Neta AYA เป็นรุ่นปรับโฉมใหม่ของ Neta V รุ่นปรับโฉมใหม่นี้จะมาพร้อมระบบความปลอดภัย/ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมาย หน้าจอ infotainment มีการใช้ชิปตัวใหม่ หน้าจอจะตอบสนองเร็วขึ้นกว่ารุ่นเดิมแน่นอน รอลุ้นว่าจะเข้าไทยเมื่อไหร่
Neta AYA เปิดตัวในประเทศจีน เผยรายละเอียดมากมาย ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ วิ่งได้ระยะทาง 401 กม. ราคาเริ่มต้นที่ 73,800 หยวน
Neta AYA รถ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กเปิดตัวในประเทศจีนด้วยกําลังสูงสุด 95 แรงม้า วิ่งได้ระยะทาง 401 กม. และราคาเริ่มต้นที่ 73,800 หยวน (ประมาณ 3.57 แสนบาท) เป็นการปรับโฉมรถยนต์ไฟฟ้า Neta V ที่มีชื่อเสียง ซึ่งไม่จําหน่ายเพียงแต่ในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังมีจำหน่ายในประเทศไทยด้วย มาทําความรู้จักกับ Neta AYA กันครับ
ดีไซน์ภายนอก
- มิติตัวรถ 4,070 x 1,690 x 1,540 มม.
- ระยะฐานล้อ 2,420 มม.
Neta AYA เป็นรุ่นปรับโฉมของ Neta V การออกแบบภายนอกไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่มีการปรับปรุงเพียงเล็กน้อย ที่กันชนหน้าปรับปรุงให้ดูดุดันและสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้วยช่องรับอากาศบริเวณป้ายทะเบียน ใช้รูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจากรุ่นเดิม ตกแต่งด้วยลวดลายดอทเมทริกซ์ ล้อขนาด 15 นิ้ว ยางขนาด 185/65 R15 (ในรุ่น 318 Lite และรุ่น 318), ล้อขนาด 16 นิ้ว ยางขนาด 185/55 R16 (ในรุ่น 401 Lite และรุ่น 401) ,ไฟหน้า Halogen (ในรุ่น 318 Lite และรุ่น 401 Lite), ไฟหน้าแบบ LED (ในรุ่น 318 และรุ่น 401) และไฟ LED Daytime Running Lights มีทุกรุ่นย่อย
ด้านท้ายของตัวรถมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน คือไฟท้ายใหม่แบบแนวยาว ทำให้ดูลงตัวมากกว่าเดิม และกันชนท้ายมีการปรับเล็กน้อย ให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น
ขุมพลัง
Neta AYA มีระบบส่งกำลัง 2 ตัวเลือก ได้แก่
- มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 40 kW ที่มีกำลัง 54 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ LFP จากบริษัท Guangxi Ningfu สามารถวิ่งได้ระยะทาง 318 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) ก่อนหน้านี้ Neta V จะใช้แบตเตอรี่ LFP และ NMC จาก CATL ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่อันดับต้นๆในประเทศจีน สำหรับบริษัท Guangxi Ningfu เป็นบริษัทที่ค่อนข้างใหม่ เพิ่งเปิดตัวไปในปี 2021 ดูเหมือนว่า Neta จะถอยหลังไปหนึ่งก้าว
- มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 70 kW ที่มีกำลัง 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ LFP จากบริษัท SVOLT สามารถวิ่งได้ระยะทาง 401 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) บริษัทแบตเตอรี่ SVOLT เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่รู้จักกันดี ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่ดี ในการซื้อ Neta AYA ด้วยแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าจากซัพพลายเออร์ที่มีประสบการณ์กว้างขวางในแวดวงนี้
- ความเร็วสูงสุด 101 กม./ชม.
- อัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. เพียง 5.9 และ 4.1 วินาที
- รองรับการชาร์จ AC กำลังไฟ 3.3 kW และ 6.6 kW
- รองรับการชาร์จ DC กำลังไฟ 45 kW
- สามารถชาร์จจาก 30-80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
- รองรับฟังก์ชัน V2L กำลังไฟ 3.3 kW (ในรุ่น 401 Lite และรุ่น 401)
ดีไซน์ภายใน
การตกแต่งภายในของ Neta AYA ยังคงใช้ภาษาการออกแบบเดียวกับ Neta V มีพวงมาลัยดีไซน์สปอร์ตแบบ 2 ก้าน เหมือนกัน หน้าจอสัมผัส infotainment แนวตั้งขนาด 14.6 นิ้ว หน้าจอแผงหน้าปัดขนาด 12 นิ้ว พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ความจุ 588 ลิตร (เมื่อพับเบาะ) แต่มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจน คือเปลี่ยนโทนสีภายในเป็นสีขาวดำใหม่, สีฟ้าขาว และสีดำทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ภายใน Neta V มีเพียงสีดำและสีชมพู(เฉพาะในประเทศจีน)เท่านั้น และมีสิ่งที่น่าสนใจ ที่ Neta AYA ใช้ชิปประมวลผล MT8675 จาก MediaTek มีประสิทธิภาพคล้ายกับ Qualcomm 8155 คาดว่าหน้าจอจะตอบสนองเร็วขึ้นกว่ารุ่นเดิม ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, เซ็นเซอร์ถอยจอดด้านหลัง, กล้องมองถอยหลัง, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control), ลำโพง 4 ตัว, ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย, คาราโอเกะในรถ และเซ็นเซอร์ตรวจจับปริมาณน้ำฝน
ราคา
Neta AYA มาพร้อม 4 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น 318 Lite ราคา 73,800 หยวน (ประมาณ 3.57 แสนบาท)
- รุ่น 318 ราคา 78,800 หยวน (ประมาณ 3.81 แสนบาท)
- รุ่น 401 Lite ราคา 84,800 หยวน (ประมาณ 4.10 แสนบาท)
- รุ่น 401 ราคา 88,800 หยวน (ประมาณ 4.30 แสนบาท)
สามารถซื้อแพ็กเกจพิเศษในราคา 4,000 หยวน (ประมาณ 19,400 บาท) ที่เพิ่มระบบความปลอดภัย ช่วยเหลือการขับขี่ ระดับ L2 ทั้ง 16 ระบบ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC : Adaptive Cruise Control)
- ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (FCW : Forward Collision Warning)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB : Automatic Emergency Braking)
- ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HBA : High Beam Assist)
- ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSD : Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในเลน (LKA : Lane Keeping Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW : Lane Departure Warning)
- ระบบเตือนป้ายสัญญาณจราจร (TSR : Traffic Signs Recognition)
- ระบบเตือนไฟสัญญาณจราจร (TLR : Traffic Lights Recognition)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (TJA : Traffic Jam Assist)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (SGW)
- ระบบเตือนความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (DDW)
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (APA : Automatic Parking Assist)
- ระบบถอยจอดรถอัตโนมัติ (RPA : Reverse Parking Assist)
- ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีสิ่งกีดขวางอยู่หน้ารถ (PCW : Pedestrian Collision Warning)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA : Lane Change Assist)
นอกจากนี้ยังสามารถซื้อฟังก์ชันพิเศษเพิ่มได้ คือ เบาะคู่หน้าแบบอุ่นเบาะได้ ในราคา 15,000 หยวน (ประมาณ 72,500 บาท)
รอติดตามว่าประเทศไทยจะได้สเปคไหนเข้ามาทำตลาด
ที่มา – CarNewsChina