ใน , ,

McLaren W1 รถ Hypercar 1,275 แรงม้า สานต่อ P1 มาเพื่อชนกับ Aston Martin Valkyrie

ล่าสุด McLaren ได้เปิดตัว Hypercar ใหม่ล่าสุดใช้ชื่อว่า McLaren W1 เครื่อง V8 วางกลาง ระบบไฮบริดขับเคลื่อนล้อหลัง คันนี้แสดงถึงการก้าวกระโดดในด้านวิศวกรรมของ McLaren เป็นการโชว์ประสิทธิภาพหลักAerodynamic ของแบรนด์ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน รับช่วงต่อจาก McLaren P1 ได้ปฏิวัติวงการ Hypercar มานาน

McLaren W1 รถ Hypercar 1,275 แรงม้า สานต่อ P1 มาเพื่อชนกับ Aston Martin Valkyrie

Aerodynamics ที่ยอดเยี่ยม

อากาศพลศาสตร์เป็นหัวใจสําคัญของการออกแบบของ McLaren W1 ได้แรงบันดาลใจจาก Formula 1 ทำให้ W1 มีแรงกดถึง 1,000 กก. ที่ 280 กม./ชม. เทียบกับ Aston Martin Valkyrie ที่มีแรงกด 1,100 กก. และมากกว่า McLaren Senna ที่แรงกดอยู่ที่ 816 กก.

McLaren W1 ถือว่าแตกต่างจาก Hypercar แบบเดิมเหมือนกับ Valkyrie ที่ได้เพิ่มแรงกดลงสูงสุดผ่านแอโรไดนามิกเอฟเฟกต์พื้นใต้ตัวถัง ลดการต้านอากาศ และเพิ่มประสิทธิภาพในการขับทางตรง ระบบอากาศพลศาสตร์แบบแอคทีฟที่หลากหลายทําให้ W1 สามารถทำความเร็วสูงสุด 349 กม./ชม ซึ่งเท่ากับที่ P1 ทำได้ถึงแม้ W1 จะมีแรงกดอากาศที่ดีมากกว่าก็ตาม

ส่วนประกอบหลักอากาศพลศาสตร์

  • Front Wing : ขยับเป็นรูปทรงโค้งแบบ Arc เพื่อปรับแรงกดให้ล้อคู่หน้าได้ตามต้องการ
  • Active Long Tail Wing : แรงบันดาลใจจากรถ F1 GTR ปี 1997 ปีกหลังสามารถขยายออกไปหลังตัวรถได้เกือบ 30 เซนติเมตร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ Diffuser ใต้ตัวรถได้ดี
  • Rear Diffuser : Diffuser หลังขนาดใหญ่ช่วยหลักอากาศที่ดี อีกทั้งยังทําหน้าที่เป็นกันชนหลังโดยไม่ไต้องเพิ่มน้ําหนักโดยไม่จำเป็น

อีกทั้งคันนี้มี Sidepod เหมือนกับในรถ F1 รวมถึงการออกแบบภายในที่เลียนแบบจากแข่งรถด้วย Pedal box และพวงมาลัยยื่นเข้าหาคนขับ

เทคโนโลยีช่วงล่างจาก Formula 1

ระบบกันสะเทือนใน McLaren W1 ถือเป็นการปฏิวัติรถ Hypercar ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์และประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม เป็นนำเทคโนโลยี Formula 1 มายัดใส่เข้ากับรถบนถนนที่วิ่งได้จริง

  • Front Suspension : Double Wishbones, ก้านดัน, สปริงทอร์ชั่นบาร์ และแดมเปอร์แบบ Inboard เหมือนใน F1 ที่ทำมาจากไทเทเนียมที่พิมพ์ 3 มิติมีรูปร่างเหมือนปีกนกเพื่อเพิ่มแรงกด ระบบนี้ยังรวมถึง Heave Damper สำหรับป้องกันตัวรถไม่ให้โหลดต่ำจนเกินไปหากเจอแรงกดตัวรถลงพื้น
  • Rear Suspension : McLaren เลือกใช้ระบบกันสะเทือนด้านหลังใช้สปริงคอยเลอร์แบบดั้งเดิมแทนแดมเปอร์ พร้อมระบบที่เรียกว่า “Active Drop-links” ทำงานร่วมกับแถบป้องกันการม้วนรูปตัว Z เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวรถเสมือน Heave Damper ในเพลาหน้า

