ใน ,

Hyundai Ioniq 6 รถยนต์ซีดานไฟฟ้า ดีไซน์ตามหลัก Aerodynamic ชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ไกล 580 กิโลเมตร

Hyundai Ioniq 6 ปี 2023 รถยนต์ซีดานไฟฟ้าออกแบบตามหลัก Aerodynamic ได้อย่างดี มีห้องโดยสารกว้างขวาง วิ่งได้ไกลถึง 580 กม. มีระบบส่งกำลังทั้งมอเตอร์คู่และมอเตอร์เดี่ยว รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 350 kW

Hyundai Ioniq 6 รถยนต์ซีดานไฟฟ้า ดีไซน์ตามหลัก Aerodynamic ชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ไกล 580 กิโลเมตร

Hyundai Ioniq 6 ปี 2023 รถยนต์ไฟฟ้าจากทาง Hyundai ว่ากันว่ามีประสิทธิภาพที่ล้ำหน้า Tesla Model 3 และสามารถเทียบชั้นกับ Lucid Air รถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในสหรัฐอเมริกา

สำหรับรุ่น SE Long Range ที่ให้ล้อขนาด 18 นิ้ว ชาร์จครั้งเดียวสามารถวิ่งได้ไกลถึง 580 กม. ตามมาตรฐาน EPA เช่นเดียวกันกับ Lucid Air Touring AWD ซึ่งชาร์จครั้งเดียวสามารถวิ่งได้ไกลพอ ๆ กับรถรุ่นดังกล่าว

ภาพรวม Hyundai Ioniq 6 มีดีไซน์ที่เท่ ยกระดับรูปแบบการใช้งานที่มากขึ้น รถรุ่นดังกล่าวยังมีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) มากที่สุดในบรรดารถ Hyundai ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านของรถเพียง 0.22 เช่นเดียวกันกับ Mercedes-Benz EQE ซึ่งมีราคาสูงกว่าเกือบ 2 เท่า

การออกแบบภายนอก

Hyundai Ioniq 6 นำการดีไซน์ความโค้งมนจาก Saab 92 และ Mercedes-Benz EQE และนำดีไซน์สปอยล์เลอร์แบบตูดเป็ด (Duck Tail) มาจาก Porsche 911 Carrera

Ioniq 6 ได้รับแรงบันดาลใจจาก Concept Car ชื่อรุ่น Hyundai Prophecy มาพร้อมกับ Active Air Flaps ที่ใส่มาแทนกระจังหน้า และ ล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว เช่นเดียวกับรถรุ่นนี้

หลังคารถมีความโค้งมนเช่นเดียวกันกับรถคูเป้ โดย Ioniq 6 มีความแตกต่างตรงที่สปอล์ยเลอร์ทรงรีคล้ายกับปีกนก แยกมาจากส่วนสปอยเลอร์ที่เป็นทรง duck tail และ whale tail

ด้านหลังมีไฟ Day Time Running Light ดีไซน์คล้าย ๆ กับถาดน้ำแข็ง และมาพร้อมกับไฟหลังแบบแนวตั้ง ไฟแสดงสถานะบนกระจกมองข้าง อุปกรณ์ตกแต่งในเรือนไฟหน้าแบบ LED มาตรฐาน

การออกแบบภายใน

ห้องโดยสารมีความกว้างขวางและโปร่งสบายด้วยกระจกด้านหลัง สามารถเพิ่มออปชั่นการตกแต่ง Panoramic Sunroof ได้ สำหรับ Headroom ของรถคันนี้ค่อนข้างสูง แต่ถ้าผู้โดยสารสูงถึง 180 ซม. อาจจะรู้สึกแคบได้เหมือนกัน เนื่องจากการออกแบบตัวรถเพื่อรองรับ Aerodynamic และมี Leg Room ที่กว้างเป็นพิเศษ แต่ก็อาจจะแคบกว่านี้ได้ถ้าผู้โดยสารข้างหน้าเขยิบเบาะมาชิดด้านหลัง

ในส่วนพวงมาลัยของ Ioniq 6 จะมีไฟที่แสดงสถานะการขับขี่ต่าง ๆ แบบเดียวกันกับ Ioniq 5  ที่มาพร้อมกับปุ่มปรับโหมดการขับขี่ด้านล่างปุ่มควบคุมพวงมาลัย และคันเกียร์ติดตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม

