ใน

BYD Denza N7 มียอดสั่งซื้อกว่า 11,687 คัน ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเปิดจำหน่าย

BYD Denza N7 รถยนต์ไฟฟ้า 100% สไตล์ Coupé SUV มียอดสั่งซื้อกว่า 11,687 คัน ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเปิดจำหน่าย โดยมีราคาตั้งแต่ 301,800 – 379,800 หยวน (ประมาณ 1.46 – 1.84 ล้านบาท)

BYD Denza N7 มียอดสั่งซื้อกว่า 11,687 คัน ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเปิดจำหน่าย

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา Denza ได้เปิดตัว Denza N7 รถยนต์ไฟฟ้า 100% สไตล์ Coupé SUV อย่างเป็นทางการ และภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเปิดจำหน่าย มียอดสั่งซื้อกว่า 11,687 คัน

Denza เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ คือ BYD และ Mercedes-Benz ซึ่ง BYD จะถือหุ้น 90% และ Mercedes-Benz ถือหุ้น 10%

BYD Denza N7 SUV มีการเปิดตัวทั้งหมด 6 รุ่นย่อย โดยมีราคาตั้งแต่ 301,800 – 379,800 หยวน (ประมาณ 1.46 – 1.84 ล้านบาท) และคาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม

ดีไซน์ภายนอก

BYD Denza N7 ใช้การออกแบบ π-MOTION ซึ่งแสดงถึงความเป็นวงกลมและความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด โดยมีการนำเสนอสไตล์ด้านหน้า 2 สไตล์ ให้ผู้บริโภคได้เลือก รุ่นดังกล่าววางเป็น SUV ขนาดกลาง โดยมีขนาดของตัวรถอยู่ที่ 4,860 x 1,935 x 1,602 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,940 มม. นอกจากนี้ ชุดแต่งไฮเอนด์ จะติดตั้งเซ็นเซอร์รอบคัน 33 ตัว รวมถึง LiDAR เรดาร์ระดับคลื่นมิลลิเมตร ชิปประมวลผล NVIDIA Orin และกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จำนวน 2 ตัว

ขุมพลัง

Denza N7 สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 ที่ได้รับการอัปเกรดของ BYD ซึ่งมีเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น  ระบบแบตเตอรี่ที่มีการวางแบบ CTB (cell-to-body) และระบบ iTAC (Intelligence Torque Adaptation Control System – ระบบควบคุมการปรับแรงบิดอัจฉริยะ) โดยเป็นไฮไลท์ของ BYD

Denza N7 มาพร้อมระบบส่งกำลัง 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่ โดยทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดเดียวกัน คือ 91.932 kWh

  • สำหรับรุ่นมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อน 2 ล้อ มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor รุ่น TZ200XYC ที่มีกำลังสูงสุด 230 kW แรงบิดรวมสูงสุด 360 นิวตันเมตร โดยมีระยะทางที่วิ่งได้ 702 กม. ตามมาตรฐาน CLTC
  • สำหรับรุ่นมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้านหน้ามาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า AC Asynchronous motor และด้านหลังมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent magnet synchronous motor ที่มีกำลังสูงสุด 160 kW และ 230 kW ตามลำดับ กำลังรวมสูงสุด 390 kW แรงบิดรวมสูงสุด 670 นิวตันเมตร โดยมีระยะทางที่วิ่งได้ 630 กม. ตามมาตรฐาน CLTC และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 3.9 วินาที

การชาร์จแบบใหม่ของ Denza N7 จะรองรับการชาร์จพร้อมกันผ่าน 2 พอร์ต จากเครื่องชาร์จเครื่องเดียว และมีเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ Dual-gun (ชาร์จแบบคู่) ทำให้ตัวรถรองรับการชาร์จสูงสุด 230 kW และ BYD ยังอ้างว่า สามารถชาร์จเพียง 15 นาที วิ่งได้ 350 กม.หรือชาร์จเพียง 4 นาที วิ่งได้ 100 กม. เลยทีเดียว

  • รองรับการชาร์จ AC 7 kW
  • รองรับการชาร์จ DC 150 kW
  • ฟังก์ชันจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่น (V2L) 6 kW
  • ฟังก์ชันชาร์จไฟกับรถคันอื่น (V2V) 60 kW

ดีไซน์ภายใน

ภายในห้องโดยสารของ Denza N7 มีการปรับแต่งรูปแบบภายในได้มากกว่า 200 รูปแบบ เป็นมาตรฐาน รวมถึงระบบเครื่องเสียง Devialet และหน้าจอแสดงผล 6 หน้าจอ ประกอบด้วยหน้าจอแผงหน้าปัด LCD ขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจอฝั่งผู้โดยสาร (co-pilot) ขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจอ infotainment ที่มีความละเอียด 2.5K ขนาด 17.3 นิ้ว นอกจาก 3 หน้าจอนี้แล้ว ยังมีหน้าจอ AR-HUD (Augmented Reality-Head Up Display) ขนาด 50 นิ้ว สำหรับความช่วยเหลือในการนำทาง และอีก 2 หน้าจอ จะเป็นหน้าจอแสดงตัวเลขของอุณหภูมิ ที่อยู่ข้างๆหน้าจอแผงหน้าปัดและหน้าฝั่งผู้โดยสาร เบาะที่นั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa ระดับพรีเมียม และพื้นที่เก็บของด้านหน้าใต้ฝากระโปรง ขนาด 73 ลิตร สามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้

