Renault Filante Record 2025 สถิติรถ EV วิ่งรวดเดียว 1,008 กม. ไม่แวะชาร์จ
Renault ปิดฉากปี 2025 อย่างสวยงาม พิสูจน์ความสำเร็จด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ด้วยรถต้นแบบอย่าง Renault Filante Record 2025 โชว์ประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ไม่ธรรมดา ด้วยสถิติการขับระยะทางไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร รวดเดียวโดยไม่ชาร์จแม้แต่ครั้งเดียว ขับจริงใกล้เคียงกับการวงบนทางหลวงจริง

สถิตินี้สะท้อนแนวคิดของ Renault ในการพัฒนารถไฟฟ้าที่ไม่ใช่เพียงแค่เน้นตัวเลขในห้องทดลอง แต่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
สถิติที่อ้างอิงจากการใช้งานจริง
Renault ตั้งเป้าหมายตั้งแต่ต้นปี 2025 ว่าจะขับรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ไกลทะลุ 1,000 กิโลเมตร ใช้แบตเตอรี่ขนาดเดียวกับ Scenic E-Tech Electric ความจุ 87 kWh ต้องรักษาความเร็วเฉลี่ยเหมือนวิ่งบนทางหลวง โดยไม่หยุดชาร์จ

ความพยายามครั้งแรกในเดือนตุลาคมต้องยกเลิกไปเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จนกระทั่งวันที่ 18 ธันวาคม ทีม Renault สามารถทำภารกิจสำเร็จที่สนามทดสอบ UTAC ประเทศโมร็อกโก
เป้าหมายของ Renault ไม่ใช่การขับช้า ๆ เพื่อประหยัดพลังงาน แต่เป็นการพิสูจน์ประสิทธิภาพการใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริง โจทย์คือรถ Filante Record 2025 ต้องรักษาความเร็วเฉลี่ยมากกว่า 110 กม./ชม. และวิ่งให้ได้เกิน 1,000 กิโลเมตร ภายใน 10 ชั่วโมง รวมเวลาช่วงเปลี่ยนคนขับ และจุดตรวจสอบทางเทคนิค
แนวคิดการออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุด
หัวใจสำคัญของ Filante Record 2025 คือการดึงศักยภาพด้านประสิทธิภาพออกมาให้มากที่สุด ผ่าน 3 ปัจจัยหลัก :
-
การตั้งค่าหลักอากาศพลศาสตร์ให้ดีที่สุด
-
การลดน้ำหนักตัวรถ
-
การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพสูง
รถคันนี้ยังถูกออกแบบให้มีเอกลักษณ์เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของ Renault โดยได้แรงบันดาลใจจากรถทำสถิติในอดีต เช่น Renault 40 CV ปี 1925 และ Étoile Filante ปี 1956 ผสานกับองค์ประกอบจากโลกการบิน
ตัวถังสี Ultraviolet Blue ตัวแทนสีแห่งอนาคต ห้องโดยสารท่านั่งคล้ายเครื่องบินขับไล่ ตำแหน่งผู้ขับถูกออกแบบตามแนวคิดของรถ Formula 1 เพื่อให้ควบคุมได้แม่นยำ และลดแรงต้านอากาศ

เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ถูกนำมาใช้งานจริง
Renault Filante Record 2025 เปรียบเสมือนห้องทดลองเคลื่อนที่ เพราะคันนี้ได้รวบรวมเทคโนโลยีใหม่หลายอย่างไว้ในคันเดียว :
-
ระบบบังคับเลี้ยว และ เบรกแบบไฟฟ้าล้วน (Steer-by-wire และ Brake-by-wire)
-
การใช้วัสดุน้ำหนักเบาขั้นสูง เช่น คาร์บอนไฟเบอร์ อะลูมิเนียมอัลลอย และ Scalmalloy ที่ผลิตด้วยการพิมพ์ 3 มิติ
-
การออกแบบชิ้นส่วนให้ใช้วัสดุเฉพาะจุดที่จำเป็น
-
ยาง Michelin แบบพิเศษที่มีแรงต้านการหมุนต่ำ และช่วยเสริมอากาศพลศาสตร์
ความร่วมมือของทีมงานและพาร์ตเนอร์
การสร้างสถิติครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือของทีมวิศวกร นักออกแบบ Partner และนักขับของ Renault Group ได้แก่ Constance Léraud-Reyser, Laurent Hurgon (ผู้หญิง) และ Arthur Ferriere

พาร์ตเนอร์หลักคือ Ligier รับหน้าที่พัฒนาระบบขับเคลื่อน แชสซี และโครงสร้างคาร์บอน รวมถึง Michelin ที่ออกแบบยางเฉพาะสำหรับ Filante Record 2025
วันแห่งความสำเร็จที่โมร็อกโก
วันที่ 18 ธันวาคม ที่สนาม UTAC โมร็อกโก ทีมงานเริ่มเตรียมรถตั้งแต่เช้าตรู่ ภายใต้สภาพอากาศที่เหมาะสม อุณหภูมิต่ำ ลมสงบ และมีแดดตลอดวัน
ภารกิจคือการขับต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง วิ่งไปทั้ง 239 รอบสนาม ความยาวรอบละมากกว่า 4 กิโลเมตร นักขับทั้ง 3 คนผลัดกันขับเป็นช่วง ๆ จนภารกิจสำเร็จในช่วงค่ำ
ผลลัพธ์คือ Filante Record 2025 วิ่งได้ระยะทาง 1,008 กิโลเมตร ด้วยความเร็วเฉลี่ย 102 กม./ชม. โดยไม่แวะชาร์จไฟ ใช้พลังงานต่ำเพียง 7.8 kWh/100 กิโลเมตร และยังเหลือแบตเตอรี่ 11% เพียงพอสำหรับการขับต่อได้อีกประมาณ 120 กิโลเมตรที่ความเร็วมากกว่า 100 กม./ชม.

วิสัยทัศน์สู่รถไฟฟ้าแห่งอนาคต
Renault ระบุว่า ข้อมูลและเทคโนโลยีจาก Filante Record 2025 จะถูกนำไปต่อยอดในการพัฒนารถไฟฟ้ารุ่นผลิตจริง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานจริง โดยเฉพาะการขับขี่ทางไกลด้วยความเร็วสูง
Olivier Blanche ผู้จัดการโครงการรถต้นแบบ กล่าวว่า โครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงการทำลายสถิติ แต่คือการผจญภัยของทีมงาน ที่สะท้อนพลังของความร่วมมือและความมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตของรถไฟฟ้า
ที่มา : Renault