มีหน้าจอ 12.3 นิ้ว ทั้งหน้าจอคนขับ และหน้าจอ Infotainment ที่อยู่เสมอสายตาคนขับได้อย่างดี

ในส่วนควบคุมการเปิด การล็อคประตูและหน้าต่าง จะควบคุมผ่านคอนโซลกลาง

แผงหน้าปัดตรงด้านซ้ายล่างของคนขับ มีปุ่มควบคุมกระจกมองข้าง และยังมาพร้อมกับปุ่มควบคุมการยึดเกาะถนน และเบรกมือไฟฟ้า

มีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายและพอร์ต USB ซึ่งอยู่ด้านล่างของแผงควบคุมอุณหภูมิแอร์

พละกำลังของ Ioniq 6

Ioniq 6 มีความเป็นรถสปอร์ตมากกว่า Ioniq 5 เพียงเล็กน้อย โดยอิงจากการทดสอบในรุ่น Limited AWD ซึ่งรถรุ่นดังกล่าวมีประสิทธิภาพและพลังกำลังดังนี้

  • มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (ด้านหน้า 75 kW / ด้านหลัง 165 kW)
  • พละกำลัง 320 แรงม้า
  • แรงบิด 604 นิวตันเมตร
  • อัตราเร่งจาก 0-100 ภายใน 5.1 วินาที

สำหรับรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบเดี่ยวจะให้ประสิทธิภาพดังนี้

  • มอเตอร์ไฟฟ้า 168 kW
  • พละกำลัง 225 แรงม้า
  • แรงบิด 309 นิวตันเมตร
  • อัตราเร่งจาก 0-100 ภายใน 7.4 วินาที

ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบอิสระด้านหน้าและหลังแบบมัลติงลิงค์ เพื่อลดการสั่นสะเทือนของถนนให้มีความเงียบยิ่งขึ้น

มาพร้อมกับโหมดขับขี่ทั้งหมด 5 โหมด ได้แก่ Eco, Normal, Sport และ Custom ที่สามารถปรับเปลี่ยนการกระจายแรงบิดและการบังคับเลี้ยว สำหรับโหมด Sport ปรับความรู้สึกในการบังคับเลี้ยวจากที่ให้ความรู้สึกเบาตามค่าเริ่มต้นให้มีแรงต้านมากขึ้น และแบ่งแรงบิดระหว่างเพลาโดยอัตโนมัติเพื่อการยึดเกาะถนนที่ดีที่สุด

ระยะทางและการชาร์จ

  • สถาปัตยกรรมแบตเตอรี่ 800 โวลต์
  • รองรับการชาร์จ on-board ขนาด 10.9 kW
  • รองรับการชาร์จด้วย connector 240 โวลต์
  • รองรับการชาร์จแบบ DC สูงสุด 350 kW สามารถชาร์จจาก 10-80% ใน 18 นาที
  • ระบบ heat pump ช่วยให้ชาร์จพลังงานได้เร็วในสภาพอากาศที่หนาวเย็น
  • รองรับ Vehicle-to-load (V2L) สามารถจ่ายไฟได้ 1.9 kW ( สำหรับรุ่น limited )

Ioniq 6 ยังมาพร้อมกับเบรกรุ่นใหม่ รวมถึงโหมดการขับขี่แบบ one-pedal ใช้สำหรับการปรับคันเร่งเพื่อหลีกเลี่ยงการเบรกกะทันหัน

Hyundai Ioniq 6 ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีดีไซน์สปอร์ตซีดาน ที่มีการออกแบบให้รองรับ Aerodynamic ที่ดีขึ้น มีประสิทธิและพละกำลังที่ไม่เป็นสองรองใคร อีกทั้งมาพร้อมกับการรองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุดและไวสุดเพียง 18 นาที และที่สำคัญยังรองรับ V2L ซึ่งตอบโจทย์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก

สำหรับประเทศไทยได้มีการเปิดตัว Ioniq 5 ไปแล้วในเดือน พฤศจิกายน 2022 และจะเปิดจำหน่ายในปี 2023 นี้ คาดว่าราคาอาจจะต่ำกว่า 2 ล้านบาท สำหรับ Ioniq 6 ยังไม่ทราบว่าจะเปิดขายเมื่อไร อย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อไป

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Thanakrit Kongpon