Thanakrit Kongpon
ฉางอัน ออโตโมบิล ลงทุน 9.8 พันล้านบาท เตรียมเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ตั้งเป้าผลิตรถยนต์ทั้ง EV, PHEV, REEV ในประเทศให้ถึง 1 แสนคันต่อปี
ฉางอัน ออโตโมบิล ลงทุน 9.8 พันล้านบาท เตรียมเปิดโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ตั้งเป้าผลิตรถให้ถึง 1 แสนคันต่อปี
ฉางอัน ออโตโมบิล ประกาศตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยเงินลงทุน 9.8 พันล้านบาท ภายหลังที่ผู้บริหารระดับสูงเดินทางเข้าพบ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา
บริษัทดังกล่าวได้เลือกให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถ EV, PHEV, REEV (Range Extended EV*) พวงมาลัยขวาในอาเซียน ตั้งเป้าผลิตให้ถึง 1 แสนคันต่อปี เพื่อรองรับตลาดภายในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ และแอฟริกาใต้
*คือรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มีแบตเตอรี่ค่อนข้างใหญ่เท่ากับรถยนต์ไฟฟ้า
ทำความรู้จัก ฉางอัน ออโตโมบิล
ฉางอัน ออโตโมบิล เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของประเทศจีน อีกทั้งยังได้เปิดบริษัทร่วมทุนกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นจากต่างประเทศ อาทิ Changan Suzuki, Changan Ford, Changan Mazda, Changan PSA (บริษัทร่วมทุนจาก Peugeot) และอื่น ๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ ฉางอัน ออโตโมบิล ได้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นออกมาให้เราได้เห็นผ่านตาหลายรุ่น ได้แก่..
Changan Lumin รถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็คขนาดกระทัดรัด ที่มีดีไซน์น่ารักถูกใจใครหลาย ๆ คน มาพร้อมกับพละกำลัง 48 แรงม้า แบตเตอรี่ขนาด 28 kWh วิ่งได้ไกล 301 กม. มีสีรถให้เลือกถึง 7 สี
Changan Deep Blue SL03 รถซีดานไฟฟ้าล้วนมาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฟฟ้า 189 kW พละกำลัง 258 แรงม้า แบตเตอรี่ขนาด 58.1 kWh วิ่งได้ไกลถึง 515 กม. แถมยังรองรับการ์ชาร์แบบ DC สูงสุด 150 kW
และอีก 1 รุ่นที่เป็นไฮไลท์เด็ดของ ฉางอัน ออโตโมบิลที่ได้ร่วมผลิตรถยนต์กับทาง Huawei และ CATL บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ ในรถรุ่น Avatr 11 รถ SUV ไฟฟ้าสุดพรีเมี่ยมที่เพิ่งเปิดตัวในงาน Shanghai Auto Show 2023 ไปไม่นานมานี้
ข้อมูลคร่าว ๆ สำหรับเจ้า Avatr 11 นี้มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนทั้ง AWD และ RWD มอเตอร์ไฟฟ้า 230-424 kW พละกำลัง 308-578 แรงม้า แบตเตอรี่ขนาด 116.79 kWh วิ่งได้ไกล 680 กม. รองรับการชาร์จ DC สูงสุดถึง 240 kW
ความคิดเห็นส่วนตัว
จากข่าวนี้คาดว่าจะได้เห็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยกันอย่างคึกคักในอนาคต นอกจากนี้ประเทศไทยจะมีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกใช้กันอย่างหลากหลาย และคาดว่าราคารถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตน่าจะลดลงกว่านี้อีกด้วย อย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อไปสำหรับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้ารายนี้
ที่มา – ฐานเศรษฐกิจ , golbalchangan และ licarco
