Nuttanon P.
Porsche ยืนยันว่า Boxster และ Cayman รุ่นไฟฟ้าจะยังคงมอบ “ความรู้สึกของรถสปอร์ตแท้ ๆ” ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทีมแข่ง Formula E แชมป์โลกของค่าย
Porsche Boxster และ Cayman EV จะได้ DNA มอเตอร์สปอร์ตแบบเต็มตัว
แม้ว่า Porsche จะลดเป้าหมายยอดขาย EV ทั่วโลกเหลือ 80% ภายในปี 2030 แต่แบรนด์ยังคงมุ่งมั่นให้รุ่นไฟฟ้าใหม่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่แท้จริงแบบ Porsche ควรจะเป็น
ภาพ Render จาก Autocar
หลังจากความสำเร็จของ Taycan และ Macan เวอร์ชันไฟฟ้า Porsche เตรียมเปิดตัว 718 Boxster และ Cayman EV ในปี 2025 ซึ่งแม้ CFO ของบริษัทจะเผยแผนขยายการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปและไฮบริด แต่ Boxster และ Cayman EV ยังคงอยู่ในกำหนดเปิดตัวตามแผน
ออกแบบใหม่เพื่อความเป็นรถสปอร์ตอย่างแท้จริง
รถสปอร์ตไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นถูกสร้างบนแพลตฟอร์ม SSP Sport ใหม่ โดยดึงเทคโนโลยีมาจากคอนเซปต์ Mission R และ Mission X หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญคือการออกแบบตำแหน่งแบตเตอรี่ ซึ่งไม่ได้วางเรียบใต้รถเหมือนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป แต่ถูกจัดวาง ด้านหลังผู้ขับขี่ เพื่อให้น้ำหนักสมดุลคล้ายกับเครื่องยนต์วางกลางของรุ่น 718 ปัจจุบัน
DNA จากสนามแข่ง Formula E
Michael Steiner หัวหน้าฝ่าย R&D ของ Porsche อธิบายว่า ทีมวิจัยได้ดึงประสบการณ์จากสนามแข่ง Formula E มาใช้ในการพัฒนารุ่นนี้ ไม่เพียงแต่การประหยัดพลังงานเพื่อเพิ่มระยะทางหรือควบคุมต้นทุนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงซอฟต์แวร์และระบบเบรกที่ตอบสนองได้ดี
Porsche ยังเน้นการออกแบบให้ขับสนุก โดยเลือกใช้การชาร์จเบรกแบบจำกัด (Limited Brake Regeneration) และยืนยันว่าไม่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบคันเร่งเดียว (One-Pedal Drive) เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของการขับขี่แบบรถสปอร์ต
ประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจำ
จากการทดสอบต้นแบบ Boxster EV ทาง Michael เผยว่า การออกแบบแบตเตอรี่ที่วางใกล้กับจุดศูนย์ถ่วงของผู้ขับขี่ ทำให้รถควบคุมง่าย ทรงตัวได้ดีขึ้น พร้อมทั้งให้ความรู้สึก “ชิดกับพื้รถนนมากที่สุด” แบบที่รถสปอร์ตแท้ควรจะเป็น
ในรุ่นเปิดประทุน ผู้ขับขี่จะสัมผัสถึงความเงียบและได้ยินเสียงรอบข้างชัดเจน Steiner ยืนยันว่า Porsche Boxster และ Cayman EV จะเป็นรถสปอร์ตไฟฟ้าที่คุ้มค่าสมการรอคอย
ที่มา : Car And Driver และ Autocar
