ใน , ,

Nissan ประกาศใช้หัวชาร์จ NACS ของ Tesla อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2025

Tesla และ Nissan ได้บรรลุข้อตกลงที่จะเห็นผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นใช้หัวชาร์จ NACS ของ Tesla และทําให้ผู้ขับขี่ EV เข้าถึงสถานี Supercharger ของ Tesla ที่มีอยู่กว่า 12,000 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ได้ในปีหน้า

Nissan ประกาศใช้หัวชาร์จ NACS ของ Tesla อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ปี 2025

Nissan แบรนด์จากแดนปลาดิบ เป็นรายล่าสุดที่เข้าร่วมมาใช้หัวชาร์จ NACS ของ Tesla ที่สามารถเข้าไปชาร์จในสถานี Tesla Supercharger ทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2024 ถึงปี 2025 ยังคงใช้อะแดปเตอร์ NACS อยู่ และต่อมาในปี 2025 ทาง Nissan จะติดตั้งพอร์ต NACS ให้กับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ทุกรุ่น หมายความว่าผู้ใช้จะสามารถนำรถยนต์ Nissan เข้าไปชาร์จในสถานี Tesla Supercharger ได้โดยไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์ ให้ความสะดวกมากขึ้น

Ford เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่รายแรก ที่ใช้หัวชาร์จ NACS ในข้อตกลงกับ Tesla เมื่อต้นฤดูร้อนที่ผ่านมา และ GM (General Motors) ก็เป็นรายต่อจาก Ford ที่เข้าร่วม และผู้ผลิตรถยนต์ EV อีกหลายรายก็เข้าร่วมเช่นกัน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ สามารถเข้าถึงสถานี Tesla Supercharger เป็นเครือข่ายที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

Jérémie Papin ประธาน Nissan Americas

Jérémie Papin ประธาน Nissan Americas กล่าวว่า “ การนำหัวชาร์จมาตรฐาน NACS มาใช้ เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Nissan ในการทำให้การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น เมื่อเราปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ระยะยาวของ Nissan Ambition 2030 ในการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มากขึ้น และเรายินดีที่จะให้การเข้าถึงสถานีชาร์จที่รวดเร็วยิ่งขึ้นอีกหลายพันเครื่องสําหรับผู้ขับขี่ Nissan EV เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความสะดวกสบาย เมื่อวางแผนการเดินทางไกล ”

เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน มีผู้ผลิตรถยนต์จํานวนมากประกาศว่าพวกเขาจะใช้หัวชาร์จมาตรฐาน NACS ในอเมริกาเหนือ โดยแบรนด์ที่เป็นส่วนหนึ่งของการจับมือกับ Tesla นี้ ได้แก่ Ford, GM, Rivian, Volvo, Polestar และ Mercedes-Benz ในขณะที่ Stellantis, Hyundai และ Volkswagen กําลังพิจารณาและเจรจามาตรฐานการชาร์จ NACS ของ Tesla

บริษัทที่ใช้หัวชาร์จ NACS ของ Tesla

เครือข่าย Supercharger ของ Tesla ได้พิสูจน์แล้วว่า มีความเชื่อถือได้มากกว่าบริษัทอื่นๆ อย่างมาก ด้วยการใช้เวลาเพียงเล็กน้อยและใช้งานง่าย จนถึงตอนนี้ มันมีประโยชน์มาก เหลือเพียงแค่ต้องเข้ากันได้กับรถยนต์และซอฟต์แวร์ของผู้ผลิตรถยนต์รายเดียว ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่จะสูญเสียไปอย่างรวดเร็วในปี 2025

การเคลื่อนไหวดังกล่าวสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาวของ Nissan Ambition 2030 ซึ่งตั้งเป้าไว้ที่อย่างน้อย 40% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหรัฐฯ ให้เป็นไฟฟ้าเต็มรูปแบบภายในปี 2030

ที่มา – CarScoops และ teslarati

แสดงความคิดเห็น

เขียนโดย Sahakrit S