ใน , , ,

Elon Musk ยืนยันว่าแอป Tesla จะสามารถสั่งงานผ่าน Apple Watch ได้ในอนาคต

Tesla กำลังพัฒนาฟีเจอร์ Phone Key ในแอป Tesla บน Apple Watch ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ Ultra-Wideband (UWB) ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาทำให้การล็อกรถ ปลดล็อกรถ และเปิดประตูอัตโนมัติ ทำได้แม่นยำมากขึ้น

Elon Musk ยืนยันว่าแอป Tesla จะสามารถสั่งงานผ่าน Apple Watch ได้ในอนาคต

ในที่สุด Tesla ก็พร้อมที่จะเปิดตัวการใช้งานสำหรับอุปกรณ์ Apple Watch และอุปกรณ์สวมใส่ของฝั่ง Android ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้มีการร้องคำขอฟีเจอร์เหล่านี้อยู่หลายครั้งจากผู้ใช้ และ Elon Musk ได้ตอบกลับผ่านโซเชียลมีเดีย X แบบง่าย ๆ ในวันนั้น ว่า “Sure (แน่นอน)” ซึ่งการตอบสั้น ๆ ของ Elon Musk ได้ตอบกลับแบบนี้มาหลายปีแล้ว ในคำขอ ตัวอย่างเช่น ฟีเจอร์เปิดประตูโรงจอดรถผ่าน WiFi, ฟีเจอร์ล็อกรหัส (PIN) ที่เก็บของ Glovebox, ฟีเจอร์เปิด-ปิดลดแสงอัตโนมัติที่กระจกมองข้าง และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้คำขอเหล่านี้ ได้อยู่ในตัวรถ Tesla ปัจจุบันหมดแล้ว

ภาพแนวคิดแอป Tesla บน Apple Watch

บัญชีผู้ใช้ X ชื่อ @dani_elle831 ได้อธิบายเหตุการณ์ครั้งหนึ่ง ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ว่า “ในที่สุดมันก็เกิดขึ้น โทรศัพท์ของฉันเสีย และตัวรถ Tesla ก็ล็อกด้วย แต่ยังมีความโชคดีอยู่ ที่มีร้านนวดอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้น จึงไปขอความช่วยเหลือในการใช้โทรศัพท์ของพวกเขาล็อกอินเข้าแอป Tesla และสามารถปลดล็อกตัวรถได้สำเร็จ ฉันได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมไม่สามารถปลดล็อกรถผ่าน Apple Watch หรือ Smart Watch อื่น ๆ ได้” และ Elon Musk ได้ตอบกลับแบบง่าย ๆ ว่า “Sure (แน่นอน)”

รองรับฟีเจอร์ Phone Key บน Apple Watch

การที่ Apple Watch สามารถรองรับใช้นาฬิกาเป็นกุญแจรถได้ ถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง แต่จากบริบทของโพสต์บน X ยังไม่ชัดเจนว่าจะใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวได้เมื่อไหร่ เนื่องจากในโพสต์เพียงแค่พูดถึงการปลดล็อกรถ เมื่อคุณไม่มีโทรศัพท์ที่ใช้งานได้เท่านั้น อาจหมายถึงการมีฟีเจอร์ Phone Key บน Apple Watch ของคุณ หรือเพียงแค่สามารถปลดล็อกและสตาร์ทรถผ่านอินเทอร์เน็ตได้ เหมือนที่คุณสามารถทําได้ผ่านแอปเมื่อคุณอยู่นอกระยะ Bluetooth

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการรองรับฟีเจอร์ Phone Key จะเป็นฟีเจอร์ที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถล็อกและปลดล็อกรถได้ด้วยโทรศัพท์ โดยไม่ต้องพกกุญแจจริง รวมถึงสามารถแชร์กุญแจให้กับผู้อื่นได้ผ่านโทรศัพท์ ถือเป็นสิ่งที่สะดวกมาก ๆ และไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกด้วย

