ใน , ,

NETA เปิดตัว HOZON Intelligent Technology 2.0 เทคโลยีอัจฉริยะขั้นสูง พัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร

NETA ได้เปิดตัว 5 เทคโนโลยีหลักภายใต้ HOZON Intelligent Technology Brand 2.0 โดยเน้นการวิจัยและพัฒนา ร่วมกับการต่อยอดสายการผลิตอัจฉริยะ มุ่งขับเคลื่อนเทคโนโลยีแห่งอนาคตและวางรากฐานอันแข็งแกร่งด้านการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าเพื่อผลักดันไปสู่การพัฒนาระดับโลก พร้อมปูทางให้กับ NETA มุ่งสู่ความเป็นสุดยอดผู้นำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต

NETA เปิดตัว HOZON Intelligent Technology 2.0 เทคโลยีอัจฉริยะขั้นสูง พัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา NETA ประกาศกลยุทธ์ HOZON Intelligent Strategy 2025 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า โดยสาธิต ‘HOZON Intelligent Technology 2.0’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ทรงพลังที่สุดในประเทศจีน พร้อมเปิดตัว 5 เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ ได้แก่

  1. HOZON Super-Computer
  2. HOZON Skateboard Chassis
  3. HOZON Electric Drive System
  4. HOZON Extended Range
  5. HOZON Thermal Control

โดย NETA จะเริ่มการผลิตของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม HOZON Intelligent Technology ในสายการผลิตอัจฉริยะในเดือนกันยายนนี้

ในงานเปิดตัว Mr. Dai Dali ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ NETA เผยว่า NETA คือแบรนด์ที่มุ่งสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรม เรามุ่งมั่นสรรค์สร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อทุกคนและได้รับการยอมรับจากผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 320,000 คนทั่วโลก NETA มิได้จินตนาการถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตเท่านั้น แต่มุ่งมั่นเปลี่ยนวิสัยทัศน์ดังกล่าวให้กลายเป็นเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้

NETA สร้างประสบการณ์เหนือระดับ ด้วย 5 เทคโนโลยีขั้นสูงครอบคลุมห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
5 ผลิตภัณฑ์หลักในกลุ่ม HOZON Intelligent Technology 2.0 โดย NETA จะเริ่มการผลิตของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม HOZON Intelligent Technology

โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะขั้นสูงอันทรงประสิทธิภาพ มาพร้อมความกลมกลืน สมรรถนะที่โดดเด่น และความสะดวกสบายเหนือระดับ รวมเป็นความได้เปรียบด้านความอเนกประสงค์ ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มยานยนต์ไฟฟ้าของ NETA เช่น NETA S, NETA GT, NETA U, NETA AYA รวมถึงรถรุ่นต่อไปอีกด้วย

NETA วางแผนเปิดตัวผลวิจัยและพัฒนา HOZON Intelligent Technology 2.0 ในภาคอุตสาหกรรมเพื่อส่งมอบบริการด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงแก่เหล่าพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมแสดงศักยภาพการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลักอันแข็งแกร่งและฐานการผลิตอัจฉริยะ ตลอดจนวิสัยทัศน์และมุ่งเน้นความร่วมมือเพื่อสร้างมรดกทางเทคโนโลยีสำหรับระบบนิเวศรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับโลก

เรามาชมกันว่า 5 เทคโนโลยีภายใต้ HOZON Intelligent Technology 2.0 มีหน้าที่อะไรและขับเคลื่อนส่วนใดของรถยนต์ไฟฟ้าบ้าง

1. เทคโนโลยี HOZON Super-Computer

HOZON Super-Computer คอมพิวเตอร์อัจฉริยะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า พัฒนาโดยทีมวิศวกรของ NETA โดยใช้สถาปัตยกรรมด้านอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้า และพัฒนาจากแพลตฟอร์ม Shan-Hai โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะพร้อมความสามารถในการบูรณาการขั้นสูง มีความปลอดภัยสูง ขนาดเล็ก และปรับเข้ากับแพลตฟอร์มรุ่นต่าง ๆ ได้ยืดหยุ่น

HOZON Super-Computer เปรียบเสมือนสมองอัจฉริยะภายในยานพาหนะที่สามารถรองรับการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างก้าวกระโดด และยังเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ NETA ที่ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวทำให้ NETA ได้เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งเทคโนโลยีอัจฉริยะให้กับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า

Mr. Wang Ye จาก NETA กล่าวว่า สถาปัตยกรรมและระบบมุ่งเน้นบริการแบบ Central+Zonal ร่วมกับสถาปัตยกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์และข้อมูล (Electronic and Electrical Information Architecture – EEI) ของ HOZON Super-Computer ทำให้การปรับแต่งฟังก์ชันยานพาหนะยืดหยุ่นยิ่งขึ้นและแบ่งปันข้อมูลผู้ใช้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด รังสรรค์ยานยนต์อัจฉริยะที่มาพร้อมระบบควบคุมแบบวงปิดไปยังคลาวด์ให้กับผู้ใช้หลายพันครัวเรือน

