ใน

Smart #1 SUV SubCompact รุ่นปี 2024 เปิดตัวรุ่นใหม่ 2 รุ่น วิ่งได้ระยะทาง 535-560 กม. ราคาเริ่มต้น 9.90 แสนบาท

ดีไซน์ภาพรวมทั้งคันของ Smart #1 SUV รุ่นปี 2024 ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่มีการเพิ่มรุ่นย่อยเข้ามา 2 รุ่นย่อย ที่มีราคาลดลงประมาณ 46,000 – 94,500 บาท เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

Smart #1 SUV SubCompact รุ่นปี 2024 เปิดตัวรุ่นใหม่ 2 รุ่น วิ่งได้ระยะทาง 535-560 กม. ราคาเริ่มต้น 9.90 แสนบาท

Smart #1 เป็นรถ SUV SubCompact ไฟฟ้า 100% ปี 2024 เปิดตัวรุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Pro+ ราคา 199,900 หยวน (ประมาณ 9.90 แสนบาท) และ รุ่น Premium ราคา 225,900 หยวน (ประมาณ 1.11 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ราคาของรุ่นปี 2024 มีราคาลดลง 9,300 – 19,100 หยวน (ประมาณ 46,000 – 94,500 บาท)

ดีไซน์ภายนอก

  • มิติตัวรถ 4,270 x 1,822 x 1,636 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,750 มม.

Smart #1 ยังคงออกแบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้า ด้วยไฟหน้า LED ดีไซน์เป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ไฟท้ายทรงสามเหลี่ยม LED แบบเชื่อมกันทั้งสองฝั่ง หลังคาตัวรถ ยังมีราวหลังคามาให้ด้วย มือจับประตูแบบซ่อนไปกับตัวรถ และขอบประตูแบบไร้กรอบ

รุ่น Pro+ มาพร้อมล้อขนาด 18 นิ้ว และรุ่น Premium มาพร้อมล้อขนาด 19 นิ้ว

ขุมพลัง

Smart #1 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว ขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ให้กำลัง 200 kW และแรงบิด 343 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 6.7 วินาที นอกจากนี้ ทั้งรุ่น Pro+ และ Premium มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium ternary ความจุ 66 kWh เท่ากัน ในรุ่น Pro+ จะวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 535 กม. ตามมาตรฐาน CLTC ในขณะที่รุ่น Premium จะวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 560 กม. ตามมาตรฐาน CLTC ตัวรถรองรับการชาร์จเร็ว DC จาก 30-80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที และรองรับการชาร์จ AC ใช้เวลา 7.5 ชั่วโมง

ดีไซน์ภายใน

การออกแบบภายในยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ด้วยคอนโซลหน้าเชื่อมต่อกับคอนโซลกลางเป็นรูปตัว T มีหน้าจอกลางแบบสัมผัส infotainment ขนาด 12.8 นิ้ว ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ทรงท้ายตัด มีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 9.2 นิ้ว ภายในมีแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย และที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง ถูกซ่อนเก็บไว้ โดยมีฝาครอบปิดไว้แบบเรียบร้อย

 

นอกจากนี้ ตัวรถยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงระดับ 2 การอัปเดตตัวรถผ่านระบบ OTA (over-the-air) เบาะคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า และฝาปิดท้ายด้วยระบบไฟฟ้า

รุ่น Premium ที่แพงกว่า ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่มากกว่า รวมถึงฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง เช่น การตรวจสอบความล้าของผู้ขับขี่, ระบบช่วยเปลี่ยนเลน, ระบบน้ำหอมอัตโนมัติ, ระบบเสียงจาก Beats, เบาะหนัง, เบาะด้านหน้าระบบอุ่นเบาะ และจอแสดงผลแบบ HUD (head-up display)

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย มีความจุ 323 ลิตร และสามารถขยายได้สูงสุด 986 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลังลง)

ที่มา – CarNewsChina

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S