นิตยสารรถยนต์ What Car? ในอังกฤษได้ยกให้ Tesla Model 3 เป็นราชาแห่งรถประสิทธิภาพ ที่มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานต่ำ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากที่สุด หลังจากได้ทดสอบการวิ่งด้วยระยะทางต่อการชาร์จเต็มรูปแบบ
Tesla Model 3 ครองตำแหน่งรถยนต์ไฟฟ้าทรงประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน หลังทดสอบระยะทางสูงสุด
ในการทดสอบของ What Car? ได้ใช้รถยนต์ Tesla Model 3 Rear Wheel Drive (RWD) และรถยนต์อีก 11 รุ่นหลากหลายช่วงราคา โดยมี Tesla Model S ที่มีอายุถึง 9 ปี ไมล์มากกว่า 250,000 ร่วมทดสอบด้วย
การทดสอบเริ่มต้นด้วยการชาร์จแบตเตอรี่รถให้เต็มและใช้งานจนกว่าแบตเตอรี่หมด จากนั้นก็ทำการประเมินประสิทธิภาพของรถยนต์ในแต่ละคัน ชมวิดีโอทดสอบดังนี้
จากผลการทดสอบระยะทางของ What Car? พิสูจน์ได้ว่า Tesla Model 3 RWD เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในบรรดารถยนต์ไฟฟ้าที่นำมาทดสอบ ถึงแม้ว่ารถจะวิ่งระยะทางได้ 255 ไมล์ (410 กม.) แต่อัตราการบริโภคพลังงานเฉลี่ยถึง 4.4 ไมล์/กิโลวัตต์ชั่วโมง (7 กิโลเมตร/กิโลวัตต์ชั่วโมง )
แตกต่างจาก Audi Q6 e-tron Launch Edition เพื่อนร่วมทดสอบ ที่ทำได้เฉลี่ย 3.0 ไมล์/กิโลวัตต์ชั่วโมง (4.8 กิโลเมตร/กิโลวัตต์ชั่วโมง)
What Car? ประมาณการค่าใช้จ่ายจากตัวเลขของประสิทธิภาพที่ทดสอบได้ว่า ผู้ขับขี่จะใช้จ่ายค่าไฟฟ้าประมาณ 508 ปอนด์ในทุก ๆ 10,000 ไมล์ในรถยนต์ Model 3 RWD เทียบกับ Audi Q6 e-tron ที่มีค่าใช้จ่ายประมาณ 745 ปอนด์ ในทุก 10,000 ไมล์ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า Model 3 ประหยัดมากกว่า
What Car? ตั้งข้อสังเกตว่า ประสิทธิภาพนั้นมีความสำคัญมากในปัจจุบัน เนื่องจากราคาพลังงานสูงขึ้น โดยระบุว่า เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ค่าไฟฟ้ามีราคาถูก รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยกว่ารถยนต์น้ำมันเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน ซึ่งข้อมูลด้านประสิทธิภาพอาจไม่สำคัญมากนัก
แต่ด้วยปัจจุบันและในอนาคตต่อไปนี้ ราคาพลังงานอาจสูงขึ้นไปอีก จึงทำให้ข้อมูลด้านประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้รถยนต์ต้องนำมาพิจารณา เพื่อให้การขับขี่มีความประหยัดมากที่สุด
สิ่งที่น่าสนใจอีกหนึ่งเรื่องในการทดสอบครั้งนี้คือ รถยนต์ Tesla Model S ที่มีอายุถึง 9 ปี สามารถทำระยะทางได้ไกลว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่บางรุ่นที่ร่วมทดสอบ ถึงแม้ว่า Model S จะผ่านการใช้งานมาถึง 250,000 ไมล์ แต่ก็สามารถทำระยะทางสูดสุดได้ 213 ไมล์ต่อการชาร์จ วิ่งได้ยาวกว่า Peugeot e-308 SW (212 ไมล์) และ Mini Cooper SE (211 ไมล์) ถือว่าทำผลงานด้านระยะทางการวิ่งได้น่าประทับใจเลยทีเดียว
ที่มา teslarati