เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2024 BYD Seagull คว้ารางวัล World Urban Car 2025 (รถที่เหมาะกับคนเมืองในปี 2025) ในงาน World Car Awards 2025 ที่จัดขึ้นในงาน New York International Auto Show
BYD Seagull คว้ารางวัล World Urban Car 2025 ในงาน World Car Awards 2025
BYD Seagull ได้รับรางวัลคัดเลือกให้ติด 1 ใน 3 อันดับของรถที่เหมาะกับคนเมืองในปี 2025 โดยคว้ารางวัล World Urban Car 2025 จากรายชื่อผู้เข้าชิงกว่า 12 ราย ซึ่ง Hyundai Inster/Casper Electric และ Mini Cooper Electric เข้ารอบ 3 อันดับสุดท้าย
รางวัล World Urban Car มีเงื่อนไข ก็คือ รถยนต์จะต้องผลิตในปริมาณอย่างน้อย 5,000 คัน/ปี และต้อง “วางจำหน่าย” ในตลาดหลักอย่างน้อย 2 ตลาด (จีน ยุโรป อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี ละตินอเมริกา สหรัฐอเมริกา) อย่างน้อย 2 ทวีปแยกกัน ภายในระยะเวลา 1 ม.ค. 2024 – 30 มี.ค. 2025 และรถยนต์ต้องมีความยาวโดยรวมสูงสุด 4.25 เมตร และได้รับการอนุมัติให้ใช้งานบนถนนสาธารณะ
นับเป็นความสําเร็จอีกครั้งหนึ่งของรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนอย่าง BYD ใน World Car Awards 2025 นี้ ซึ่งปีที่แล้ว BYD Dolphin ติด 1 ใน 3 อันดับของรถในหมวดหมู่เดียวกัน ในขณะที่ BYD Seal ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล World Car of the Year 2024 เช่นกัน ซึ่งเป็นเครื่องหมายว่า BYD ได้รับการยอมรับในระดับสากลอีกครั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ทั่วโลก
Stella Li รองประธานบริหารของ BYD
Stella Li รองประธานบริหารของ BYD กล่าวว่า “เราภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ BYD Seagull ได้รับการยอมรับว่าเป็น World Urban Car 2025 ในงาน World Car Awards 2025 รางวัลอันทรงเกียรติ ความสําเร็จนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการจัดหาเทคโนโลยีที่ยั่งยืนและบริการพิเศษให้กับลูกค้าทั่วโลก ที่ BYD ทุ่มเทเพื่อให้โลกมีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น และมีส่วนร่วมในความพยายามระดับโลกในการทําให้โลกเย็นลง 1 °C”
ภายในงานเสนอให้ Stella Li รองประธานบริหารของ BYD เป็นผู้หญิงคนแรกและผู้บริหารชาวจีนที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบุคคลแห่งปีของรถยนต์โลกปี 2025 อีกด้วย
สเปคเบื้องต้น BYD Seagull
ในประเทศจีน BYD Seagull 2025 มีราคาเริ่มต้น 69,800 หยวน (ประมาณ 3.18 แสนบาท) มีมิติตัวรถอยู่ที่ ความยาว 3,780 มม. ความกว้าง 1,715 มม. ความสูง 1,540 มม. และระยะฐานล้อ 2,500 มม. มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 55 kW 74 แรงม้า มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟส (LFP) โดยมีตัวเลือกแบตเตอรี่ 2 ขนาด คือ 30.1 kWh และ 38.9 kWh ระยะทางวิ่ง ที่ 305 กิโลเมตร และ 405 กิโลเมตร ตามลำดับ ตามมาตรฐาน CLTC
นอกจากนี้ยังมีหน้าจอสัมผัส infotainment ขนาด 12.8 นิ้ว เบาะหน้าอุ่น และพอร์ตชาร์จเร็ว USB ส่วนคุณสมบัติด้านความปลอดภัย เช่น การเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ การตรวจสอบจุดบอด และการแจ้งเตือนออกนอกเลน ก็เป็นระบบมาตรฐานให้เช่นกัน
BYD Seagull 2025 รุ่นล่าสุด แนะนำคุณสมบัติระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงสำหรับตลาดรถ EV ระดับเริ่มต้น รวมถึงระบบ Highway Autopilot, ระบบจดจำเส้นทาง และระบบจอดรถอัตโนมัติ ซึ่งเป็นระบบที่มีความสามารถสูงกว่าระดับ L2 ทั่วไป ซึ่งระบบ DiPilot 100 ใช้กล้อง 12 ตัว, เรดาร์ 5 ตัว และ Ultrasonic Sensor 12 ตัว
ที่มา carnewschina / worldcarawards