Sakura P.
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและอธิบดีกรมสรรพสามิต ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงงาน BYD เพื่อเตรียมปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ช่วยลดต้ตนทุนของผู้ผลิตและดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมากยิ่งขึ้น
รมช. กระทรงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงงาน BYD เตรียมปรับโครงสร้างภาษีรถ PHEV
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ดร. กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงงาน BYD ที่จังหวัดระยอง ประเทศไทย เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการปรับปรุงเงื่อนไขภาษีรถยนต์ Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2569
มาตรการใหม่จะแยกอัตราภาษีของ PHEV และ Hybrid Electric Vehicle (HEV) ออกจากกัน โดยกำหนดอัตราภาษีตามระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Range) ได้แก่
- PHEV ที่วิ่งด้วยไฟฟ้า ≥ 80 กม. และขนาดถังน้ำมัน ≤ 45 ลิตร เสียภาษี 5%
- PHEV ที่วิ่งด้วยไฟฟ้า < 80 กม. หรือขนาดถังน้ำมัน > 45 ลิตร เสียภาษี 10%
กรมสรรพสามิตกำลังพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ให้คำนึงถึง Electric Range เป็นปัจจัยหลัก เพื่อส่งเสริมเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และช่วยให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต PHEV ระดับสากล
นโยบายใหม่นี้จะช่วยลดภาระต้นทุนของผู้ผลิตรถยนต์ ลดข้อกำหนดเรื่องขนาดถังน้ำมัน และดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ดร. เผ่าภูมิ ย้ำว่า รัฐบาลมุ่งพัฒนา PHEV ให้เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ของภูมิภาค
ทั้งนี้ BYD Thailand ยังได้ผลักดันการใช้รถ PHEV และมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี DM-i Super Hybrid ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และเพิ่มระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของมาตรการภาษีใหม่ของไทย
ที่มา BYD Thailand
