Sahakrit S
Avatr 12 รุ่น Refreshed เวอร์ชัน 2024 เปิดราคาอย่างเป็นทางการ มาพร้อม 4 รุ่นย่อยใหม่ โดยมีราคาตั้งแต่ 265,800 – 378,800 หยวน (36,800 – 52,450 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.35 – 1.92 ล้านบาท) ซึ่งถูกกว่ารุ่นก่อนสูงสุด 35,000 หยวน (4,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.77 แสนบาท)
Avatr 12 เปิดตัวรุ่น Refreshed เวอร์ชัน 2024 ในประเทศจีน พร้อมราคาเริ่มต้น 1.35 ล้านบาท (ราคาเดิม 1.52 ล้านบาท)
เพียงไม่กี่วันหลังจากประกาศว่า Avatr 12 จำหน่ายได้มากกว่า 40,000 คัน ตั้งแต่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2023 ล่าสุดทางบริษัทได้เปิดตัวรุ่น Refreshed เวอร์ชัน 2024 มาพร้อม 4 รุ่นย่อยใหม่ ที่มีราคาตั้งแต่ 265,800 – 378,800 หยวน (36,800 – 52,450 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.35 – 1.92 ล้านบาท) ซึ่งถูกกว่ารุ่นก่อนสูงสุด 35,000 หยวน (4,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.77 แสนบาท) จากราคาเดิม 300,800 – 400,800 หยวน (41,650 – 55,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.52 – 2.03 ล้านบาท)
Avatr 12 รุ่น Refreshed เวอร์ชัน 2024 มาพร้อม 4 รุ่นย่อยใหม่ ดังนี้
- รุ่น Intelligent 700 RWD : 265,800 หยวน (36,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.35 ล้านบาท)
- รุ่น Luxury 700 RWD : 278,800 หยวน (38,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.41 ล้านบาท)
- รุ่น Performance 650 AWD : 318,800 หยวน (44,150 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.60 ล้านบาท)
- รุ่น GT 650 AWD : 378,800 หยวน (52,450 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.92 ล้านบาท)
Avatr เป็นแบรนด์รถยนต์ร่วมทุนระหว่าง Changan (ถือหุ้น 41%), CATL (ถือหุ้น 14%) และ Chongqing Chengan Foundation (ถือหุ้น 11%) และมี Huawei เป็นซัพพลายเออร์หลัก เป็นผู้นำเสนอเทคโนโลยีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ HamonyOS และระบบ Huawei ADS 2.0 สำหรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งถือเป็นระบบที่ล้ำหน้าที่สุดในประเทศจีน ปัจจุบัน สายผลิตภัณฑ์ของ Avatr ประกอบด้วย 2 รุ่น คือ Avatr 11 SUV และ Avatr 12 Hatchback
Avatr 11
มิติตัวถังของ Avatr 12
- มีความยาว 5,020 มม. กว้าง 1,999 มม. สูง 1,460 มม.
- ระยะฐานล้อ 3,020 มม.
Avatr 12 เป็นรถซีดานไฟฟ้าขนาดใหญ่ ในเวอร์ชัน 2024 มาพร้อมสีภายนอกใหม่ สีทองอมชมพู สีตัวรถใหม่นี้ จะแตกต่างกันไปในแต่ละมุม ด้านหน้าของ Avatr 12 ติดตั้งแผงไฟ LED (แผงจะอยู่ระหว่างกระจกบังลมด้านหน้า และฝากระโปรงหน้า) จำนวน 10,500 เม็ด ซึ่งสามารถแสดงสถานะต่าง ๆ หลังจากการอัปเดต OTA
ด้านหลังของ Avatr 12 จะไม่มีกระจกด้านหลัง ซึ่งช่วยให้ตัวรถดูใหญ่ขึ้น แต่ตัวรถจะใช้กล้องคุณภาพสูงแบบ High-definition แทนกระจกมองหลังแบบดั้งเดิม
ระบบส่งกำลัง
มี 2 ตัวเลือกด้วยกัน ได้แก่
- ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) พละกำลัง 230 kW หรือ 313 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.7 วินาที แบตเตอรี่ NMC จาก CATL ความจุ 94.5 kWh ระยะทาง 700 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) พละกำลัง 425 kW หรือ 578 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.9 วินาที แบตเตอรี่ NMC จาก CATL ความจุ 94.5 kWh ระยะทาง 650 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
การออกแบบภายใน
Avatr 12 โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ตรงคอนโซลหน้า ขนาด 35.4 นิ้ว และยังมีหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว ทำงานร่วมกับระบบ HarmonyOS 4 และ ADS 2.0 ของ Huawei เบาะที่นั่งและพวงมาลัย จะมาพร้อมกับวัสดุหนัง Nappa เป็นมาตรฐาน เบาะที่นั่งด้านหน้ามีฟีเจอร์เด่นคือ Zero Gravity Seats พร้อมกับมีระบบอุ่น ระบบระบายอากาศ และมีฟังก์ชันการนวด 8 จุดที่เสริมความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน
ในส่วนคอนโซลกลางยังมีปุ่มทางกายภาพที่ใช้สำหรับการควบคุมที่จำเป็นอีกด้วย นอกจากนี้ตัวรถยังมีระบบเสียงมาพร้อมลำโพง 27 ตัว และมีไฟ Ambient Light ที่ให้แสงภายในรถ 64 เฉดสีให้เลือก
ด้านเทคโนโลยี
Avatr 12 เวอร์ชัน 2024 ติดตั้งมาพร้อมระบบ Avatr OS 3.2.0 ประกอบด้วยฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น NCA (Navigation Cruise Assistance) ที่สามารถปรับความเร็วโดยอัตโนมัติตามขีดจำกัดความเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถชะลอรถตามด่านค่าผ่านทางบนทางด่วนได้ และยังมาพร้อมกับเรดาร์เลเซอร์ 3 ตัวเป็นมาตรฐานอีกด้วย
นอกจากนี้ Avatr ยังประกาศว่าเป็นคนแรกที่ใช้แชสซีสเก็ตบอร์ด Panshi ที่พัฒนาร่วมกันโดย Changan และ CATL เป็นแพลตฟอร์มที่อ้างว่าตัวรถจะไม่ติดไฟหรือระเบิด ระหว่างการชนจากด้านหน้า ที่ความเร็วต่ำกว่า 120 กม./ชม.
ในปีนี้ Avatr 12 จะมีระบบส่งกำลังเป็น EREV เข้ามาให้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น เพราะเพิ่งถูกพบเห็นวิ่งทดสอบในประเทศจีน ที่พรางตัวอย่างแน่นหนา ส่วนข้อมูลจำเพาะของระบบส่งกำลัง EREV ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมา และจะประกอบที่โรงงานเดียวกันกับ Deepal L07 นอกจากนี้ Avatr ยังตั้งเป้าที่จะเปิดตัวรถยนต์อีก 2 รุ่น ในปีนี้ ได้แก่ Avatr 15 ครอสโอเวอร์ และ Avatr 16 ซีดาน
Avatr 12 EREV
Avatr 12 EREV
ที่มา : CarNewsChina
