พาชม BYD Denza D9 พร้อมข้อมูลและสเปคเบื้องต้น (พวงมาลัยซ้าย) คาดว่าจะวางขายในไทยช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
BYD Denza D9 พาชมคันจริงพร้อมสเปคเบื้องต้น
BYD Denza D9 รถตู้ Luxury MPV สำหรับผู้บริหารยุคใหม่ โดดเด่นด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มอบประสบการณ์การเดินทางอันหรูหราและเป็นเอกลักษณ์
สเปค BYD BYD Denza D9
- รูปแบบรถ : Luxury MPV
- จำนวนที่นั่งห้องโดยสาร : 7 ที่นั่ง
- มิติตัวรถ : ยาว 5,250 x กว้าง 1,960 x สูง 1,920 มม.
- ระยะฐานล้อ : 3,110 มม.
- ขนาดแบตเตอรี่ : 103 kWh
- ระยะที่วิ่งได้สูงสุด : 580 กม./ชาร์จ (NEDC)
- มอเตอร์ : 2 ตัว
- ระบบขับเคลื่อน : AWD
- พละกำลังสูงสุด : 275kW (~369 แรงม้า)
- แรงบิดสูงสุด : 470 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. : 6.9 วินาที
- ชาร์จ DC สูงสุด : 166kW
- ความจุที่เก็บสัมภาระ : 650 ลิตร
ออปชันเบื้องต้น BYD BYD Denza D9
- ช่วงล่างมาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบกันสะเทือนอัจฉริยะ DiSus-C ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ BYD โดยที่ระบบกันสะเทือนจะมีการปรับระดับการกระแทกของระบบกันสะเทือนโดยระบบประมวลผล เพื่อควบคุมด้วยโซลินอยด์วาล์วเพื่อช่วยให้ระหว่างการเดินทางมีความสบายอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับระบบกันสะเทือนทั่ว ๆ ไป
- ระบบมัลติมีเดียเพื่อความบันเทิงสำหรับห้องโดยสาร หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมด้วยหน้าจอเรือนไมล์ผู้ขับขี่แสดงผล 3 มิติ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว
- สัญญาณ Wi-Fi ในตัว และ I-Call กับ E-Call สามารถขอความช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน
- เบาะนั่งที่เพิ่มระดับความหรูหราด้วยวัสดุหนัง แนปป้ารอบคัน
- เบาะนั่งแถว 2 ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง และพนักพิงศรีษะปรับ 6 ทิศทาง และเสริมความกว้างห้องโดยสารสำหรับเบาะนั่งแถว 2 ด้วยความยาวรางสไลด์ไฟฟ้าที่มีระยะการปรับยาวถึง 1,080 มิลลิเมตร เบาะระบายอากาศและอุ่นด้วยไฟฟ้า เบาะนวดไฟฟ้า 10 จุด ที่พักขาปรับไฟฟ้า Memory seat ม่านบังแดดบริเวณหน้าต่าง ที่พักแขนแบบหน้าจอสัมผัส LCD มัลติฟังก์ชัน พร้อมด้วยหน้าจอมัลติมีเดียบริเวณ พนักพิงศรีษะคู่กลางขนาด 12.8 นิ้ว
- เบาะแถว 3 ปรับได้ 4 ทิศทาง
- อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายทั้งหมด 3 ตำแหน่ง : ด้านหน้าห้องผู้ขับขี่ 1 ตำแหน่ง และ ห้องโดยสารแถวที่ 2 จำนวน 2 ตำแหน่ง
- W-HUD ขนาด 12.8 นิ้ว ที่ออกแบบได้อย่างทันสมัยและมีความสวยงาม
- พร้อมกับระบบช่วยขับขี่หลากหลายฟังก์ชันระดับ L2+ เซ็นเซอร์จับวัตถุรอบคัน 12 จุด เรดาห์คลื่นมิลลิเวฟ 5 จุด
- Panoramic Sunroof พร้อมด้วยม่านบังแดดไฟฟ้า
- กระจกกันเสียง 2 ชั้น รอบคัน
ระบบความปลอดภัย
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
- ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
- ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS)
- ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรก (EBD)
- ระบบควบคุมการทรงตัวบนทางลาดชัน (HHC)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
- ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
- ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
- ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
- ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
- ระบบช่วยเตือนรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า (FCTA)
- ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า (FCTB)
- ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน (LCC)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบช่วยจอดรถด้วยรีโมทอัตโนมัติ (RPA)
- ระบบช่วยเบรกไฮดรอลิก (HBA)
- ระบบช่วยควบคุมการยึดเกาะถนนอิเล็กทรอนิกส์ (ETC)
- ระบบช่วยควบคุมการยึดเกาะถนน (CST)
- ระบบตรวจสอบดิสก์เบรก (BDW)
- ระบบนำพลังงานเบรกกลับมาใช้ใหม่ (CRBS)
- ระบบควบคุมป้องกันการพลิกคว่ำ (RMI)
- ระบบตรวจสอบความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (DFM)
ประสบการณ์การขับขี่
ครั้งนี้ทางทีมงานได้ทดสอบขับในสนามพีระเซอร์กิต อ.พัทยา จ.ชลบุรี ทั้งเป็นผู้ขับขี่, ผู้โดยสารตอนที่ 2 และผู้โดยสารตอนที่ 3 โดยจะอธิบายแยกเป็น 3 ส่วนนะครับ
- ในฐานะผู้ขับขี่ – BYD Denza D9 เป็นรถตู้ Luxury MPV 7 ที่นั่ง ที่สามารถขับเดินทางไกลได้แบบสบาย ๆ เลยทีเดียว เบาะนุ่มนั่งสบาย ชูความเป็นรถตู้ระดับพรีเมียมได้อย่างเต็มที่ ตัวรถเซ็ทมาไปทางค่อนข้างนุ่มนวล เป็นผลพลอยได้มาจากช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-C ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ BYD พอลองขับแบบเปลี่ยนเลนกะทันหัน ตัวรถมีอาการ Body Roll ไม่เยอะมาก แต่ช่วงล่างแบบอัจฉริยะ DiSus-C เข้ามาช่วยซับแรง ให้ตัวรถมีอาการที่นุ่มนวลขึ้น แต่ถ้าขับด้วยความเร็วสูง อาจต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ที่มากขึ้น ส่วนอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ตัวรถจะไปแบบนุ่มนวล ไม่กระชาก
- ในฐานะผู้โดยสารตอนที่ 2 – เบาะที่นั่งเป็นแบบ Captain Seat นุ่มนั่งสบาย พร้อมหน้าจอควบคุมที่ตัวเบาะ ที่สามารถสั่งงานได้หลายฟังก์ชัน อาทิเช่น ปรับเบาะนั่ง, ปรับอุณหภูมิแอร์, เปิด-ปิด ม่านหลังคา และเปิด-ปิดกระจก เป็นต้น ตัวเบาะยังมีฟังก์ชันพิเศษที่ชอบมากเลย คือ ช่องชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย แบบเสียบตัวมือถือลงไปในช่อง มาพูดถึงเรื่องการโดยสารกันบ้าง ช่วงล่างทำมาได้ดี นั่งสบาย สุด ๆ เหมาะกับเป็นรถผู้บริหาร หรือเหมาะกับครอบครัวใหญ่
- ในฐานะผู้โดยสารตอนที่ 3 – เบาะที่นั่งตอนที่ 3 มาพร้อม 3 ที่นั่ง บอกได้เลยว่า นั่งเดินทางไกลได้สบายมาก ๆ มีที่วางแก้ว 2 ตำแหน่ง พร้อมช่องชาร์จแบบ USB Type A 2 ตำแหน่ง แต่ถ้ามีการเปลี่ยนเลนแบบกะทันหัน ผู้โดยสารตอนที่ 3 อาจเวียนหัวได้ครับ
รอติดตามกันต่อไปว่าทาง เรเว่ จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยเมื่อไหร่ แต่ได้ยินมาแว่ว ๆ ว่า อาจจะมาในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ หากมีข่าวสารเพิ่มเติมทางทีมงาน iMoD จะรายงานให้ทราบต่อไปครับ
นอกจากนี้ทาง BYD ยังได้นำรถรุ่นอื่น ๆ ที่ยังไม่เคยเปิดตัวในประเทศไทยมาให้เราได้ทดลองขับกันด้วย ชมข้อมูลได้ที่