Sahakrit S
BYD ได้เปิดตัว BYD Xia รถ MPV 7 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมระบบส่งกำลังปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ใช้เทคโนโลยี DM 5.0 รุ่นล่าสุดของ BYD โดยมีราคาระหว่าง 1.18 – 1.46 ล้านบาท
BYD Xia DM-i รถ MPV 7 ที่นั่ง ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ราคาเริ่มต้น 1.18 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2025 BYD ได้เปิดตัวรถ MPV 7 ที่นั่ง รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ศูนย์กีฬาทางน้ําแห่งชาติของปักกิ่ง หรือที่เรียกว่า Water Cube ซึ่งเป็นสถานที่ที่เคยจัดงานโอลิมปิกปี 2008
BYD Xia มาพร้อมระบบส่งกำลังปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ใช้เทคโนโลยี DM 5.0 รุ่นล่าสุดของ BYD มีให้เลือกถึง 4 รุ่นย่อย โดยมีราคาระหว่าง 249,800 – 309,800 หยวน (ประมาณ 1.18 – 1.46 ล้านบาท) ดังนี้
- รุ่น 100 กม. Leading ราคา 249,800 หยวน (ประมาณ 1.18 ล้านบาท)
- รุ่น 100 กม. Transcendence ราคา 259,800 หยวน (ประมาณ 1.23 ล้านบาท)
- รุ่น 180 กม. Transcendence ราคา 285,800 หยวน (ประมาณ 1.35 ล้านบาท)
- รุ่น 180 กม. Excellence ราคา 309,800 หยวน (ประมาณ 1.46 ล้านบาท)
BYD Xia เป็นรถ MPV 7 ที่นั่ง ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ท่ีมีรูปแบบที่นั่ง 2+2+3 มีมิติตัวรถ ความยาว 5,145 มม. ความกว้าง 1,970 มม. ความสูง 1,805 มม. และระยะฐานล้อ 3,045 มม. ตัวรถมีความยาวกว่า 5 เมตร แต่มีรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.7 เมตร เท่านั้น
สีภายนอกของ BYD Xia
- สีฟ้าคราม (Yuanshan Blue)
- สีม่วง (Jianyao Purple)
- สีขาว (Runyu White)
- สีดำ (Xuankong Black)
BYD Xia เป็นผลิตภัณฑ์ส่วนหนึ่งในซีรีส์ราชวงศ์ ด้านหน้าใช้ภาษาการออกแบบ Dragon Face กระจังหน้าขนาดใหญ่ พร้อมแถบโครเมียม เพื่อเพิ่มความหรูหรา และมีตัวอักษรภาษาจีน Xia (夏) ที่ด้านหน้า
จากด้านข้าง ตัวรถมาพร้อมประตูบานเลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อเข้าที่นั่งแถวที่ 2 และ 3 ได้อย่างสะดวกสบาย และประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า มาให้เป็นมาตรฐาน กระจกคู่หน้าและผู้โดยสารแถวที่ 2 เป็นกระจก 2 ชั้น นอกจากนี้กระจก 5 บานหลัง เป็นสีดำ เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมกับหน้าจอ infotainment ขนาด 15.6 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่หลังพวงมาลัย ขนาด 12.3 นิ้ว
ในรุ่น 100 กม. Transcendence ที่นั่งแถวที่ 1 และ 2 มาพร้อมเบาะอุ่น เบาะระบายอากาศ พร้อมกับปรับ Lambda Support ได้ 4 ทิศทาง เบาะคนขับยังมีเบาะนวดอีกด้วย ในขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 3 มีการพับเบาะด้วยระบบไฟฟ้าเพียงปุ่มเดียว พร้อมกับการเลื่อนไปข้างหน้าและข้างหลัง สูงสุด 100 มม. เบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถพับแบบราบเรียบได้ ทำให้มีพื้นที่บรรทุกได้มากขึ้นเยอะ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ รองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย กำลังไฟ 50W และตู้รักษาอุณหภูมิขนาดเล็ก ที่อยู่ด้านหลังของคอนโซลกลาง สามารถทำอุณหภูมิได้ระหว่าง -6°C ถึง 50°C และยังมีโต๊ะแบบพับเก็บได้ที่อยู่ด้านหลังของเบาะผู้โดยสารด้านหน้า