ล่าสุด Tesla ได้อัปเดตรองรับ Ultra-Wideband (UWB) สำหรับฟีเจอร์ Phone Key จะทำให้ฟีเจอร์ Phone Key ทำงานร่วมกับสมาร์ตโฟน ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ตอบสนองได้ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับ iPhone ที่ใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ ต้องเป็น iPhone รุ่นที่มีชิป UWB ก็คือ iPhone 11 ขึ้นไป ส่วนสมาร์ตโฟน Android ถึงแม้ว่าจะมีชิป UWB แต่ปัจจุบัน Tesla เปิดตัวการทำงานนี้ร่วมกับ iPhone ก่อน คาดว่าสมาร์ตโฟน Android จะรองรับในอนาคต ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Android 13 ขึ้นไป

นอกจากนี้ยังรองรับใน Model 3 Refreshed, Cybertruck และ Model S / Model X รุ่นรีเฟรชใหม่ที่ระบุถึงความถี่ UWB แต่น่าเสียดายที่ Model 3 รุ่นก่อนหน้าและ Model Y รุ่นปัจจุบันนั้น ไม่รองรับฟีเจอร์ Phone Key ที่ทำงานร่วมกับ UWB

ส่วน Apple Watch ที่รองรับฟีเจอร์ Phone Key ที่ทำงานร่วมกับ UWB ได้แก่ Apple Watch Series 6 ขึ้นไป รวมถึง Apple Watch Ultra 1 และ Apple Watch Ultra 2 ด้วย

ความคาดหวังแอป Tesla บน Apple Watch 

Tesla กำลังพัฒนาหน้าตาแอปสำหรับ Apple Watch ที่สามารถเข้าถึงฟังก์ชันใช้งานได้ง่าย เช่น ปลดล็อก-ล็อกรถ, เปิดแอร์ล่วงหน้า, การชาร์จ และตั้งค่าระดับการชาร์จ (ดังภาพแนวคิดด้านล่าง) แม้กระทั่งรวมถึง การรองรับ Phone Key อย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม อาจเป็นแอปที่ดีไซน์เรียบง่าย เข้าถึงฟังก์ชันได้ง่าย และดูข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับตัวรถ เช่น ดูระยะทางที่เหลือ, เปอร์เซ็นการชาร์จ, ปลดล็อก และเริ่มชาร์จ ซึ่งการที่รองรับบน Smart Watch รถยนต์แบรนด์อื่นมีมานานแล้ว แม้ว่า Tesla จะเปิดตัวช้า แต่ก็เป็นการพัฒนาที่ดี สร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ใช้ Tesla อีกด้วย

ภาพแนวคิดแอป Tesla บน Apple Watch

ผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์อื่น ใช้งานได้นานแล้ว

การพัฒนาแอป Tesla บน Smart Watch นั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่น่าแปลกใจที่อยู่เบื้องหลังการแข่งขันในตลาด ซึ่งแตกต่างจาก Tesla ในแง่ของซอฟต์แวร์ บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Porsche, BMW, Dodge, Toyota และ Ford ตัวแอปรองรับบน Smart Watch แล้ว โดยแอปมีคุณสมบัติมากมาย เช่น Start/Stop รถได้จากระยะไกล, ปลดล็อก-ล็อกรถ, ค้นหารถ และแสดงสถานะรถยนต์

ทั้งนี้การพิจารณาแอป Tesla บน Smart Watch เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่น่าสนใจ หลังจาก Apple ประกาศยกเลิกโปรเจคการทำรถยนต์ไฟฟ้า หรือ Apple Car ซึ่งจะแข่งขันกับ Tesla โดยตรง น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ และอาจจะเกี่ยวข้องกับการเพิ่ม Ultra-Wideband เมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่นี้ จะทำให้ใช้งานได้อย่างแม่นยํามากขึ้น

รอติดตามต่อไปว่า Tesla จะเปิดตัวให้ใช้งานบน Apple Watch ได้เมื่อไหร่

ที่มา : not a tesla app

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S