Tesla Model S Plaid รถยนต์ไฟฟ้าตัวแรงที่สุด ได้เปิดตัวแพ็กเกจที่แรงขึ้นไปอีกขั้น ชื่อว่า “ Track Package ” ที่มีการอัปเกรดล้อใหม่ที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงมาก อัปเกรดเบรกใหม่ด้วยเบรกคาร์บอนเซรามิกขนาดใหญ่ พร้อมคาลิปเปอร์เบรกหน้าขนาด 6 สูบ เพื่อรองรับการเบรกของรถที่แรงขนาดนี้
เปิดตัว! แพ็กเกจใหม่ Track Package สำหรับ Tesla Model S Plaid ปลดล็อกความเร็วสูงสุด 320 กม./ชม. มาพร้อมเบรกใหม่
Tesla Model S Plaid ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัว “ Track Package ” มาพร้อมด้วยชุดยางสำหรับพร้อมลงสนามแข่ง มีการอัปเกรดเบรก มาพร้อมกับเบรกคาร์บอนเซรามิกขนาดใหญ่ ที่มีประสิทธิภาพในการเบรกสูงที่สุด และล้ออัลลอยอลูมิเนียมที่มีนำ้หนักเบา (Forged Aluminum Wheels) และมาพร้อมยางใหม่ ยังมาพร้อมกับชุดอัปเกรดซอฟต์แวร์ ด้วยการปลดล็อกความเร็วสูงสุดที่ 320 กม./ชม. อีกด้วย
Model S Plaid track pack coming soon pic.twitter.com/a2YtxnVu22
— Tesla (@Tesla) May 4, 2023
Tesla Track Package ได้เพิ่มลงในร้านค้าเว็บไซต์ของ Tesla แล้ว จะวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2023 แต่ราคาค่อนข้างสูง ราคาอยู่ที่ 15,000 – 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 508,000 – 677,000 บาท) แพ็กเกจนี้สามารถติดตั้งได้กับ Model S Plaid คันใหม่ออกจากศูนย์ได้เลย หรือรุ่น Model S Plaid ปี 2021 ขึ้นไป ลูกค้าสามารถเลือกยกชุด Track Package หรือซื้อแยกรายชิ้นได้
ทั้งนี้ ทาง Tesla ไม่ได้ระบุว่าแพ็กเกจราคา 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 508,000 บาท) ได้รับอะไรบ้าง แต่ระบุเฉพาะของราคาแพ็กเกจ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 677,000 บาท) เท่านั้น ตามรายละเอียด ดังนี้
- อัปเกรดซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อสมรรถนะสูงสุด
- ล้อลาย Zero-G ขนาด 20 นิ้ว
- มาพร้อมยาง Goodyear Eagle F1 Supercar 3R
- ล้อด้านหน้ากว้าง 10 นิ้ว ยางขนาด 285/35R20
- ล้อด้านหลังกว้าง 11 นิ้ว ยางขนาด 305/30R20
- รวมฝาปิดดุมล้อ, ฝาปิดรูน็อต, จุ๊บลม และระบบ TPMS (ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง)
- ** ล้อราคาแยกชิ้น 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 203,000 บาท) **
- จานเบรกหน้าขนาด 410 x 40 มม. พร้อมคาลิปเปอร์เบรกหน้า forged ชิ้นเดียว ขนาด 6 สูบ
- จานเบรกหลังขนาด 410 x 32 มม. พร้อมคาลิปเปอร์เบรกหลัง forged ชิ้นเดียว ขนาด 4 สูบ
- น้ำมันเบรกเกรดเพื่อการแข่งขัน
เมื่อมองไปในอนาคต ก่อนหน้านี้ทาง Tesla ได้มีการอัปเกรดรุ่นยอดนิยมรวมถึง Model 3 ด้วยโปรเจค “ Project Highland ” และ Model Y ด้วยโปรเจค “ Project Juniper ” การอัปเกรดเป็นรุ่น Model S อาจอยู่ใกล้แค่เอื้อม ในขณะที่รถคันนี้เป็นรุ่นที่มีสมรรถนะสูงที่สุด ทำให้หลายคนรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นสิ่งที่วิศวกรพัฒนาอย่างบ้าคลั่งในรุ่นต่อๆไป
ที่มา – teslarati