ใน , ,

BYD Song Plus Champion Edition เปิดตัวอย่างเป็นทางการในจีน รุ่น EV ราคาเริ่มต้นที่ 8.24 แสนบาท (ราคาเปิดตัว ณ​ ประเทศจีน)

BYD Auto ประเทศจีน ประกาศเปิดตัว BYD Song Plus Champion Edition ซึ่งเปิดตัวพร้อมกัน มีทั้งรุ่นรถยนต์ไฟฟ้า 100% (EV) และรุ่นปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในรุ่น EV มีราคาเริ่มต้น 8.24 แสนบาท สำหรับระยะทาง 520 กม. และรุ่น PHEV มีราคาเริ่มต้น 7.75 แสนบาท สำหรับระยะทาง 110 กม. ในโหมดไฟฟ้าล้วน

BYD Song Plus Champion Edition เปิดตัวอย่างเป็นทางการในจีน รุ่น EV ราคาเริ่มต้นที่ 8.24 แสนบาท (ราคาเปิดตัว ณ​ ประเทศจีน)

BYD Song Plus Champion Edition เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดจีน เปิดตัวพร้อมกันในขุมพลัง 2 รูปแบบ ทั้งรถยนต์ไฟฟ้า 100% (EV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เป็นรุ่นปรับโฉมของ BYD Song Plus SUV ที่รู้จักกันดี ซึ่งเป็นหนึ่งใน SUV ที่ขายดีที่สุดเป็นเวลาหลายเดือนในประเทศจีน มาทำความรู้จักกับ BYD Song Plus Champion Edition กันครับ

ดีไซน์ภายนอก

การออกแบบภายนอกของรุ่นดังกล่าว ในส่วนด้านหน้าใช้ภาษาการออกแบบ Ocean X ทำให้ดูโดดเด่นมาก พร้อมไฟหน้าที่ใกล้เคียงกับ BYD Seal สำหรับส่วนหน้าในรุ่น EV จะมีกระจังหน้าแบบปิดทึบ ในขณะที่รุ่น PHEV มีช่องรับอากาศเข้าเพียงเล็กน้อย ทั้ง 2 รุ่น มีดีไซน์กันชนหน้าแบบสปอร์ตและไฟท้ายชุดเดียวกัน และใน 2 รุ่น มีขนาดต่างกันเพียงเล็กน้อย แต่มีระยะฐานล้อที่เท่ากัน อยู่ที่ 2,765 มม. ล้อขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/50 R19

  • BYD Song Plus EV Champion Edition : 4,785 x 1,890 x 1,660 มม.
  • BYD Song Plus DM-i (PHEV) Champion Edition : 4,775 x 1,890 x 1,670 มม.

ขุมพลัง

  • BYD Song Plus EV Champion Edition 

มีมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร และมีรุ่นที่ทรงพลังกว่าเล็กน้อย มี e-motor ให้กำลัง 218 แรงม้า และมาพร้อมแบตเตอรี่ Blade Battery 2 ความจุ ให้เลือก คือ 71.8 kWh และ 87.04 kWh สำหรับระยะทางที่วิ่งได้ 520 กม. และ 605 กม. ตามมาตรฐาน CLTC

รองรับการชาร์จ AC 7 kW

รองรับการชาร์จ DC Fast Charging สูงสุด 140 kW

  • BYD Song Plus DM-i (PHEV) Champion Edition

มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ให้กำลัง 110 แรงม้า และทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 197 แรงม้า ส่งผลให้มีกำลังรวม 307 แรงม้า มีแบตเตอรี่ 2 ความจุ ให้เลือก คือ 18.3 kWh และ 26.6 kWh สำหรับระยะทางที่วิ่งได้ 110 กม. และ 150 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

รองรับการชาร์จ AC สูงสุด 7 kW

รองรับการชาร์จ DC Fast Charging สูงสุด 18 kW

ดีไซน์ภายใน

ภายในมาพร้อมหน้าจอ infotainment แบบหมุนได้ขนาด 15.6 นิ้ว นอกจากนี้ยังมีแผงหน้าจอหลังพวงมาลัย ขนาด 12.3 นิ้ว และพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ส่วนคันเกียร์เป็นรูปทรงเพชร แบบเดียวกับที่อยู่ใน BYD Seal ภายในรถยังมีระบบเชื่อมต่อ DiLink และระบบปรับอากาศ มีตัวกรอง pm 2.5 แอร์แบบ 2 โซน ปรับอิสระแยกซ้าย-ขวา มีกระจกหลังคา Panoramic Sunroof

ฟีเจอร์เด่น

กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
ลำโพง Infinity 10 ลำโพง
ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย กำลังไฟ 15W
ฟังก์ชัน VTOL
กุญแจดิจิทัลแบบ NFC
ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ DiPilot
  • มีกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
  • ลำโพง Infinity 10 ลำโพง
  • ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย กำลังไฟ 15W
  • รองรับฟังก์ชัน Vehicle-to-load (VTOL) 3.3 kW
  • รองรับกุญแจดิจิทัลแบบ NFC
  • ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ DiPilot

ราคาในแต่ละรุ่นย่อย

  • BYD Song Plus EV Champion Edition ในรุ่นเริ่มต้นสำหรับระยะทาง 520 กม. มีให้เลือก 3 ระดับ มีราคาระหว่าง 169,800 – 189,800 หยวน (ประมาณ 8.24 – 9.20 แสนบาท) ในส่วนรุ่นท็อป จะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ สำหรับระยะทาง 605 กม. มีราคา 209,800 หยวน (ประมาณ 1.02 ล้านบาท)
  • BYD Song Plus DM-i (PHEV) Champion Edition มี 2 ระดับ ที่ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดเล็ก สำหรับระยะทาง 110 กม. มีราคาระหว่าง 159,800 – 169,800 หยวน (ประมาณ 7.75 – 8.24 แสนบาท) อีกรุ่นติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ สำหรับระยะทาง 150 กม. มีราคาระหว่าง 179,800 – 189,800 หยวน (ประมาณ 8.72 – 9.20 แสนบาท)

ที่มา – CarNewsChina และ BYD

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S