ใน ,

BYD Denza N7 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีน ด้วยราคาเริ่มต้น 301,800 หยวน (ประมาณ 1.46 ล้านบาท)

BYD Denza N7 รถยนต์ไฟฟ้าครอสโอเวอร์ระดับพรีเมียม เปิดราคาอย่างเป็นทางการ เป็นรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากมาย ดีไซน์ภายในหรูหราพรีเมียม โดยมีระยะทางที่วิ่งได้ 630 – 702 กม. ตามมาตรฐาน CLTC ราคาเริ่มต้นเพียง 1.46 ล้านบาท (ราคาเปิดตัวในประเทศจีน)

BYD Denza N7 เปิดราคาอย่างเป็นทางการในประเทศจีน ด้วยราคาเริ่มต้น 301,800 หยวน (ประมาณ 1.46 ล้านบาท)

ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2023 BYD ได้เปิดตัว N7 SUV อย่างเป็นทางการ ภายใต้แบรนด์ Denza มีการเปิดตัวทั้งหมด 6 รุ่นย่อย โดยมีช่วงราคาระหว่าง 301,800 – 379,800 หยวน (ประมาณ 1.46 – 1.84 ล้านบาท) คาดว่าจะเริ่มส่งมอบในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ โดยคาดว่าประมาณ 3,000 คัน จะส่งมอบในเดือนกรกฎาคม และประมาณ 6,000 คัน จะส่งมอบในเดือนสิงหาคม แต่ในวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา มียอดจองล่วงหน้าไปแล้วกว่า 20,000 คัน

ดีไซน์ภายนอก

BYD Denza N7 ใช้การออกแบบ π-MOTION ซึ่งแสดงถึงความเป็นวงกลมและความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด โดยมีการนำเสนอสไตล์ด้านหน้า 2 แบบ ให้ผู้บริโภคได้เลือก รุ่นดังกล่าววางเป็น SUV ขนาดกลาง โดยมีขนาดของตัวรถอยู่ที่ 4,860 x 1,935 x 1,602 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,940 มม. นอกจากนี้ ชุดแต่งไฮเอนด์ ยังติดตั้งเซ็นเซอร์รอบคัน 33 ตัว รวมถึง LiDAR เรดาร์ระดับคลื่นมิลลิเมตร ชิปประมวลผล NVIDIA Orin และกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จำนวน 2 ตัว ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว

ขุมพลัง

Denza N7 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 ของ BYD มีให้เลือกทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อ และมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อม Blade Battery ความจุ 91.392 kWh โดยจะวางแบตเตอรี่แบบ CTB (cell-to-body) และระบบ iTAC (Intelligence Torque Adaptation Control System – ระบบควบคุมการปรับแรงบิดอัจฉริยะ)

  • สำหรับรุ่นมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor รุ่น TZ200XYC ที่มีกำลังสูงสุด 230 kW แรงบิดรวมสูงสุด 360 นิวตันเมตร โดยมีระยะทางที่วิ่งได้ 702 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
  • สำหรับรุ่นมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้านหน้ามาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า AC Asynchronous motor และด้านหลังมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor ที่มีกำลังสูงสุด 160 kW และ 230 kW ตามลำดับ แรงบิดรวมสูงสุด 670 นิวตันเมตร โดยมีระยะทางที่วิ่งได้ 630 กม. ตามมาตรฐาน CLTC และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.9 วินาที

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ Dual-gun (ชาร์จแบบคู่) และตัวรถยังรองรับการชาร์จสูงสุด 230 kW เลยทีเดียว BYD ยังอ้างว่า สามารถชาร์จเพียง 15 นาที วิ่งได้ 350 กม. หรือชาร์จเพียง 4 นาที วิ่งได้ 100 กม.

  • รองรับการชาร์จ AC 7 kW
  • รองรับการชาร์จ DC 150 kW
  • ฟังก์ชันจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่น (V2L) 6 kW
  • ฟังก์ชันชาร์จไฟกับรถคันอื่น (V2V) 60 kW

ดีไซน์ภายใน

 

ภายในห้องโดยสารมาพร้อมหน้าจอทั้งหมด 6 หน้าจอ ได้แก่ หน้าจอแผงหน้าปัด LCD ขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจอฝั่งผู้โดยสาร (co-pilot) ขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจอ infotainment ที่มีความละเอียด 2.5K ขนาด 17.3 นิ้ว และจะเข้ากันได้กับ ระบบปฏิบัติการ Harmony OS ของ Huawei ในอนาคต นอกจาก 3 หน้าจอนี้แล้ว ยังมีหน้าจอ AR-HUD ขนาด 50 นิ้ว สำหรับความช่วยเหลือในการนำทาง และอีก 2 หน้าจอ จะเป็นหน้าจอแสดงตัวเลขของอุณหภูมิ ที่อยู่ข้างๆหน้าจอแผงหน้าปัดและหน้าฝั่งผู้โดยสาร เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa ระดับพรีเมียม และพื้นที่เก็บของด้านหน้าใต้ฝากระโปรง ขนาด 73 ลิตร สามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้

  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • เบาะนั่งด้านหน้ามีระบายอากาศ
  • เบาะนั่งด้านหน้ามีระบบอุ่นเบาะ
  • เบาะหลัง สามารถพับแบบ 40:60
  • ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) 128 สี
  • กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
  • พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน หุ้มด้วยหนัง Nappa ระดับพรีเมียม
  • ระบบทำความร้อนพวงมาลัย
  • พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
  • ระบบกรองอากาศ CN95 และ PM 2.5
  • เครื่องฟอกอากาศประจุไอออนลบ
  • พอร์ตชาร์จ USB-C กำลังไฟ 60W จำนวน 2 พอร์ต
  • พอร์ตชาร์จ USB-A กำลังไฟ 18W จำนวน 1 พอร์ต
  • รองรับการชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย กำลังไฟ 50W แบบคู่
  • ระบบเสียง Devialet 16 ลำโพง
  • พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ความจุ 480 ลิตร และ 1,200 ลิตร (เมื่อพับเบาะ)

ระบบช่วงล่าง

  • ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ ปีกนกคู่
  • ระบบช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบ 5-link
  • ดิสก์เบรกหน้า – หลัง พร้อมแผ่นระบายอากาศ
  • ด้านหน้ามาพร้อมคาลิปเปอร์เบรก 4 สูบ
  • จานเบรกแบบเจาะรู เพื่อระบายความร้อน

ราคา BYD Denza N7

  • Ultra Long Battery Life Version (Air Version) ราคา 301,800 หยวน (ประมาณ 1.46 ล้านบาท)
  • Long Battery Life Performance Version (Air Version) ราคา 321,800 หยวน (ประมาณ 1.56 ล้านบาท)
  • Ultra Long Battery Life Version ราคา 319,800 หยวน (ประมาณ 1.54 ล้านบาท)
  • Long Battery Life Performance Version ราคา 339,800 หยวน (ประมาณ 1.64 ล้านบาท)
  • Long Battery Life Performance Max Version ราคา 349,800 หยวน (ประมาณ 1.69 ล้านบาท)
  • N-Sport Version ราคา 379,800 หยวน (ประมาณ 1.84 ล้านบาท)

ที่มา – CarNewsChina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S