AION (ไอออน) เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่ของ Guangzhou Automobile Corporation (GAC – กวางโจว ออโตโมบิล คอร์ปอเรชั่น) ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 5 จากแดนมังกร เป็นผู้ผลิตรถยนต์จากจีนรายล่าสุดที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย มาทำความรู้จักประวัติคร่าว ๆ ของ GAC กันครับ
พาชมรถเด่นจาก GAC AION ที่คาดว่าจะนำมาแสดงในงาน Motor Expo 2023 ปลายปีนี้
AION เป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2017 โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า GAC AION New Energy Automobile (GAC AION) ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อความก้าวหน้าในการพัฒนาธุรกิจรถยนต์พลังงานใหม่ รวมทั้งมุ่งมั่นนำเสนอยานยนต์ระดับโลก, ผลิตภัณฑ์ และบริการด้านพลังงานรูปแบบใหม่ เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกที่มีความน่าเชื่อถือในการส่งเสริมการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืน และสร้างยานยนต์เพื่อสังคมทุกคนในสังคม
ก่อนที่จะเริ่มดำเนินงานในฐานะแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า ภายใต้กลุ่มธุรกิจ GAC New Energy ในปี 2018 โดยเปิดตัวรุ่นแรกคือ AION S เป็นรถซีดานไฟฟ้า ในงาน Auto Guangzhou ช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 และในปี 2019 GAC ประกาศแผนเปิดตัวรถยนต์ในเครือถึง 12 รุ่น รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ AION ทั้ง AION LX (SUV ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าขนาดกลาง), AION V (คอมแพ็กต์ SUV) และ AION Y (SUV ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก) ก่อนจะถูกย้ายไปอยู่ในการบริหารของ GAC Group ในเดือน พฤศจิกายน 2020
ต่อมาในปี 2021 GAC ประกาศแผนพัฒนาแบตเตอรี่ที่ผลิตจาก Graphene (กราฟีน) วัสดุนำไฟฟ้า และความร้อนที่ดีที่สุดของโลกในเวลานี้ เพื่อติดตั้งใน AION V รุ่นปรับโฉม รองรับกำลังไฟฟ้า 70 kWh ทำให้ชาร์จจาก 0-80 % ใช้เวลาเพียง 8 นาที
หลังจากนั้น GAC ประกาศแผนก่อตั้ง A480 สถานีชาร์จเร็วที่มีหัวชาร์จไฟฟ้าความแรงสูง 480 kW เพื่อรองรับ AION V Plus ที่เพิ่มขนาดแบตเตอรี่ใหม่ มีระยะการขับสูงสุด 702 กม. สามารถชาร์จจาก 30-80% ภายใน 5 นาที และยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ตามที่ข้อมูลระบุว่า หลังจากชาร์จไฟไปแล้ว 1,600 รอบ มีอัตราเสื่อมเพียง 5% เท่านั้น
เมื่อเดือนกันยายนปี 2022 GAC ได้ปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ AION สู่ความ Luxury ด้วยการเปิดตัวรุ่น Hyper SSR รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าที่พัฒนามาจากรถต้นแบบ 2020 GAC Enpulse โดยมีพละกำลังสูงสุด 1,225 แรงม้า ทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 1.9 วินาที โดยมีราคาอยู่ที่ 1,286,000 หยวน (ประมาณ 6.32 ล้านบาท) และ 1,686,000 หยวน (ประมาณ 8.29 ล้านบาท)
ในปี 2022 AION มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนไปแล้วกว่า 271,000 คัน โดยตามแผนการดำเนินงานของ GAC AION พวกเขาตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1 ล้านคัน ภายในปี 2025 และ 3 ล้านคัน ภายในปี 2030
GAC บุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย
ในวันที่ 28 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น CnEVPost รายงานข้อมูลว่า GAG AION ได้เซ็นลงนามความร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายในไทย เตรียมเปิดแบรนด์ บุกตลาด EV ในไทยอย่างเป็นทางการ
รายงานเผยว่า GAC AION จะตั้งสำนักงานใหญ่ในไทยภายในปีนี้ พร้อมเตรียมก่อตั้งโรงงานผลิตรถในไทยด้วย
GAC AION เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน ทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 45,003 คัน เมื่อเดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมา และทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเกิน 40,000 คัน ติดกันถึง 3 เดือน
สมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน (China Passenger Car Association – CPCA) รายงานข้อมูลว่า GAC AION เป็นอันดับ 2 จาก 10 อันดับแรกรถขายดีในจีน ตามหลัง BYD ที่ทำยอดขายรถยนต์ไปได้ 220,735 คัน
GAC AION วางแผนที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 500,000 คัน ในปีนี้ CnEVPost เผยว่า เพราะในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีนมีการแข่งขันที่สูงมาก ทำให้แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าหลายเจ้า เริ่มขยายตลาดไปสู่ประเทศอื่นมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทย
ยานยนต์ไฟฟ้าที่คาดว่านำมาจัดโชว์และให้สัมผัส ภายในบูธ E03 ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 (Motor Expo 2023)
AION Y Plus เป็นรถ SUV ครอสโอเวอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก
- มิติตัวรถ 4,535 x 1,870 x 1,650 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,750 มม.
