การปรับโฉมครั้งสำคัญของ Tesla Model S และ Model X ที่หลายคนรอคอย ใกล้เข้ามาทุกที และในที่สุดเราก็ได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าจะมีอะไรใหม่ ๆ บ้าง ถึงแม้ว่าการอัปเดตครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่ก็ช่วยเสริมรูปลักษณ์ของ Model S และ Model X ให้ดูสดใหม่ขึ้น นับตั้งแต่มีการปรับดีไซน์ครั้งใหญ่ไปเมื่อปี 2021
พบ Tesla Model S และ Model X โฉมใหม่ มาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟ Ambient light และมีกล้องกันชนหน้า
ไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผู้พบเห็นรถ Model S พรางตัววิ่งทดสอบอยู่ที่สนาม Nürburgring ประเทศเยอรมนี เผยให้เห็นกันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ รวมถึงสิ่งที่หลายคนรอคอยมานานคือ กล้องบริเวณกันชนหน้า และการพบเห็นครั้งใหม่นี้ ไม่มีการพรางตัวแล้ว ทำให้เราเห็นรายละเอียดส่วนต่าง ๆ ของ Model S และ Model X มากขึ้น
กระจังหน้าดีไซน์ใหม่
แม้ว่าก่อนหน้านี้ Model S ที่ถูกพรางตัวจะทำให้มองเห็นช่องเปิดคล้ายกระจังหน้าบริเวณด้านหน้าได้ไม่ชัดเจนมากนัก แต่ก็เห็นได้ว่ามีบางสิ่งเปลี่ยนแปลงไป แต่จากภาพถ่ายใหม่ที่เผยแพร่โดย The Kilowatts แสดงให้เห็นว่า Tesla ได้ปิดช่องดังกล่าวด้วยวัสดุที่มีผิวสัมผัสคล้ายคาร์บอนไฟเบอร์
ถึงแม้ว่าหลายคนจะคาดหวังการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่านี้ เช่น ดีไซน์ด้านหน้าที่ไม่มีกระจังหน้า และมีแถบไฟยาวคล้ายกับ Model Y รุ่นใหม่ แต่ดูเหมือนว่าการปรับโฉมครั้งนี้ไม่ได้เหมือนอย่างที่คาดไว้
การที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้เหมือนกับ Model Y ใหม่นี้ อาจเป็นเพราะ Tesla ต้องการลดการปรับเปลี่ยนเครื่องมือและกระบวนการผลิตสำหรับรถยนต์สองรุ่นนี้ ซึ่งมียอดจำหน่ายไม่สูงเท่ารุ่นอื่น
ส่วนไฟหน้านั้น แม้จะรองรับระบบไฟส่องสว่างแบบปรับอัตโนมัติ (Adaptive beams) อยู่แล้ว แต่ก็ยังคงใช้ดีไซน์เดิมเหมือน Model S และ Model X รุ่นปัจจุบัน
แผ่นรีดอากาศท้ายรถ Rear Diffuser
Tesla ยังได้ปรับปรุงดีไซน์ของแผ่นรีดอากาศท้ายรถด้วย แต่ยังไม่แน่ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะมีเฉพาะในรุ่น Plaid หรือไม่ ในขณะที่ Model Y รุ่นปรับโฉมใหม่ได้ย้ายตำแหน่งกล้องมองหลังขึ้นไปอยู่บนแถบตกแต่งท้ายรถ แต่สำหรับ Model S นั้นยังคงตำแหน่งกล้องไว้ที่เดิมเหมือนรุ่นก่อนหน้า
ไฟ Ambient Light ในห้องโดยสารมาแล้ว
ถือเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นภาพภายในห้องโดยสารที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และมีสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาอย่างเห็นได้ชัดเจนคือ ไฟ Ambient light ซึ่งในปัจจุบันไฟดังกล่าวมีอยู่ในรถยนต์ Tesla รุ่นใหม่อื่น ๆ ทั้งหมด และในที่สุดก็ได้นำมาใช้กับ Model S และ Model X แล้ว
ลักษณะการติดตั้งดูคล้ายกับใน Model Y คือมีแถบไฟส่องสว่างพาดไปตามแผงประตู แต่จะสั้นประมาณครึ่งประตู ไม่ได้ยาวเต็มประตูเหมือนกับ Model 3 Highland
ในช่วงปีที่ผ่านมา Tesla ได้ทำให้ฟีเจอร์ไฟ Ambient light มีประโยชน์มากขึ้น โดยผสานการทำงานเข้ากับลูกเล่นอื่น ๆ ของรถ ตัวอย่างเช่น ลูกเล่นใน Santa Mode และ Rainbow Road ก็จะใช้ประโยชน์จากไฟAmbient light นี้ด้วย
โดย Santa Mode จะเปลี่ยนสีไฟสลับไปมาระหว่างสีแดงและสีเขียวเพื่อสร้างบรรยากาศคริสต์มาส ส่วน Rainbow Road ก็จะเปลี่ยนสีไฟเป็นสีรุ้งหลากหลายสี
นอกจากนี้ Tesla ยังใช้การเปลี่ยนสีไฟในส่วนอื่น ๆ ด้วย เช่น การเปลี่ยนไฟ Ambient light เป็นสีแดงเมื่อรถอยู่ในโหมดบริการ (Service Mode) และในการอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด ยังได้เพิ่มตัวเลือกเพิ่มเติมสำหรับไฟ Ambient light เช่น ความสามารถในการปรับความสว่างของไฟ และการตั้งค่าว่าจะให้ไฟเปิดอยู่ตลอดเวลา หรือเปิดเฉพาะเวลากลางคืน
สีภายนอกใหม่
นอกจากนี้ ยังมีการพบเห็น Model X รุ่นปรับโฉมในสีตัวถังภายนอกใหม่ เป็นสีที่คล้ายคลึงกับ สีฟ้า Glacier Blu แต่ไม่เหมือนซะทีเดียว
กำหนดการเปิดตัว
Tesla จะยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ Model S รุ่นใหม่ แต่เคยบอกไว้ว่าจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นในช่วยปลายปีนี้
ทาง The Kilowatts ตั้งข้อสังเกตว่า ปัจจุบัน Tesla ไม่มีรถยนต์ Model S หรือ Model X เหลืออยู่ในลานจอดรถเตรียมออกจากโรงงานฟรีมอนต์เลย ก็เป็นไปได้ว่าว่ารถรุ่นปรับโฉมเหล่านี้อาจจะเปิดตัวได้ในเร็ว ๆ นี้
แม้ว่าการอัปเดตครั้งนี้จะถือเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในแง่ของการออกแบบตัวถังภายนอก แต่การเพิ่มกล้องบริเวณกันชนหน้า และไฟ Ambient Light ภายในห้องโดยสาร แต่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
คงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมอะไรอีกบ้างสำหรับรถยนต์ทั้งสองรุ่นนี้
ที่มา notateslaapp