HOZON Super-Computer มาพร้อมระบบควบคุมโดเมนเกตเวย์แบบครบวงจรเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม โดยรวมฟังก์ชันหลักเจ็ดอย่างไว้ในเครื่องเดียว เช่น การควบคุมเกตเวย์อัจฉริยะ การควบคุมการใช้พลังงาน การจัดการพลังงาน และระบบวิเคราะห์อัจฉริยะ

ทั้งนี้ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ควบคุมโดเมนกลางที่เสริมศักยภาพการบูรณาการ และการประมวลผลจากส่วนกลางของฟังก์ชันหลัก 10 ประการให้กับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น ระบบการนำทางความเร็วสูง, การจดจำการเข้าจอด, ระบบนำทางในเขตเมือง, การควบคุมเกตเวย์อัจฉริยะ และการจัดการพลังงาน

สมองส่วนกลางของ HOZON Super-Computer มาพร้อมโพรเซสเซอร์ที่มีกำลังการคำนวณจาก AI แบบมีศักยภาพการคำนวณสูงกว่าล้านล้านรอบต่อวินาที และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลระดับสูงสุดที่ 1 เทราไบต์ (TB) รวมถึง Regional Controller พร้อมสถาปัตยกรรมระบบมุ่งเน้นบริการ SOA มากกว่า 500 อินเทอร์เฟซ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีความอัจฉริยะที่เหนือกว่า โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งและออกแบบฟังก์ชันของยานพาหนะตามความต้องการ และสามารถอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดผ่านการอัปเกรดได้

2. เทคโนโลยี HOZON Skateboard Chassis

HOZON Skateboard Chassis เป็นเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำอันดับที่ 2 ที่เปิดตัวในงาน โดยเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้กับยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นทั่วโลก มาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่น เช่น ประสิทธิภาพสูง แข็งแรงทนทาน รองรับ C-rate สูง การพัฒนาแบบแยกส่วนของโครงสร้างตัวถังทั้งช่วงบนและส่วนล่าง ผสานกับซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมากถึง 20 เท่า ลดพื้นที่การผลิตลง 50% และลดการใช้ทรัพยากรในการวิจัยและพัฒนาลง 30% ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงและประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้น

เมื่อผสานการทำงานร่วมกับ HOZON Super-Computer มอเตอร์แบบอะซิงโครนัส มอเตอร์ไฟฟ้าชนิดซิงโครนัสแบบใช้แม่เหล็กถาวรซิลิคอนคาร์ไบด์ (SiC) และเทคโนโลยีการติดตั้งแบตเตอรี่บนตัวถัง (Cell to Chassis – CTC) ผ่านกระบวนการออกแบบ die-cast และอัดรีดอะลูมิเนียมอัลลอย ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าผสานรวมกับโครงสร้างตัวถังอย่างลงตัว ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน และขยายพื้นที่เก็บสัมภาระ เพิ่มความแข็งแรงและความแม่นยำในการติดตั้งระดับนาโน ผลลัพธ์ที่ได้คือสมรรถนะที่เพิ่มขึ้นรวมไปถึงประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลายและศักยภาพการขับขี่อัจฉริยะที่เหนือระดับ

Mr. Wang Aiguo กล่าวว่า HOZON Skateboard Chassis ใช้แพลตฟอร์มข้อมูลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ Tianshu ที่พัฒนาโดย NETA ทำให้ผู้ขับขี่ประหยัดเวลาในการวิเคราะห์สถานการณ์ โดยตรวจสอบปัญหาของแพลตฟอร์มและประเมินประสิทธิภาพของแบตเตอรี่อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังทำให้แชสซีและแบตเตอรี่ทำงานผสานกันแบบไร้รอยต่อ ส่งผลให้ NETA บรรลุเป้าหมาย “เทคโนโลยีสำหรับทุกคน ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

3. เทคโนโลยี HOZON Electric Drive

HOZON Electric Drive ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสมรรถนะสูงซึ่งเปรียบเสมือนเป็น “หัวใจ” และ “กล้ามเนื้อ” ที่แข็งแกร่งของยานยนต์อัจฉริยะจาก NETAระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าถูกแบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 180 กิโลวัตต์ 400 โวลต์ และระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 250 กิโลวัตต์ 800 โวลต์ แบบ SiC ซึ่งมาพร้อมคุณลักษณะสำคัญ 4 ประการคือ “ประสิทธิภาพสูง ระยะทางในการขับขี่ที่ไกลขึ้น มอบความสบายเหนือระดับ และระบบที่เสถียร”

ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสมรรถนะสูง HOZON Electric Drive มอบอัตราเร่งที่เหนือกว่า ขับขี่ได้ไกลขึ้น มาพร้อมความสะดวกสบายรวมถึงเสถียรภาพในการขับขี่ มอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จอีกต่อไป

จุดเด่นของ HOZON Electric Drive คือสามอุปกรณ์สำคัญที่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ได้แก่ มอเตอร์ รีดิวเซอร์ และอินเวอร์เตอร์ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์พร้อมนวัตกรรมแฮร์พินระบายความร้อนด้วยน้ำมัน และเกียร์ที่ได้รับการพัฒนาให้มีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง รวมถึงเทคโนโลยีอัลกอริทึมสเปซเวกเตอร์ใหม่ และระบบฉนวนที่ได้รับอัปเกรดให้มีเสถียรภาพมากขึ้น

นอกจากนี้โครงสร้างระบบยังได้รับการออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น และยกระดับ Noise, Vibration and Harshness (NVH) ของรถยนต์ โดย HOZON Electric Drive มาพร้อมซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่รองรับการใช้งานได้ทั้งแบบ 400 โวลต์ และ 800 โวลต์ นั่นหมายความว่าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถขับขี่ได้ไกลกว่า 200 กิโลเมตรหลังจากชาร์จไฟเพียง 5 นาทีเท่านั้น

ระบบ HOZON Electric Drive รองรับการชาร์จภายในที่อยู่อาศัยและจุดชาร์จสาธารณะอย่างลงตัว ผู้ขับขี่สามารถเลือกแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับการชาร์จได้อย่างง่ายดาย เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานไปอีกขั้น

Mr. Gao Hua ผู้แทนจาก NETA เปิดเผยว่า ทีมงานของเราที่ NETA วิเคราะห์ ปรับปรุง และทดสอบ ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งระบบและชิ้นส่วนอย่างละเอียด เราได้ดำเนินการทดสอบก่อนติดตั้งในศูนย์ทดสอบภายใต้สภาวะแวดล้อม ควบคุมเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มการผลิต HOZON Electric Drive ในเดือนตุลาคม และเรามั่นใจว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการครั้งนี้จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

4. เทคโนโลยี HOZON Range Extender

HOZON Range Extender อัจฉริยะทรงประสิทธิภาพ พร้อมค่า NVH ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือชั้น คุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของ HOZON Range Extender คือเครื่องยนต์แบบ Atkinson ที่มีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่า สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้า 3.26 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) โดยใช้น้ำมันเบนซินเพียง 1 ลิตร

HOZON Range Extender ได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับสมรรถนะไปอีกขั้น เช่น ลดระยะห่างแบริ่งในระบบเพลาข้อเหวี่ยง เพิ่มการเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและเครื่องยนต์ และการทำงานผสานระหว่างล้อตุนกำลังกับโรเตอร์ การออกแบบเหล่านี้ส่งผลให้ HOZON Range Extender มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาลง และช่วยลดเสียงรบกวนจากเฟืองเกียร์ HOZON Range Extender มีระดับเสียงเพียง 78.9 เดซิเบลขณะทำงานที่ 2,500 รอบต่อนาที

นอกจากนี้อัลกอริทึมอัจฉริยะสำหรับควบคุม HOZON Range Extender และการควบคุมยานยนต์ที่พัฒนาขึ้นจากสถานการณ์จำลองระหว่างมนุษย์ – ยานยนต์ – ถนน ช่วยรังสรรค์ผลิตภัณฑ์อัจฉริยะที่ประหยัดพลังงานพร้อมมอบความคุ้มค่าและประสบการณ์การใช้งานเหนือระดับ โดยไม่กระทบต่อความสะดวกสบายและระยะทางการขับขี่

Mr. Chen Lingping จาก NETA สรุปว่า HOZON ได้เริ่มผลิต Range Extender รุ่นแรกไปแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนารุ่นต่อไป ซึ่งจะมีฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น ฟีเจอร์เด่นอย่างหนึ่งของ Range Extender เจเนอเรชันใหม่คือระบบควบคุมอัจฉริยะแบบบูรณาการระหว่างมนุษย์ – ยานยนต์ – และถนน ซึ่งจะประสานการทำงานระหว่างระบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกฟีเจอร์หนึ่งคือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการแปลงพลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไฟฟ้าสูงสุดถึง 3.4 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อลิตร และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปราศจากเสียงรบกวน โดยมีระดับเสียงเพียง 75 เดซิเบลเท่านั้น

