หลังจากที่ Xpeng เปิดตัวรถ SUV รุ่นใหม่ Xpeng G7 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทได้เริ่มส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าในประเทศจีนอย่างเป็นทางการแล้ว
Xpeng ได้เริ่มส่งมอบรถยนต์ SUV รุ่น G7 ใหม่แล้ว หลังทำยอดจองได้มากกว่า Model Y ในเซี่ยงไฮ้
คุณ He Xiaopeng ประธานและซีอีโอของ Xpeng ได้ไปส่งมอบรถ Xpeng G7 ให้กับลูกค้าบางรายในเซี่ยงไฮ้ด้วยตนเอง โดยยอดสั่งจอง Xpeng G7 ในเซี่ยงไฮ้มีจำนวนมากกว่า Tesla Model Y อย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ บล็อกเกอร์บน Weibo บางคนยังระบุว่า 70-80% ของคำสั่งซื้อในเมืองนี้เป็นรุ่นท็อปอีกด้วย
Xpeng ได้เปิดตัว Xpeng G7 SUV เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ 602 Max, 702 Max และ 702 Ultra ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 195,800 หยวน (ประมาณ 980,000 บาท), 205,800 หยวน (ประมาณ 930,000 บาท) และ 225,800 หยวน (ประมาณ 1.02 ล้านบาท) ตามลำดับ
ราคาของ Xpeng G7 SUV ถูกกว่า Model Y ที่เป็นคู่แข่งมาก ซึ่งปัจจุบัน Model Y มี 2 รุ่นย่อยในจีน คือ รุ่น Standard range RWD และรุ่น Long-range AWD โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 263,500 หยวน (1.19 ล้านบาท) และ 313,500 หยวน (1.42 ล้านบาท) ตามลำดับ
หลังจากงานเปิดตัว Xpeng G7 เพียงไม่นาน Xpeng ได้ประกาศบน Weibo ว่า G7 ได้รับยอดจองมากกว่า 10,000 คัน ภายในเวลาเพียง 9 นาทีแรก
Xpeng G7 มีขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่า Model Y โดยมีความยาว 4,892 มม. กว้าง 1,925 มม. สูง 1,655 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,890 มม. ในขณะที่ Model Y มีความยาว 4,797 มม. กว้าง 1,920 มม. สูง 1,624 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,890 มม. เท่ากัน
Xpeng G7 เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่มาพร้อม ชิปขับขี่ AI Turing ที่พัฒนาโดย Xpeng เอง ซึ่งให้กำลังประมวลผลสูงถึง 2,250 TOPS ทำให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีกำลังประมวลผลสำหรับการขับขี่อัจฉริยะสูงที่สุดในปัจจุบัน
ทีมวิเคราะห์ของ Deutsche Bank โดยนักวิเคราะห์ Wang Bin คาดการณ์ยอดขาย Xpeng G7 ไว้ที่ประมาณ 100,000 คันต่อปี หรือประมาณ 8,000 คันต่อเดือน ทีมงานคาดว่า Xpeng จะส่งมอบ Xpeng G7 ได้ 55,000 คันในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของบริษัท
Xpeng ส่งมอบรถยนต์ได้ 34,611 คันในเดือนมิถุนายน ทำให้ยอดส่งมอบรวมในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 อยู่ที่ 197,189 คัน เพิ่มขึ้น 279.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่ายอดส่งมอบรวมทั้งปี 2024 ที่ 190,068 คัน และ Xpeng ตั้งเป้าที่จะ เพิ่มยอดส่งมอบเป็น 2 เท่า ในปีนี้เมื่อเทียบกับปี 2024
ที่มา cnevpost