Tesla แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าด้วยการนำของ Elon Musk ปิดตำนานตัวเต็งยอดไม่ตก ล่าสุดยอดขายประจำปี 2024 ของ Tesla ลดลงเล็กน้อย ซึ่งนับเป็นการลดลงครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ สาเหตุมาจากคู่แข่งในจีน ยุโรป และสหรัฐฯ ที่เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่หลายรุ่น ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น
Tesla ปิดตำนานเต็งหนึ่ง ยอดขายรายปีตกครั้งแรก! ท่ามกลางการแข่งขัน EV ที่ดุเดือด
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Tesla รายงานยอดการส่งมอบรถยนต์ทั่วโลกจำนวน 1,789,226 คัน ในปี 2024 ลดลงเล็กน้อยจาก 1,808,581 คันในปี 2023 แม้ว่าช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 จะมียอดส่งมอบสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 495,570 คัน เพิ่มขึ้นจาก 484,507 คัน ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ยอดขายที่ชะลอตัวในช่วงต้นปีทำให้ไม่สามารถชดเชยตัวเลขรวมทั้งปีได้ นอกจากนี้ หุ้นของ Tesla ยังลดลง 6% หลังการประกาศผลประกอบการ
คู่แข่งที่เพิ่มขึ้น
รถ Model 3 ของ Tesla ที่เปิดตัวในปี 2017 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นที่นิยมในตลาดกระแสหลักทั่วโลก แต่แบรนด์คู่แข่งอย่าง BYD, Kia-Hyundai, Mercedes-Benz, BMW และแบรนด์จีนอีกมากมาย ต่างเร่งพัฒนา ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาถูกกว่า และดีไซน์ทันสมัยกว่า
BYD ใกล้แซงหน้า Tesla ในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก ในปี 2024 BYD ขายรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1.76 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจาก 1.6 ล้านคันในปี 2023 นอกจากนี้ BYD ยังขายรถยนต์ไฮบริดได้ถึง 2.49 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจาก 1.44 ล้านคัน ในปีก่อน
ความสนใจของนักลงทุน
แม้ว่ายอดขายจะลดลง แต่นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับการพัฒนานวัตกรรมของ Tesla เช่น เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ ผลิตภัณฑ์ล้ำสมัย เช่น หุ่นยนต์ Humanoid รวมถึงแบตเตอรี่ที่ใช้เก็บพลังงานหมุนเวียน ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้น 60% ในไตรมาสล่าสุด
ความท้าทายในอนาคต
Tesla กำลังเผชิญความท้าทายจากนโยบายของ Donald Trump ซึ่งอาจยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม Elon Musk เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อคู่แข่งมากกว่าฝั่งของ Tesla ในสหรัฐฯ
Tesla ได้วางแผนปี 2025 สำหรับเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าราคาเข้าถึงง่าย เพียง 875,000 บาท เพื่อขยายฐานลูกค้า ตอนนี้รายละเอียดจะยังไม่ชัดเจน แต่ด้วยนวัตกรรม ซอร์ฟแวร์ และความเป็นผู้นำของ Tesla ยังคงทำให้นักลงทุนมองไปในทิศทางบวกต่ออนาคตของแบรนด์อยู่ครับ
ที่มา : New York Times