ใน

BYD เข้าซื้อต่อโชว์รูมหรูในประเทศจีน อย่าง BMW, Mercedes-Benz และ Aston Martin เพื่อทำโชว์รูมหรู Fang Cheng Bao

ก่อนหน้านี้ Fang Cheng Bao ได้เปิดตัวหน้าร้าน (Store) แห่งแรกอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศจีน พร้อมกับเผยภาพรถยนต์คันแรกของแบรนด์มาให้เห็นกันบ้างแล้ว ล่าสุดก็ได้มีการเข้าซื้อต่อโชว์รูมหรูหลายค่ายในประเทศจีน

BYD เข้าซื้อต่อโชว์รูมหรูในประเทศจีน อย่าง BMW, Mercedes-Benz และ Aston Martin เพื่อทำโชว์รูมหรู Fang Cheng Bao

Fang Cheng Bao (FCB) เป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมของ BYD ซึ่งทางการได้เปิดเผยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า มีแผนขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายให้ได้ 100 แห่ง ใน 60 เมืองของประเทศจีน และเมื่อเร็วๆนี้ มีผู้ตั้งข้อสังเกตของทำเลที่ตั้งโชว์รูม Fang Cheng Bao นั้นไม่ธรรมดา เนื่องจากเป็นการซื้อต่อพื้นที่โชว์รูมรถยนต์หรูหลายค่ายมาทำต่อกันเลย

โชว์รูมแห่งใหม่ของ Fang Cheng Bao เคยเป็นโชว์รูมของแบรนด์หรูค่ายอื่นมาก่อน และนำมาตกแต่งใหม่ มีทั้ง อดีตโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการของ Mercedes-Benz บนถนน Boutique Street ในเมือง Jiaxing, โชว์รูมระดับเรือธงอย่าง Aston Martin บนถนน Jingsi ในเมือง Jinan และโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการของ Maserati ในเมือง Shunde

อดีตโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการของ Mercedes-Benz บนถนน Boutique Street ในเมือง Jiaxing
โชว์รูม Fang Cheng Bao อยู่ระหว่างการก่อสร้างถัดจากโชว์รูม YangWang แห่งใหม่ ทั้งสองแบรนด์เป็นของ BYD
อดีตโชว์รูม Aston Martin บนถนน Jingsi ในเมือง Jinan
อดีตโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการของ Maserati ในเมือง Shunde

นอกเหนือจากมีการเข้าซื้อต่อโชว์รูมหรูหลายแห่งแล้ว Fang Cheng Bao ยังมีการเปิดโชว์รูมในห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในเมืองใหญ่ๆ โดยหลายพื้นที่ในห้างสรรพสินค้านั้นเคยเป็นพื้นที่ของ BMW มาก่อน

ทำความรู้จักกับแบรนด์ Fang Cheng Bao

Fang Cheng Bao เป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมภายใต้ BYD ถูกวางตำแหน่งให้อยู่ระหว่างแบรนด์ Denza และ YangWang

รถยนต์คันแรกของ Fang Cheng Bao เปิดตัวในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยจะเป็นรถยนต์ PHEV มีชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการว่า Bao 5 (Leopard 5) เป็นรถประเภท SUV ขนาดกลาง รูปลักษณ์ภายนอกดูบึกบึน

  • มิติตัวถัง 4,890 x 1,970 x 1,920 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,650 มม.
  • ใช้ระบบส่งกำลัง DMO ใหม่จาก BYD เป็นระบบส่งกำลังแบบไฮบริด มีเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขนาด 200 kW และ 285 kW
  • พละกำลัง 680 แรงม้า (500 kW) / แรงบิด 760 นิวตันเมตร
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 4.8 วินาที
  • มุม Approach 35 องศา มุม Departure 32 องศา และจะมีรุ่นออฟโร้ดที่มี มุม Approach 39 องศา มุม Departure 35 องศา
  • มีระบบกันสะเทือน Disus-P
  • ระบบล็อคเฟืองท้าย 3 ตัว
  • แบตเตอรี่เทคโนโลยี CTC ชาร์จ 16 นาที วิ่งได้ไกล 125 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
  • ระยะทางผสม 1,200 กม.
  • ระบบเสียง Devialet
  • จอ HUD ขนาด 50 นิ้ว

คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2023 และมีกำหนดการเริ่มส่งมอบภายในสิ้นปีนี้ ส่วนราคารถจะอยู่ที่ประมาณ 300,000 – 400,000 หยวน (ประมาณ 1.47 – 1.96 ล้านบาท)

นอกจากนี้ ในอนาคตจะยังมี Bao 8 ซึ่งเป็น SUV สายลุย และ Bao 3 มาเสริมทัพอีกด้วย ซึ่งยังไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับรุ่นดังกล่าวเลย

ที่มา – CarNewsChina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S