ในรุ่น 180 กม. Transcendence จะได้ระยะทางเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ระดับอุปกรณ์ก็สูงขึ้นเช่นกัน เช่น มีการฉาย AR เป็นเซ็นเซอร์ให้เปิดประตูบานเลื่อนด้านข้างและประตูท้ายได้ด้วย ที่นั่งแถวที่ 2 ได้รับการอัปเกรดเป็นท่ีนั่งแบบไร้แรงโน้มถ่วง (Zero-Gravity Seat) ซึ่งหมายความว่าสามารถปรับเอนได้มากขึ้น และยังได้รับฟังก์ชันเบาะนวด 10 จุดและฟังก์ชันจดจําตำแหน่งที่นั่งอีกด้วย
ตัวท็อปสุด ในรุ่น 180 กม. Excellence มีหน้าจอความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมกับหน้าจอความบันเทิงบนเพดานสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ขนาด 15.6 นิ้ว และในรุ่นท็อปยังได้รับการอัปเกรดเป็นระบบ DiLink150 สามารถเชื่อมหน้าจอทั้งหมด และรองรับเกมหลายรูปแบบ และยังได้กระจกมองหลังแบบสตรีมมิ่งอีกด้วย
มาพร้อมกับระบบเสียง DiSound ที่ BYD พัฒนาขึ้นเอง ลำโพง 28 ตัว และช่องเสียงอิสระ 32 ช่อง ซับวูฟเฟอร์แถวที่ 3 สามารถถอดออกมาเป็นลำโพงบลูทูธได้ด้วย กำลังขับ 170W
ในรุ่น Excellence จะมาพร้อมเบาะหนัง Nappa มีระบบน้ำหอมภายในรถด้วย และฟังก์ชันพวงมาลัยอุ่น พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ (เมื่อพับเบาะ) ความจุ 470 – 2,036 ลิตร
BYD Xia ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด DM 5.0 พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่มีกำลัง 115 kW 154 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 200 kW 268 แรงม้า
ในรุ่น 100 กม. จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 20.4 kWh และรุ่น 180 กม. มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 36.6 kWh ทั้ง 2 รุ่นใช้แบตเตอรี่ LFP จาก FinDreams ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BYD ส่วนเรื่องระยะทางรวมสูงสุด วิ่งได้ 1,060 กม. สำหรับรุ่นแบตเตอรี่ขนาด 36.6 kWh อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.4 ลิตร/100 กม. (18.5 กม./ลิตร) และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.5 วินาที ส่วนแบตเตอรี่ขนาด 20.4 kWh ยังไม่มีตัวเลขระยะทางรวมสูงสุดเผยออกมาให้เห็น แต่มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.3 ลิตร/100 กม. (18.8 กม./ลิตร) และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.1 วินาที
ตัวรถมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะระดับไฮเอนด์ DiPilot 100 เป็นมาตรฐาน ซึ่งใช้เพื่อการขับขี่ความเร็วสูง และระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะเต็มรูปแบบ ใช้ระบบ Eye of the Gods ของทาง BYD และตัวระบบใช้เซ็นเซอร์ทั้งหมด 29 ตัว นอกจากนี้ยังมีช่วงล่างอัจฉริยะ DiSus-C และตัวรถสามารถตรวจจับพื้นผิวถนน ที่สามารถปรับช่วงล่างให้เหมาะสมกับพื้นถนนได้แบบเรียลไทม์
ที่มา carnewschina
ขอบคุณภาพ autohome