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น 150 มม.
- ไฟหน้า LED แบบ Angel Wings Big Eyes
- ไฟท้ายแบบ Through-Type ลากเชื่อมทั้งสองฝั่ง
- ใช้แพลตฟอร์มไฟฟ้า GEP 2.0 (GAC Electric Platform 2.0)
- มือเปิดประตูแบบซ่อนเรียบไปกับตัวรถ
- ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า
- กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 100 kW และ 150 kW
- พละกำลัง 134 แรงม้า และ 201 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 176 นิวตันเมตร และ 225 นิวตันเมตร
- แบตเตอรี่มีทั้ง LFP และ NMC
- ความจุแบตเตอรี่ 51.9 kWh, 61.7 kWh และ 69.98 kWh
- ระยะทางที่วิ่งได้ 430 กม., 510 กม. และ 610 กม. ตามมาตรฐาน CLTC (แต่ละรุ่นย่อย)
- ล้ออัลลอยขนาด 17 – 19 นิ้ว
- หลังคากระจก Panoramic View ขนาด 2 ตารางเมตร
- หน้าจอสัมผัส infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 10.25 นิ้ว
- ไฟสร้างบรรยากาศ 32 สี
- ลำโพง 6 ตัว
- ระบบปรับอากาศพร้อมกรอง PM2.5
- รองรับการอัปเดตแบบ OTA (over-the-air)
- เรดาร์ถอยหลัง
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
- เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
- ราคาเริ่มต้น 119,800 หยวน (ประมาณ 5.89 แสนบาท)
AION V Plus เป็นรถคอมแพ็กต์ SUV 5 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง
- มิติตัวรถ 4,650 x 1,920 x 1,720 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,830 มม.
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น 150 – 160 มม.
- ไฟหน้า LED แบบแยกส่วน Light Claw Electric Eye
- ไฟท้าย LED แบบ Universal Blade
- ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
- ใช้แพลตฟอร์มไฟฟ้า GEP 2.0 (GAC Electric Platform 2.0)
- ช่วงล่างด้านหน้าเป็น McPherson Stut
- ช่วงล่างด้านหลังเป็น Multi-link
- มือเปิดประตูแบบซ่อนเรียบไปกับตัวรถ แบบไฟฟ้า
- กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 165 – 180 kW
- พละกำลัง 221 – 241 แรงม้า
- แบตเตอรี่มีทั้ง LFP และ NMC
- ความจุแบตเตอรี่ 54.37 kWh, 67.97 kWh, 69.9 kWh, 72.1 kWh และ 80 kWh
- ระยะทางที่วิ่งได้ 400 กม., 500 กม. และ 600 กม. ตามมาตรฐาน CLTC (แต่ละรุ่นย่อย)
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 7.6, 7.9 และ 9.5 วินาที
- พื้นที่เก็บสัมภาระท้าย 405 – 583 ลิตร
- หน้าจอสัมผัส infotainment ขนาด 15.6 นิ้ว
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว
- ล้ออัลลอยขนาด 19 – 20 นิ้ว
- หลังคากระจก Panoramic View ขนาด 2.2 ตารางเมตร
- ลำโพง Premium Hi-Fi 8 ตัว
- ระบบปรับอากาศพร้อมกรอง PM2.5
- รองรับระบบ V2L
- รองรับการอัปเดตแบบ OTA (over-the-air)
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
- ราคาเริ่มต้น 159,900 หยวน (ประมาณ 7.86 แสนบาท)
AION S Plus เป็นรถซีดานไฟฟ้า 5 ที่นั่ง
- มิติตัวรถ 4,810 x 1,880 x 1,515 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,750 มม.
- ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า
- ไฟหน้า LED Streamer Arc
- ไฟ Daytime Running Light
- ไฟท้าย LED Laser Blade
- ไฟตัดหมอกหลังแบบ LED และไฟเบรกแบบ High Mount Stop
- ช่วงล่างด้านหน้าเป็น McPherson Stut
- ช่วงล่างด้านหลังเป็น Torsion Beam
- มือเปิดประตูแบบซ่อนเรียบไปกับตัวรถ แบบไฟฟ้า
- กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 150 kW
- แบตเตอรี่มีทั้ง LFP และ NMC
- ความจุแบตเตอรี่ 58.8 kWh, 59.4 kWh, 60 kWh และ 68 kWh
- ระยะทางที่วิ่งได้ 510 กม. และ 610 กม. ตามมาตรฐาน CLTC (แต่ละรุ่นย่อย)
- ล้ออัลลอยขนาด 17 – 18 นิ้ว
- หลังคากระจก Panoramic View ขนาด 1.9 ตารางเมตร
- ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน cd = 0.211
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
- เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
- หน้าจอสัมผัส infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 10.25 นิ้ว
- ระบบปรับอากาศพร้อมกรอง PM2.5
- รองรับการอัปเดตแบบ OTA (over-the-air)
- ระบบจดจำใบหน้า Face ID
- กล้อง 360 องศา
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
- ราคาเริ่มต้น 149,800 หยวน (ประมาณ 7.36 แสนบาท)
AION LX Plus เป็นรถ SUV ครอสโอเวอร์ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง
- มิติตัวรถ 4,835 x 1,935 x 1,685 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,920 มม.
- ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ
- ช่วงล่างด้านหน้าเป็น McPherson Stut
- ช่วงล่างด้านหลังเป็น 5 link
- มือเปิดประตูแบบซ่อนเรียบไปกับตัวรถ แบบไฟฟ้า
- กำลังมอเตอร์ไฟฟ้า 180 kW และ 360 kW
- แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร และ 700 นิวตันเมตร
- ความจุแบตเตอรี่ 93.3 kWh และ 144.4 kWh
- ระยะทางที่วิ่งได้ 600 กม., 650 กม. และ 1,008 กม. ตามมาตรฐาน CLTC (แต่ละรุ่นย่อย)
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.9, 7.8 และ 7.9 วินาที
- ล้ออัลลอยขนาด 19 – 20 นิ้ว
- หลังคากระจก Panoramic View
- Ultrasonic Sensor 12 ตำแหน่ง
- หน้าจอสัมผัส infotainment ขนาด 15.6 นิ้ว
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว
- ลำโพง 10 ตัว จากแบรนด์ ALPINE
- ระบบปรับอากาศพร้อมกรอง PM2.5
- รองรับการอัปเดตแบบ OTA (over-the-air)
- ไฟสร้างบรรยากาศ 32 สี
- ราคาเริ่มต้น 286,600 หยวน (ประมาณ 1.41 ล้านบาท)
AION Hyper GT เป็นรถซีดานสปอร์ต สไตล์คูเป้เปิดประตูแบบปีกนก
- มิติตัวรถ 4,886 x 1,885 x 1,449 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,920 มม.
- ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาง Cd = 0.197
- มุมเปิดประตูสูงถึง 43°
- ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
- พละกำลัง 245 แรงม้า และ 340 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 355 นิวตันเมตร และ 430 นิวตันเมตร
- แบตเตอรี่มีทั้ง LFP และ NMC
- ความจุแบตเตอรี่ 59.9 kWh, 70.1 kWh และ 80.1 kWh
- ระยะทางที่วิ่งได้ 560 กม., 600 กม. และ 710 กม. ตามมาตรฐาน CLTC (แต่ละรุ่นย่อย)
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 4.9 และ 6.5 วินาที
- ล้ออัลลอยไดนามิกขนาด 19 นิ้ว 6 ก้านออกแบบพิเศษ
- หน้าจอสัมผัส infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย 2 ตำแหน่ง
- ลำโพง 23 ตัว
- คุณภาพเสียงแบบ Dolby Atmos
- เซ็นเซอร์ LiDAR 3 ตัว
- สามารถสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ ได้ภายใน 90 วินาที
- ราคาเริ่มต้น 219,900 หยวน (ประมาณ 1.08 ล้านบาท)
AION Hyper SSR เป็นรถซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้า 2 ประตู เปิดแบบปีกนก
- มิติตัวรถ 4,538 x 1,988 x 1,238 มม.
- ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาง Cd = 0.146
- ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง และ 4 ล้อ
- พละกำลัง 1,225 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 12,000 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 1.9 และ 2.3 วินาที
- ไฟหน้า LED รูปตัว L
- สปอยเลอร์หลังปรับระดับด้วยไฟฟ้า
- ดิฟฟิวเซอร์ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์
- หน้าจอสัมผัส infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว
- หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 8.8 นิ้ว
- ราคาเริ่มต้น 1,286,000 หยวน (ประมาณ 6.32 ล้านบาท)
แต่ล่าสุดถูกพบเห็น GAC AION Y Plus วิ่งทดสอบในประเทศไทย นี่ก็นับว่าเป็นการส่งสัญญาณแล้วว่าทาง GAC AION จะทำการตลาดในไทยอย่างแน่นอน
ที่มา – CnEVPost , Grandprix และ AION