Sakura P.
XPENG Motor เปิดตัวเทคโนโลยี AI ใหม่ที่ล้ำสมัย ในงาน AI Day ที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยนำเสนอเทคโนโลยีที่ช่วยให้การขับขี่อัจฉริยะของ XPENG ประสบความสำเร็จมากขึ้น และบริษัทสัญญาว่าระบบขับขี่อัตโนมัติจะไปถึงระดับ L4 ภายในปีหน้านี้
XPENG เปิดตัวซอฟต์แวร์ AI ใหม่ พร้อมระบบ 2K Pure Vision ตั้งเป้าใช้ระบบขับขี่อัตโมัติระดับ L4 ภายในปี 2025
XPENG ได้นำเสนอระบบปฏิบัติการ XOS 5.1.0 “AI Tianji” ที่ได้รับยกย่องว่าเป็นระบบปฏิบัติการในรถยนต์ขับเคลื่อนด้วย AI เครื่องแรกของอุตสาหกรรม รวมถึงจัดแสดงถยนต์ไฟฟ้ามีความสามารถในการตัดสินใจสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้มากขึ้น เหมือนมนุษย์มากขึ้น และให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
โดยระบบนี้ผ่านการเรียนรู้จากโครงข่ายประสาทเทียมและการทำซ้ำของข้อมูลตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งจากบนยานพาหนะและการประมวลผลบน Cloud และรถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องผ่านการอัปเดต OTA
XPENG ได้แนะนำแผนการบูรณาการและการปรับใช้ใหม่เรียกว่า 2K Pure Vision ซึ่งยืนยันข่าวลือก่อนหน้านี้ว่า XPENG จะเลิกใช้เซ็นเซอร์ LiDAR เพื่อหันมาใช้ Pure Vision ในระบบขับขี่อัตโนมัติแทน คล้ายกับ Tesla Vision ในระบบ FSD
ส่วนสำคัญของเทคโนโลยีในระบบปฏิบัติการ (OS) และระบบ ADAS ของ XPENG นั้นคือ “Xnet” เป็นโครงข่ายประสาทเทียมใหม่ที่ได้รับการวางแผนและควบคุมโมเดลขนาดใหญ่เรียกว่า XPlanner และใช้ Language model เป็น “XBrain” เมื่อทำงานร่วมกันแล้ว จะกลายเป็นระบบบูรณาการที่ช่วยเพิ่มความสามารถใช้การขับขี่อัจฉริยะได้ 2 เท่า
ซึ่งเครือข่ายประสาทการมองเห็นเชิงลึก Xnet นั้นจะใช้ 2K Pure Vision ในการใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติที่ปลอดภัย มีความสามารถเทียบเท่ากับเซ็นเซอร์ LiDAR ซึ่ง 2K Pure Vision จะสร้างโลกขึ้นมาใหม่ด้วย Grid มากกว่า 2 ล้าน Grid เพื่อสร้างการแสดงพื้นที่การขับขี่แบบ 3 มิติ และรับรู้ทุกรายละเอียดของสิ่งกีดขวางตลอดเส้นทางรอบยานพาหนะ
ส่วน XPlanner จะเป็นส่วนที่เปรียบได้เหมือนกับสมองของมนุษย์ที่ได้รับการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องจากชุดข้อมูลจำนวนมหาศาล ส่งผลให้กลยุทธ์การขับขี่มีความเหมือนมนุษย์มากขึ้น ช่วยลดอาการกระตุกในการขับขี่ได้ 50% ลดการหยุดรถอย่างไม่เหมาถสม 40% และลดการถูกควบคุมจากมนุษย์ได้ 60% มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ชาญฉลาด เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารมากขึ้น
ด้านของ XBrain นั้นเป็น Language model ขนาดใหญ่ของ AI ที่ทำให้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของ XPENG มีความสามารถในการเรียนรู้และมีความเข้าใจใกล้เคียงกับมนุษย์ สามารถปรับปรุงการจัดการสถานการณ์ที่ซับซ้อน รวมถึงสามารถใช้เหตุผลและทำความเข้าใจตรรกะในโลกจริง
ตัวอย่างเช่น XBrain ทำให้ระบบขับขี่อัตโนมัติสามารถจดจำโซนเลี้ยว การเปลี่ยนแปลงเลน เลนพิเศษ และป้ายถนน รวมถึงคำสั่งเชิงพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น หยุดแล้วไป เร็วและช้า ซึ่งช่วยตัดสินใจในการขับขี่ได้เหมือนมนุษย์มากที่สุด โดยอยู่บนสมดุลระหว่างความปลอดภัยและสมรรถนะ
ด้วยการช่วยเหลือของเทคโนโลยี AI ใหม่เหล่นี้ XPENG ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนจีนว่า ระบบการขับขี่อัตโนมัติของแบรนด์จะบรรลุระดับ L4 ภายในปี 2025 ที่ทำให้การขับขี่ด้วยตนเองนั้นแทบจะสมบูรณ์ โดยไม่ต้องได้รับการแทรกแซงจากมนุษย์
นอกจากนี้ XPENG ยังอัปเดตด้วยการ บริษัทกำลังทดสอบความสามารถแบบ End-to-End ของเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ XNGP ทั่วโลก เพื่อให้เป็นไปตามแผนการขายระบบนี้ไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ที่แบรนด์เข้าไปทำการตลาด
iMoD ทดลองขับ XPENG G6 & G9 ถึงประเทศจีน ระบบขับอัตโนมัติ XNGP ทำงานได้ดีแค่ไหน ?
ที่มา electrek
