ใน ,

Great Wall Motor เปิดตัว Hi4 แพลตฟอร์ม e-Hybrid เจนเนอเรชั่นใหม่ ขับเคลื่อน 4 ล้อในงาน Intelligent NEV Day

Great Wall Motor เปิดตัวแพลตฟอร์ม Hi4 เจนเนอเรชั่นใหม่ในงาน Intelligent NEV ณ ศูนย์เทคโนโลยีของ Great Wall Motor สาธารณรัฐประชาชนจีน แพลตฟอร์มดังกล่าวถูกนำมาใช้กับรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในเดือนเมษายน 2566 นี้

Great Wall Motor เปิดตัว Hi4 แพลตฟอร์ม e-Hybrid เจนเนอเรชั่นใหม่ ขับเคลื่อน 4 ล้อในงาน Intelligent NEV Day

Great Wall Motor เปิดตัว Hi4 (Hybrid Intelligent 4WD) แพลตฟอร์มเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ล่าสุด ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนระบบขับเคลื่อนที่รองรับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าอันล้ำสมัย และออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพสูงสุดบนทุกสภาพถนนและในสถานการณ์การขับขี่ทุกรูปแบบ ภายในงาน “INTELLIGENT NEV DAY” ณ ศูนย์เทคโนโลยีของ Great Wall Motor สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 28 มีนาคาม 2566 ที่ผ่านมา

Great Wall Motor ยังมุ่งมั่นพัฒนาแผนงานที่เกี่ยวกับพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ครบครัน ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างไฮบริด แบตเตอรี่ไฟฟ้า พลังงานไฮโดรเจน เทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ห้องโดยสารอัจฉริยะ การขับขี่อัจฉริยะ ไปจนถึงแชสซีส์อัจฉริยะ

แพลตฟอร์ม Hi4 ขับเคลื่อน 4 ล้อ เจนเนอเรชั่นใหม่

สำหรับแพลตฟอร์ม Hi4 มาพร้อมระบบส่งกำลัง 2 รูปแบบ ด้วยพละกำลังสูงสุด 340 kW ครอบคลุมรถยนต์ขนาดตั้งแต่ A ถึง C ระบบส่งกำลัง e-Hybrid ในระดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม เพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดการความร้อนสูงสุดถึง 41.5เป็นผลมาจาก ระบบหัวฉีดไดเรคอินเจคชันแรงดันสูง และเทคโนโลยีการหมุนเวียนก๊าซไอเสียแรงดันต่ำ

นอกจากนี้ การควบคุมและจัดการพลังงานอัจฉริยะ Hi4 ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุดและเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงานให้สูงขึ้นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับระบบการจัดการพลังงานแบบเดิม

มอบระยะทางขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้มากกว่า 100 กม. ด้วยชุดแบตเตอรี่ความจุสูงที่ใช้เทคโนโลยีลิเธียม-ไอออนที่ล้ำสมัยที่ทำให้สามารถใช้กระแสไฟได้อย่างยาวนาน นอกจากนี้ จากประสิทธิภาพการชาร์จไฟแบบเร็วถึง 97% ช่วยให้สามารถชาร์จจาก 30% ถึง 80% ในอุณหภูมิแวดล้อมปกติภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที เป็นผลมาจากเทคโนโลยีชาร์จแรงดันสูงและระบบการจัดการการชาร์จอัจฉริยะ

แพลตฟอร์ม Hi4 ยังมาพร้อมกับนวัตกรรมเทคโนโลยีไฮบริด 3 รูปแบบใหม่ ได้แก่ โครงสร้าง e-Hybrid ใหม่ที่ตอบโจทย์การขับขี่ของผู้ใช้ได้มากขึ้น เทคโนโลยีควบคุมการขับขี่ใหม่ ที่มีระบบเซนเซอร์ความแม่นยำสูงและทำงานรวดเร็วระดับมิลลิวินาที รวมถึงระบบส่งกำลังที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างประกับเพลาไฟฟ้าและระบบเกียร์รูปแบบใหม่เพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ไปอีกขั้น

โครงสร้าง e-Hybrid รุ่นใหม่นี้ เป็นการดีไซน์ระบบไฮบริดใหม่ทั้งหมด โดยมีแหล่งพลังงาน 3 รูปแบบ และกระจายกำลังแบบเพลาคู่ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวในการกระจายกำลังอย่างสมดุล

ทำให้เกิดโครงสร้างไฮบริดไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอนุกรม-ขนาน (A series-parallel 4WD electric hybrid architecture) ช่วยตอบสนองต่อสถานการณ์ขับขี่ของผู้ใช้ได้มากขึ้น ทำให้เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งบนถนนทั่วไปและเส้นทางออฟโรด

ระบบ GWM iTVC (intelligent Torque Vectoring Control) คือเทคโนโลยีควบคุมการขับขี่รูปแบบใหม่ที่ใช้ระบบเซนเซอร์ความแม่นยำสูงและทำงานรวดเร็วระดับมิลลิวินาทีช่วยตรวจจับความเร็วรถผ่านการหมุนของมอเตอร์ สามารถกระจายกำลังได้อย่างรวดเร็วและปรับแรงบิดระหว่างเพลาหน้าและเพลาหลังได้ภายในเสี้ยววินาที ป้องกันการลื่นไถลบนพื้นผิวถนนลื่นและเพิ่มเสถียรภาพการขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับความปลอดภัยในการขับขี่ขณะเข้าโค้ง

ระบบส่งกำลังแบบประกับเพลาแบบเครื่องกลไฟฟ้าเป็นการออกแบบที่ล้ำสมัยของชุดส่งกำลังที่ประกอบด้วยประกับเพลาแบบเครื่องกลไฟฟ้า 2 ชุดที่ทำงานครอบคลุมแทบทุกช่วงความเร็วของเครื่องยนต์ ตอบสนองความต้องการการขับขี่ของผู้ใช้ในทุกสถานการณ์

โดย Great Wall Motor วางแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริดนี้ในเดือนเมษายน 2566 และภายในปี 2567 ผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ทั้งหมดของ Great Wall Motor จะมาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อแบบไฟฟ้า ทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่ที่ทรงพลังยิ่งขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แพลตฟอร์ม Hi4 ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ มุ่งปฏิวัติตลาดรถเอสยูวีไฮบริดด้วยการนำเสนอสมรรถนะ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพความประหยัดที่เหนือชั้นที่สุด เพื่อเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการสิ่งที่ดีที่สุด

ที่มา – GWM Thailand

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Thanakrit Kongpon