ใน

Mercedes-Benz ทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้น 600% ในไตรมาสที่ 2 ในสหรัฐอเมริกา

ถึงแม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในสหรัฐอเมริกาหลายรายมียอดขายลดลงจากไตรมาสแรก แต่ยอดขายของผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์หรูสัญชาติเยอรมันอย่าง Mercedes-Benz กลับสวนทาง เติบโตขึ้นถึง 600% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

Mercedes-Benz ทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้น 600% ในไตรมาสที่ 2 ในสหรัฐอเมริกา

Mercedes-Benz รายงานยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไตรมาสที่ 2 ปี 2023 ทำยอดขายได้ 11,927 คัน เพิ่มขึ้น 608% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อนหน้า ในไตรมาสแรกของปี 2023 ขายได้ 7,341 คัน รวมแล้วบริษัททำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ทั้งหมด 19,268 คันในครึ่งแรกของปี 2023

นอกจากนี้ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของ Mercedes-Benz ในไตรมาสที่ 2 นี้ยังคิดเป็น 15% ของยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาด้วย

ปัจจุบัน Mercedes-Benz วางจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ 5 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ EQS ซีดาน, EQS SUV, EQB, EQE ซีดาน และ EQE SUV โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น EQS SUV เป็นรถรุ่นที่สร้างยอดขายได้มากที่สุด ด้วยจำนวน 3,077 คัน ในขณะที่รุ่น EQS ซีดาน ทำยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 25% โดยขายได้ 2,456 คันในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา

Mercedes-Benz ได้บุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยรถยนต์ระดับไฮเอนด์อย่าง EQS SUV และ EQE SUV ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าใหม่ ๆ จึงทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้นในครึ่งปีแรกนี้ และเมื่อไม่นานมานี้บริษัทก็ได้ประกาศร่วมใช้หัวชาร์จ NACS ของ Tesla จึงอาจจะช่วยให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-Benz เข้าถึงสถานีชาร์จสะดวกมากขึ้น และอาจจะช่วยผลักดันยอดขายรถในอนาคตได้อีกด้วย

ยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ Mercedes-Benz ในไตรมาสที่ 2 นี้ สวนทางกับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกันอย่าง Ford และ General Motor ที่มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าลดลงจากไตรมาสที่ 1 โดย General Motor ทำยอดขายได้ 15,652  คันในไตรมาสที่ 2 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ขายได้ 19,700 คัน

ส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Ford ลดลงประมาณ 2.8% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ทำยอดขายในไตรมาสที่ 2 ได้ 14,843 คัน ลดลงจากไตรมาสแรกที่ทำยอดขายได้ 15,273 คัน ยอดขายยังคงตามหลัง GM, Hyundai และ Kia ที่เป็นคู่แข่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา

ที่มา electrek

แสดงความคิดเห็น

คุณคิดอย่างไร?

เขียนโดย Sakura P.

Roewe D7 มอเตอร์คู่ไฮบริด ของ SAIC เป็นรถยนต์ซีดาน ปลั๊กอินไฮบริด รุ่นใหม่ ที่วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 1,400 กม.

Toyota และ Stellantis ยื่นร้องเรียนกฎการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดขึ้นจาก EPA ที่ระบุให้ยอดขายรถยนต์ EV เป็น 60% ในปี 2030