พบเห็นรถยนต์ซีดาน Mercedes-Benz CLA เวอร์ชันไฟฟ้า (EV) พรางตัววิ่งทดสอบบนท้องถนน คาดว่าเป็นการทดสอบขั้นสุดท้ายก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือนกันยายนนี้
Mercedes-Benz CLA เวอร์ชันไฟฟ้า (EV) ทดสอบขั้นสุดท้าย
เตรียมเผยโฉมคันจริงต้นเดือนกันยายนนี้
Mercedes-Benz CLA EV ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นของแบรนด์ จากภาพ Spyshot ที่รถกำลังวิ่งทดสอบอยู่นั้น ถึงแม้จะพรางตัวคลุมด้วยสติกเกอร์ทั่วทั้งตัวรถ แต่ก็พอเห็นรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเหมือนกับ CLA เวอร์ชันน้ำมัน
ในฐานะที่ Mercedes-Benz CLA EV เป็นรถระดับเริ่มต้นที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในบรรดารถไฟฟ้าของแบรนด์และยังเป็นคู่แข่งกับ Tesla Model 3 จึงคาดหวังว่ารถจะวิ่งได้ไกลกว่า 400 ไมล์ (643 กม.)
รถที่นำมาวิ่งทดสอบนี้น่าจะเป็นเวอร์ชันผลิตจริง โดย CLA EV นี้จะได้รับการออกแบบที่หรูหรา สปอร์ต และใช้เทคโนโลยีขั้นสูงของ CLA ซึ่งทาง Mercedes กล่าวว่ารถรุ่นนี้จะเป็นตัวแทนของ วิสัยทัศน์สำหรับนวัตกรรม การออกแบบ และประสบการณ์ดิจิทัลระดับแนวหน้า จากคำกล่าวนี้เป็นไปได้ว่าแบรนด์จะเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ รวมถึงมาพร้อมเทคโนโลยีจากแนวคิด Vision EQXX ด้วย
ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าชื่อของรถไฟฟ้ารุ่นเริ่มต้นจะเรียกว่า EQA แต่ Mercedes จะยกเลิกการใช้ชื่อ EQ แล้ว เนื่องจากการผลิตจะเปลี่ยนผ่านไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด แหล่งข่าวได้รายงานกับ Automotive News ช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า Mercedes จะเปิดตัวรถรุ่น CLA ซีดานไฟฟ้าและรุ่น GLC รถครอสโอเวอร์ไฟฟ้า คาดว่าจะมีการตั้งชื่อรุ่นใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า
Mercedes-Benz CLA EV จะเผยโฉมตัวจริงในงาน IAA Mobility ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 5 กันยายนนี้ ที่เมืองมิวนิค เยอรมนี โดยรถไฟฟ้าระดับเริ่มต้นนี้จะเป็นไฮไลท์ของงาน คาดว่าจะเรียกความสนใจจากแฟน ๆ Mercedes ได้ค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ จะมีการแสดงรถ SUV ไฟฟ้า EQA, EQB และรถมินิแวนไฟฟ้า EQV ใหม่ รวมถึงเทคโนโลยี VISION EQXX และ Vision One-Eleven และจะมีการจัดแสดงระบบนิเวศการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์ให้ชมกันอีกด้วย
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ Mercedes-Benz นั้น เน้นการขายเพื่อเพิ่มอัตรากำไรมากกว่าปริมาณ เนื่องจากเป็นแบรนด์ระดับไฮเอนด์ที่ให้ความหรูหราและมีช่วงกำไรสูง ซึ่งยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาโตขึ้นกว่า 600% ในช่วงไตรมาสที่ 2 คิดเป็น 15% ของยอดขายรถทั้งหมด หลังจากวางจำหน่าย Mercedes-Benz CLA เวอร์ชันไฟฟ้าแล้ว เป็นไปได้ว่ารถคันนี้อาจจะทำให้รายได้ของแบรนด์เติบโตขึ้นไปอีก
ที่มา electrek