ปรับความสูงได้ตามการขับขี่

เพื่อรับมือกับสภาพการขับขี่ที่แตกต่างกัน McLaren W1 มีทั้งการตั้งค่าโหมด Road และโหมด Race ในโหมด Race ตัวรถจะปรับความสูงลง 1.46 นิ้วที่ด้านหน้า และ 0.7 นิ้วที่ด้านหลัง เพิ่มอัตราความแข็งสปริง และแรงหน่วงที่มากเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในสนามแข่ง

เครื่องยนต์และระบบส่งกําลัง: พลังที่ไม่มีใครเทียบได้!

McLaren W1 ใช้เครื่องยนต์ V8 (MHP-8) twin-turbo 4.0 ลิตร ส่งพละกำลังสูงสุด 916 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร พร้อมทำรอบไปถึง Red-line ที่ 9,200 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า E-Module  ให้พละกำลัง 342 แรงม้า รวมทั้งหมดคันนี้แรงที่ 1,275 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลที่ 1,340 นิวตันเมตร

McLaren W1 ทำตัวเลขจาก 0-200 กม./ชม. ภายใน 5.8 วินาทีเท่านั้น!

เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน

  • ระบบลดของเหลว: แทนที่จะใช้ Torsional Damper แบบโลหะเหมือนเดิม McLaren เลือกใช้ระบบลดของเหลว Fluid-damping เพื่อลดน้ําหนัก และปรับปรุงประสิทธิภาพแทน
  • ระบบเกียร์ Dual-Clutch 8 สปีด: พลังคันนี้จะถูกส่งไปยังล้อคู่หลังผ่าชุดเกียร์ใหม่นี้ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งข้างชุดเกียร์ ทำหน้าที่เพิ่มพลังตามโหมดการขับขี่ ซึ่งแตกต่างจาก Artura แม้จะจะเป็นไฮบริดเหมือนกัน แต่ W1 มีแบตเตอรี่ไฟฟ้าความจุเพียง 1.4kWh มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นระบบไฮบริดให้การขับขี่มากกว่าทำให้วิ่งด้วยโหมด EV อย่างเดียวได้ไม่ไกล

การลดน้ําหนัก และเทคโนโลยีคาร์บอนไฟเบอร์

ด้วยน้ําหนักตัว 1,399 กก. McLaren W1 มีน้ําหนักเบามาก ๆ  สําหรับ Hypercar ที่เป็นระบบไฮบริด แบรนด์สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ผ่านความใส่ใจอย่างพิถีพิถันในการลดน้ําหนัก รวมถึงการใช้ที่บังแดดคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีความหนาเพียง 0.1 นิ้วเท่านั้น

โครงสร้างตัวรถแบบ Monocoque chassis ที่เรียกว่า McLaren Aerocell แบบใหม่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์

McLaren W1 ถือเป็นผลงานชิ้นเอกทางเทคโนโลยีที่ผสมผสานอากาศพลศาสตร์ที่ทันสมัย ระบบกันสะเทือนแรงบันดาลใจความสำเร็จของ Formula 1 ระบบส่งกําลังไฮบริดที่รีดประสิทธิภาพและขีดจำกัดใหม่ ๆ W1 อาจมีแรงม้ามากกว่า P1 เพียง 300 แรงม้า แต่ความก้าวหน้าในการออกแบบทําให้เร็วขึ้นมาก นี่ถือเป็นความสมบูรณ์แบบของ McLaren ที่สามารถทำ Hypercar ออกมาได้สมความเป็นแบรนด์ McLaren จริง ๆ ครับ

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Nuttanon P.