ใน ,

เปิดตัว Polestar 2 (2024) ปรับปรุงด้านหน้า อัปเกรดแบตเตอรี่และมอเตอร์ รถขับเคลื่อนล้อหลังคันแรกของแบรนด์

Polestar เปิดตัว Polestar 2 รุ่นโมเดล 2024 รถขับเคลื่อนล้อหลังคันแรกของแบรนด์ ตัดกระจังด้านหน้าออก เปลี่ยนให้เป็น SmartZone อัปเกรดมอเตอร์และแบตเตอรี่ให้วิ่งไกลขึ้น 48 กม. เปิดให้สั่งซื้อแล้ว ราคาประมาณ 1.9 ล้านบาท

เปิดตัว Polestar 2 (2024) ปรับปรุงด้านหน้า อัปเกรดแบตเตอรี่และมอเตอร์ รถขับเคลื่อนล้อหลังคันแรกของแบรนด์

Polestar 2 เปิดตัวเมื่อปี 2021 และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีจำหน่ายใน 27  ตลาด และมียอดขายทะลุ 100,000 คันในปลายปี 2022

โดย Pole Star 2 มีรุ่นย่อยให้เลือกหลายรุ่น เช่น รุ่น Long Range มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้า และรุ่นมอเตอร์คู่ปี 2023 รุ่นล่าสุด

เปิดตัว Polestar 2 (2024) รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง จะวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ โดยรุ่นนี้มีดีไซน์ตัวรถเหมือนกับ Polestar 3 รุ่นล่าสุดที่มีกำหนดวางขายในปีนี้เช่นกัน

Polestar 2 (2024) ขับเคลื่อนล้อหลัง วิ่งได้ไกลเพิ่มขึ้น 48 กม.

Polestar ได้แชร์รายละเอียด Polestar 2 รุ่นปี 2024 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีการอัปเกรดบางอย่าง มาพร้แมกระจังหน้าใหม่ ส่วนด้านนชหน้าใหม่นี้เรียกว่า  “SmartZone” ที่เราอาจจะได้เห็นก่อนในรถ Polestar 3 ที่กำลังจะมาในปีนี้ บริเวณ SmartZone ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ด้านหน้าหลายตัว เรดาร์ด้านหน้า ลวดความร้อน มาตรความเร่ง และเซ็นเซอร์อัลตราโซนิกที่เมื่อทำงานร่วมกันแล้วจะหลายเป็น “ตาอัจฉริยะ” พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยภายในรถ

Polestar 2 ทั้งสามรุ่นจะได้รับการอัปเกรดประสิทธิภาพด้วยแบตเตอรี่ใหม่และระบบส่งกำลังที่ได้รับการปรับปรุง  มอเตอร์รุ่นใหม่ของ Polestar จะเพิ่มพละกำลังจาก 231 แรงม้าเป็น 299 แรงม้า และหากเป็นรถรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (รุ่นปี 2024) จะมีอัตราการเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. เหลือ 5.9 วินาที เท่านั้น

ตอนนี้ Polestar 2 รุ่นมอเตอร์คู่ทั้งสองรุ่นมีระบบไบอัสล้อหลัง (แหล่งขับเคลื่อนหลัก) มอบการความสมดุล ให้ผลลัพธ์เรื่องประสิทธิภาพโดยรวมและสมรรถนะที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในด้านแรงม้า แรงบิด และอัตราเร่งโดยรวม รถมอเตอร์คู่ของ Polestar มอบระยะทางการวิ่งโดยเฉลี่ยน 434 กม./ชาร์จ

Polestar 2 (2024) รุ่นใหม่ใช้ชุดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ทำให้สามารถใช้งานพลังงานไฟฟ้าได้ไกลถึง 482 กม./ชาร์จ

คุณสมบัติใหม่อื่น ๆ ได้แก่

  • ล้ออัลลอยด์ฟอร์จขนาด 20 นิ้ว (อยู่ใน Performance Pack)
  • Driver Awareness เป็นมาตรฐานแล้ว (อยู่ใน Pilot Pack) เป็นระบบความปลอดภัยที่คอยเฝ้าระวัง ตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ ตัวรถที่มองเห็นได้ยาก ช่วยหลีกเลี่ยงการชน
  • หากอัปเกรด Performance Pack จะได้ Plus Pack ไปด้วยโดยอัตโนมัติด้วย ซึ่งจะได้ระบบเสียงระดับพรีเมียมของ Harman Kardon และหลังคากระจกแบบพาโนรามา เบรก Brembo, ล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้ว, แดมเปอร์วาล์วไหลคู่ของ Öhlins, การอัปเกรดซอฟต์แวร์ และเข็มขัดนิรภัยสีทองอันเป็นเอกลักษณ์ใน Performance Pack

Polestar 2 (2024) รุ่นขับเคลื่อนล้อ สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ตอนนี้ และจะส่งมอบภายในปีนี้ ราคาประมาณ 1.9 ล้านบาท (เทียบจากค่าเงินยูโร)

มารอลุ้นกันว่า Polestar จะนำรถมาทำตลากในไทยเมื่อไหร่ เพราะมีหลายคนที่กำลังรออยู่ไม่น้อย

ที่มา – electrek

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Yanika Seesai