  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • เบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • เบาะนั่งด้านหน้ามีระบายอากาศ
  • เบาะนั่งด้านหน้ามีระบบอุ่นเบาะ
  • เบาะหลัง สามารถพับแบบ 60:40
  • ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร (Ambient Light) 128 สี
  • กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
  • พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน หุ้มด้วยหนัง Nappa ระดับพรีเมียม
  • ระบบทำความร้อนพวงมาลัย
  • พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
  • ระบบกรองอากาศ CN95 และ PM 2.5
  • เครื่องฟอกอากาศประจุไอออนลบ
  • พอร์ตชาร์จ USB-C กำลังไฟ 60W จำนวน 2 พอร์ต
  • พอร์ตชาร์จ USB-A กำลังไฟ 18W จำนวน 1 พอร์ต
  • รองรับการชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย กำลังไฟ 50W แบบคู่
  • ระบบเสียง Devialet 16 ลำโพง
  • พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ความจุ 480 ลิตร และ 1,200 ลิตร (เมื่อพับเบาะ)

SUV รุ่นต่อไปของ BYD คือ Denza N8

นอกจากนี้ BYD ได้ประกาศและเผยแพร่ภาพอย่างเป็นทางการของ Denza N8 ซึ่งเป็น SUV อีกรุ่นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Denza และในรุ่น Denza N8 มีความคล้ายกับ Denza N7 ที่มีไฟ Daytime Running Lights  รูปทรงคล้ายกัน ที่สะดุดตา และการออกแบบเพื่อลดแรงต้านอากาศ โดยรุ่นไฟฟ้า 100% จะมีกระจังหน้าแบบปิดทึบ และรุ่นปลั๊กอินไฮบริด จะมีกระจังหน้ารูปแบนเนอร์ ที่มีช่องรับลมเข้าไประบายอากาศให้กับเครื่องยนต์

ด้านหลังของ Denza N8 ไฟท้ายดีไซน์แบบ U-Shape แบบกลับหัว โดยความแตกต่างระหว่างรุ่นไฟฟ้า 100% และรุ่นปลั๊กอินไฮบริด มีเพียงเล็กน้อย และรุ่นต่อไปในอนาคตอาจโดดเด่นด้วยดีไซน์ส่วนท้ายรถที่ทันสมัยขึ้น มิติตัวรถของ Denza N8 มีขนาด 4,949 x 1,950 x 1,725 มม. ระยะฐานล้อ 2,830 มม.

ขุมพลัง

ระบบส่งกำลังของ Denza N8 มี 4 ตัวเลือก ดังนี้

  1. รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียวที่ล้อหน้า (FWD) ให้กำลังสูงสุด 230 kW 313 แรงม้า
  2. รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าให้กำลัง 230 kW และมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง 200 kW ทำให้มีกำลังรวมสูงสุด 430 kW 585 แรงม้า
  3. รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่มีกำลัง 102 kW 139 แรงม้า และทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 160 kW 218 แรงม้า
  4. รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า ที่มีกำลัง 160 kW และมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง ที่มีกำลัง 200 kW ทำให้มีกำลังรวม 360 kW

ดีไซน์ภายใน

ภายในห้องโดยสารมีความหรูหรามาก ด้วยเบาะที่นั่งและแผงประตูที่มีการผ่านกระบวนการออกแบบใหม่อย่างประณีต สร้างพื้นผิวเป็นรูป Diamond-Cut และมีไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารเพื่อเพิ่มความหรูหรา และเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ มีหน้าจอแผงหน้าปัดขนาดใหญ่ หน้าจอสัมผัส infotainment ขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย แผงประตูมีการบุนุ่มและมีขอบโลหะ ช่วยเพิ่มความรู้สึกที่หรูหราและให้รู้สึกถึง วัสดุ คุณภาพ ของตัวรถไว้อีกด้วย

สุดท้ายนี้ Denza เป็นแบรนด์รถยนต์ระดับไฮเอนด์ของ BYD เอง ทั้งในรุ่น Denza N7 และ Denza N8 ก็เป็นรถยนต์ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว ที่มีความหรูหรา พรีเมียมมาก รอติดตามต่อไปว่าในอนาคต ทาง BYD เองจะนำ Denza เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยหรือไม่

ที่มา – CarNewsChina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S