BMW เตรียมพัฒนาวัสดุที่มาทนแทน Carbon Fiber โดยหันมาใช้วัสดุจากพืชแทนลดคาร์บอนได้สูงสุด 40% เตรียมพร้อมผลิตแบบ Mass Production ในรถแข่ง GT และตระกูล M เจนถัดไป
BMW เตรียมบอกลา Carbon Fiber ใช้ “ไฟเบอร์จากพืช” ลดคาร์บอนได้สูงสุด 40% หล่อ เบา และแข็งแรงเหมือนเดิม
BMW เตรียมนำวัสดุใหม่ที่มีน้ำหนักเบา อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้แทน Carbon Fiber โดยเริ่มนำไปใช้ในรถแข่ง รวมถึงรถในตระกูล M Series รุ่นถัดไป โดยวัสดุดังกล่าวผลิตจากเส้นใยพืชประเภท “แฟลกซ์” (Flax-based natural fiber) ซึ่งผ่านการทดสอบในสนามแข่ง และได้รับการยืนยันว่าพร้อมเข้าสู่สายการผลิตแบบจำนวนมากแล้ว
จากสนามแข่งสู่ถนนจริง
BMW จะเริ่มใช้งานวัสดุเส้นใยจากพืชนี้ในรถแข่งอย่าง BMW M4 GT4 ที่จะลงแข่งขันในรายการ Nürburgring 24 Hours ที่ซึ่งเป็นสนามทดสอบจริงสำหรับวัสดุรุ่นใหม่ ก่อนที่จะถูกนำมาใช้กับชิ้นส่วนตกแต่งภายนอก และภายในของรถ M รุ่นใหม่ ๆ ที่ปกติจะใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์มาก่อนหน้านี้
แม้ว่าจะแฟลกซ์ไฟเบอร์จะมีลักษณะคล้ายกับคาร์บอนไฟเบอร์ แต่เส้นใยแฟลกซ์นี้มีต้นทางมาจากพืชและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้จริง
ความร่วมมือกับ Bcomp จากสวิตเซอร์แลนด์
BMW ทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีสะอาดจากสวิตเซอร์แลนด์อย่าง Bcomp มาหลายปี เพื่อพัฒนาวัสดุคอมโพสิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ทั้งนี้ BMW ยังถือหุ้นใน Bcomp ผ่านหน่วยลงทุนของบริษัทชื่อ BMW i Ventures
เส้นใยจากพืชดังกล่าวเคยถูกทดสอบในรถแข่งของ BMW มาแล้วหลายรายการ เช่น:
-
Formula E ปี 2019
-
BMW M4 GT4 และรถแข่ง DTM ในช่วงหลังที่ผ่านมา
พร้อมผลิตจริงในรถยนต์ของลูกค้า BMW
ล่าสุด BMW ประกาศว่าเส้นใยแฟลกซ์ได้รับการรับรองให้ “พร้อมสำหรับการผลิตจริง (Mass Production” โดยจะเริ่มนำมาใช้แทนหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ของรถยนต์เวอร์ชันจำหน่ายจริง โดยเฉพาะในรถตระกูล M Performance เท่านั้น
BMW ระบุว่า วัสดุใหม่นี้สามารถลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิตลงได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับการผลิตคาร์บอนไฟเบอร์แบบเดิม โดยไม่ลดทอนคุณภาพ หรือรูปลักษณ์ที่ลูกค้าคุ้นชินกัน
ความสำคัญของแนวทางใหม่
ในแถลงการณ์ของ BMW ระบุว่า:
“การออกแบบโครงสร้างน้ำหนักเบาคือหัวใจสำคัญของ BMW มาโดยตลอด การใช้วัสดุจากธรรมชาติที่มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำในงานคอมโพสิตนั้นมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ผลการทดสอบชี้ให้เห็นว่า เส้นใยธรรมชาติมีคุณสมบัติที่เหมาะสมอย่างมาก โดยเฉพาะในชิ้นส่วนที่มองเห็นได้ทั้งภายนอกและภายใน”
ที่มา : The Drive