BYD กำลังตอกย้ำความเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด รถยนต์รุ่นใหม่ และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ล้ำสมัย รวมถึงแผนขยายตลาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคด้านภาษีนำเข้า แต่ BYD ก็ยังคงเดินหน้าสร้างสถิติใหม่ในด้านการส่งออก
ยอดขาย BYD พุ่งสูงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ยอดส่งออกโตขึ้น 187% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ยอดขายที่ทำลายสถิติการส่งออก
รายงานระบุว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 BYD มียอดขายรถยนต์ทั่วโลกถึง 322,846 คัน เพิ่มขึ้น 8.9% จากเดือนมกราคมที่ขายได้ 296,446 คัน ซึ่งเป็นช่วงที่เทศกาลตรุษจีนสิ้นสุดลง แต่สิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่ตัวเลขการส่งออก
BYD สามารถส่งออกรถยนต์ได้สูงถึง 67,025 คัน ซึ่งเป็นสถิติใหม่ เพิ่มขึ้นถึง 187.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว หากนับรวมกับยอดส่งออกของเดือนมกราคม BYD ได้ส่งออกรถยนต์รวมแล้ว 133,361 คันในปี 2025 คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 124% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
เหตุผลที่ยอดขายพุ่งสูง
ส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้มาจากการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Atto 2 รถครอสโอเวอร์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่เข้ามาทำตลาดในยุโรป โดยใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery และโครงสร้างรถ e-Platform 3.0 ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก (B-segment)
Atto 2 มาพร้อมกับหน้าจอผู้ขับขนาด 8.8 นิ้ว, รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto, หลังคาพาโนรามา, เบาะนั่งที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ และระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งอย่าง Volvo EX30
กลยุทธ์ด้านการกำหนดราคาของ BYD ทำให้คู่แข่งต้อง “ตัดสินใจอย่างสุดโต่ง” ในบางตลาด ซึ่งรวมถึงการลดราคาครั้งใหญ่ เช่น การที่ Volkswagen ลดราคา ID.4 ลงเกือบ 20,000 ดอลลาร์ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ ในขณะเดียวกัน การลงทุนมหาศาลของบริษัทในโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ ซึ่งรวมถึงเรือขนส่งประสิทธิภาพสูงหลายลำ ก็ทำให้การส่งออกของ BYD ง่ายขึ้น ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า BYD จะขายรถได้ประมาณ 5.5 ล้านคันในปี 2025
ที่มา electrek