5. HOZON Thermal Control

HOZON Thermal Control ออกแบบมาเพื่อมอบความอุ่นสบายในห้องโดยสารทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานเพื่อคงสมรรถนะการขับขี่ระยะไกลในช่วงฤดูหนาวได้เป็นอย่างดี ระบบควบคุมอุณหภูมิ HOZON Thermal Control โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Heat Pump ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าเครื่องทำความร้อนทั่วไป และได้รับการทดสอบขีดความสามารถการใช้งานในสภาวะสุดโหด HOZON Thermal Control ใช้พลังงานในการทำความร้อนเพียง 800 วัตต์ เพิ่มระยะการขับขี่ในช่วงฤดูหนาวได้สูงถึง 20% ทั้งยังลดการสิ้นเปลืองพลังงาน มอบความมั่นใจตลอดการขับขี่ในช่วงฤดูหนาว

นอกจากนี้ HOZON Thermal Control ยังทนทานต่อการใช้งานในอุณหภูมิสุดขั้ว สามารถทำงานในอุณหภูมิต่ำสุดถึง -35 องศาเซลเซียส และปั๊มคามร้อนทำงานได้ในอุณหภูมิต่ำสุดถึง -20 องศาเซลเซียส ดังนั้น HOZON Thermal Control ยังทำงานได้ตามปกติ ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองร้อนแบบตูร์ปัน หรือเมืองหนาวสุดขั้วอย่างโม่เหอ ผู้ขับขี่จึงพร้อมเดินทางไปทุกพื้นที่โดยปราศจากข้อจำกัด และอุ่นใจตลอดเส้นทาง

Mr. Su Keye จาก NETA กล่าวถึงแผนการพัฒนา HOZON Thermal Control System ดังนี้

  • ระยะแรก: เริ่มการผลิต HOZON Thermal Control System 1.0 ในปีนี้ ระบบ HOZON Thermal Control System มาพร้อมเทคโนโลยีปั๊มความร้อนอุณหภูมิต่ำแบบคู่ ชาร์จแบตเตอรี่เต็มที่ 100% ในเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง
  • ระยะที่สอง: วิจัยและพัฒนา HOZON Thermal Control System 2.0 ที่มาพร้อมปั๊มความร้อนโดยตรง และเทคโนโลยีบายพาสแก๊สร้อนจากคอมเพรสเซอร์และอัลกอริทึมควบคุมอัจฉริยะ เพื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มที่ 100% ได้ภายใน 15 นาที
  • ระยะที่สาม: วางแผนพัฒนา HOZON Thermal Control System 3.0 ที่มาพร้อมสารทำความเย็นใหม่ เพื่อก้าวสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมด้านการบูรณาการระบบ ประสิทธิภาพการทำงาน และการขยายช่วงอุณหภูมิ”

HOZON ยกระดับมาตรฐานการผลิตด้วยโรงงานอัจฉริยะ

เพื่อเร่งกระบวนการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์อัจฉริยะสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า HOZON Intelligent Technology Brand 2.0 NETA ได้ตั้งบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ HOZON Intelligent Technology เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีชิ้นส่วนรถยนต์พลังงานสะอาด ตอกย้ำความสำเร็จแบบก้าวกระโดดของ NETA ด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรม รวมถึงการวิจัยและพัฒนา และการผลิตครบวงจร

HOZON Intelligent Technology ใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีกำหนดทิศทางและวางแผนกลยุทธ์ครอบคลุมห่วงโซ่อุตสาหกรรม ด้วยผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและสร้างความแข็งแกร่งให้กับอีโคซิสเต็มยานยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ HOZON Super-Computer, HOZON Skateboard Chassis, HOZON Electric Drive System, HOZON Extended Range และ HOZON Thermal Control

ในปัจจุบัน HOZON Intelligent Technology ได้สร้างสายการผลิตอัจฉริยะ ที่มีกำลังการผลิตอุปกรณ์ควบคุมโดเมน 100,000 ชุดต่อปี, โฮซอน เอ็กซ์เทนดิด เรนจ์ 150,000 ชุดต่อปี ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า 150,000 ชุดต่อปี ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ 150,000 ชุดต่อปี และระบบควบคุมอุณหภูมิ โฮซอน เทอร์มัล คอนโทรล 300,000 ชุดต่อปี

หลังการเปิดสายการผลิตอัจฉริยะ HOZON Intelligent Technology ในเดือนกันยายน นายไต้ ต้าลี่ เผยว่า NETA มุ่งเน้นการดำเนินงานสองด้าน “วางแผนพัฒนาและต่อยอดการผลิต พร้อมกับเน้นความร่วมมือแบบเปิดกว้าง” โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะเพื่อรับประกันคุณภาพและประสิทธิภาพในการผลิตเพื่อเร่งนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์ของ NETA และผลักดัน HOZON Intelligent Technology Brand 2.0 ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด

ที่มา NETA

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sakura P.