน้ำมัน Saudi Aramco และ Abu Dhabi National Oil Company (ADNOC) ได้เริ่มโครงการใหม่ในการสกัดลิเธียมจากน้ำทะเล โดยแร่ลิเธียมนั้นถือเป็นแร่ธาตุสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า
โดยเทคโนโลยีที่เลือกใช้ในการสกัดลิเธียมจากน้ำเค็มนั้นคือ เทคโนโลยี Direct Lithium Extraction (DLE) แต่แหล่งข่าวและบริษัทน้ำมันปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับประเภทของเทคโนโลยี DLE ที่ใช้ เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ต่อสาธารณะ
ข้อดีของการสกัดโลหะน้ำหนักเบาจากน้ำเค็มด้วยเทคโนโลยี DLE ก็คือ ช่วยหลีกเลี่ยงในการทำเหมืองแร่แบบเปิดหรือบ่อระเหยขนาดใหญ่ที่มีค่าใช้จ่ายสูงและไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งปัจจุบันประเทศชิลีและออสเตรเลียกำลังทำอยู่
การสกัดลิเธียมจากน้ำเค็มนั้นมีปัญหาในเรื่องระดับความเข้มข้นที่อาจจะต่ำมาก แต่หนึ่งในผู้ให้ข้อมูลเผยว่า Aramco กำลังใช้เทคโนโลยีการกรองแบบใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาความเข้มข้นนี้ อย่างไรก็ตามการสกัดลิเธียมในโครงการนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีความเชี่ยวชาญในการจัดการน้ำมัน น้ำเค็ม และน้ำเสีย จากแหล่งผลิตน้ำมัน จึงไม่น่าจะเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการมากนัก
ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งจากธุรกิจน้ำมัน จึงสามารถยอมรับความเสี่ยงทางการเงินได้ นอกจากนี้ยังมีแผนกระจายความเสี่ยง รวมถึงจัดตั้งตนเองเป็นศูนย์กลางรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยอาจจะใช้ประโยชน์จากการสกัดแร่ลิเธียมมาเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ราชอาณาจักรนี้ได้ก่อตั้งแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า Ceer ของตนเองขึ้นมา และสร้างโรงงานโลหะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ลงทุนโดยกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย (PIF) มีเป้าหมายผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 500,000 คันต่อปีภายในปี 2030 โดยมีบริษัท Saudi Arabian Mining Company (Ma’aden) ที่เป็นบริษัทขุดที่ใหญ่ที่สุดในอ่าวเปอร์เซีย ก็กำลังดำเนินการสกัดลิเธียมจากน้ำทะเล
ปัจจุบัน อัตราการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าชะลอตัวลง จึงส่งผลให้ราคาลิเธียมลดลงประมาณ 80% นับตั้งแต่แตะจุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2022 แต่ผู้ผลิตรถยนต์ต่างก็มองหาแหล่งแร่ลิเธียมใหม่ ๆ เพื่อรองรับการความต้องการที่เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยนักวิเคราะห์มองว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับแร่ลิเธียมในหลายปีข้างหน้า ถึงแม้ว่าจะมีการวิจัยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ทางเลือกอื่นที่ใช้ลิเธียมน้อยลงหรือไม่ใช้เลยก็ตาม
ดังนั้นถ้าหากการสกัดลิเธียมจากน้ำทะเลในประเทศแหล่งน้ำมันทำได้สำเร็จ และได้ลิเธียมในปริมาณมาก ก็ถือเป็นการเปิดธุรกิจความมั่งคั่งใหม่ของประเทศเหล่านี้ สามารถลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมันและถือเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า
