ใน

Honda ลงทุน 4 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการ ผลิตรถ EV เพื่อไล่ตามแบรนด์คู่แข่งให้ทัน

Honda ลงทุน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ เดินหน้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้วิ่งตามคู่แข่งให้ทัน ภายหลังได้จับมือกับทาง General Motors เพื่อผลิตรถ EV ทั้งรุ่น Honda Prologue และ Acura ZDX ที่จะเปิดตัวในปี 2024 นี้ พร้อมร่วมลงทุนกับ LG เพื่อผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง

Honda ลงทุน 4 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับการ ผลิตรถ EV เพื่อไล่ตามแบรนด์คู่แข่งให้ทัน

ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง Honda ที่เร่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าโดยลงทุนไปทั้งหมด 40,000 ล้านดอลลาร์จนถึงปี 2030 เพื่อทำยอดขายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ถึง 40 % ภายในทศวรรษนี้

ในขณะเดียวกัน Honda จะยังคงผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไป โดย CEO ของบริษัทได้กล่าวว่าจะผลิตรถยนต์สันดาปภายในไปจนถึงปี 2040 ซึ่งจะผลิตและพัฒนารถยนต์ที่ใช้งาน e-fuel หรือเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์แทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเหมือนในปัจจุบัน

ทั้งนี้ผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์รถดังกล่าวเสริมว่า ทาง Honda กำลังศึกษาความเป็นไปได้ถึงหัวข้อต่าง ๆ ตั้งแต่การผลิตเครื่องชาร์จรถ EV ไปจนถึงยานพาหนะทางอากาศ หรือแม้แต่เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์คาร์บอนต่ำที่สามารถทำใช้ได้กับ รถเครื่องยนต์สันดาปให้สามารถใช้งานได้อย่างน้อยใน 10-20 ปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถสมรรถนะสูง รถบรรทุกขนาดใหญ่ รวมไปถึงเครื่องบินอีกด้วย

เมื่อเทียบกับรถยี่ห้ออื่นในตลาดรถไฟฟ้าแล้ว Honda นั้นได้ก้าวเข้าสู่วงการนี้ช้าไปหน่อย โดยแบรนด์นี้มีเพียงรถรุ่นเดียวที่เป็น รถ Full-Electric อย่าง Honda E รถแฮทช์แบคขนาดเล็กที่เปิดจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ดี Honda ก็จับมือกับ General Motors เพื่อนำผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ 2 รุ่นในตลาดสหรัฐฯ ได้แก่รุ่น Honda Prologue และ Acura ZDX ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะเปิดตัวในปี 2024

Honda Prologue 2024
Acura ZDX 2024

Honda มีแผนที่จะพัฒนาสถาปัตยกรรมรถ EV ซึ่งทาง CEO ของ Honda ได้ยืนยันแล้วว่ารถรุ่นนี้จะเปิดตัวในปี 2026 ในทวีปอเมริกาเหนือ ตรงกันข้ามกับรถที่กำลังเปิดตัวอย่าง Honda Prologue ครอสโอเวอร์ขนาดกลางที่ใช้แบตเตอรีชนิด Ultium Battery

ในอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าจากทาง Honda จะใช้ชุดแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งบางส่วนได้จับมือร่วมกับบริษัท LG ซึ่งมีมูลค่าถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 120 ล้านบาท) ในเมืองเจฟเฟอร์สันวิลล์ รัฐโอไฮโอ เริ่มในปี 2025

ที่มา – insideevs

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Thanakrit Kongpon