Sakura P.
สื่อทางการของจีนรายงานว่า จีนได้สร้างสายการผลิตแบตเตอรี่แบบ All-Solid-State ความจุสูงแห่งแรกเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยโรงงานแห่งนี้สร้างโดย GAC Group ซึ่งขณะนี้กำลังผลิตเซลล์แบตเตอรี่เกรดสำหรับรถยนต์ขนาด 60 Ah+ ในรูปแบบการทดสอบล็อตเล็ก โดยคาดการณ์ว่าเมื่อนำเซลล์เหล่านี้ไปประกอบใช้งานจริง จะช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าที่ปัจจุบันวิ่งได้ระยะทาง 500 กม. สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กม. ซึ่งแผนการผลิตจำนวนมากจะเริ่มในช่วงปี 2027-2030
GAC Group เริ่มเดินเครื่องผลิตแบตเตอรี่ All Solid-State ตั้งเป้าผลิตจำนวนมาก ปี 2027
60 Ah+ หมายถึงความจุของเซลล์แบตเตอรี่แต่ละก้อนในหน่วยแอมแปร์-ชั่วโมง (Ah) โดยเซลล์ขนาด 60 Ah ตามทฤษฎีแล้วสามารถจ่ายไฟได้ 60 แอมแปร์เป็นเวลา 1 ชั่วโมงก่อนที่ไฟจะหมด ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ยิ่งค่า Ah ต่อเซลล์สูง ก็หมายถึงการกักเก็บพลังงานได้มากขึ้น และเมื่อนำหลาย ๆ เซลล์มาประกอบเป็นแพ็กแบตเตอรี่ ก็จะทำให้รถวิ่งได้ระยะทางไกลขึ้นนั่นเอง
แบตเตอรี่แบบ All-Solid-State ใช้อิเล็กโทรไลต์ที่เป็นของแข็งแทนของเหลว ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรทางความร้อนและความปลอดภัย โดยสายการผลิตของ GAC นี้มีรายงานว่าทำความจุต่อพื้นที่ได้สูงถึง 7.7 mAh/cm² เมื่อเทียบกับกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมของลิเธียมไอออนที่ทำได้น้อยกว่า 5 mAh/cm²
Qi Hongzhong ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ GAC กล่าวว่า ความหนาแน่นของพลังงานในเซลล์แบตเตอรี่แข็งรุ่นใหม่นี้ มีค่าเกือบ 2 เท่าของแบตเตอรี่ทั่วไป ซึ่งจะทำให้รถยนต์ที่ปัจจุบันวิ่งได้ 500 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อาจวิ่งได้ไกลถึงกว่า 1,000 กิโลเมตรด้วยเซลล์ชนิดนี้
ทางบริษัทใช้กระบวนการผลิตขั้วแอโนดแบบ “แห้ง” (Dry anode process) ซึ่งรวมขั้นตอนการผสม Slurry, การเคลือบ และการรีด เข้าไว้ในขั้นตอนเดียว เทคนิคนี้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและลดการใช้พลังงาน นอกจากนี้ อิเล็กโทรไลต์แบบแข็งยังทนความร้อนได้สูงกว่าแบบของเหลว โดยสามารถทนได้ถึง 300–400°C เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ทั่วไปที่ทนได้ประมาณ 200°C
สำหรับการทดสอบติดตั้งในรถยนต์ล็อตเล็กวางแผนไว้ในปี 2026 และจะค่อย ๆ เพิ่มกำลังการผลิตไปสู่ระดับ Mass production ในช่วงปี 2027 ถึง 2030 แม้ว่าความสำเร็จนี้จะเป็นก้าวสำคัญทางเทคนิค แต่การทำตลาดเชิงพาณิชย์ยังต้องขึ้นอยู่กับเงินลงทุน,การจัดหาวัสดุอิเล็กโทรไลต์แข็งที่เชื่อถือได้, และการพิสูจน์สมรรถนะรวมถึงความปลอดภัยในระยะยาวเมื่อใช้งานจริงในรถยนต์
ที่มา carnewschina
